บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action BUY (Maintain)
TP upside (downside) +29.9%
Close May 19, 2023 Price (THB) 187.50
12M Target (THB) 243.60
Previous Target (THB) 232.00
What’s new?
- STANLY รายงานกําไร 4Q65/66 ที่ 565 ล้านบาท +50%QoQ, +3%YoY ดีกว่าประมาณการของเรา 16% จากอัตราทําไรที่ดีกว่าคาด โดยรายได้ ฟื้นตัวดีตามอุตสาหกรรม และต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง
- เราปรับประมาณการกำไรปี 2565/66 ขึ้น 4% สะท้อนแนวโน้มผลประกอบการที่ฟื้นตัวดีกว่าคาด
- แนวโน้มปี 2566/67 คาดฟื้นตัวดีต่อเนื่องตามอุตสาหกรรม และพร้อมรุกธุรกิจ EV
Our view
- เราแนะนำ “ซื้อ” เราคาดกำไรยังเติบโตดีต่อเนื่องในปี 2566/67 ด้านสถานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash ไม่มีภาระหนี้สิน ซึ่งบริษัทประกาศจ่ายผันผลปี 2565/66 ถึง 20 บาท Yield 10.7% เราปรับมูลค่าพื้นฐานใน ปี 2556/67 จากเดิมที่ 232 บาท เป็น 246.9 บาท สะท้อนการปรับประมาณการ อิง PER เฉลี่ย 5 ปีที่ 10%
THAI STANLEY ELECTRIC กำไร 4Q65/66 ฟื้นดีกว่าคาด และจ่ายปันผลพิเศษ
คาดกำไร 4Q65/66 ฟื้นตัว QoQ, YoY
STANLY รายงานกำไรงวดปี 2565/66 ที่ 1746 ล้านบาท (สิ้นสุด มี.ค.66) ที่ +15%YoY ดีกว่าประมาณการของเรา 5% ขณะที่กำไรสุทธิใน 4Q65/66 (สิ้นสุด มี.ค.66) ที่ 565 ล้านบาท +50%QoQ, +19%YoY ดีกว่าประมาณการของเรา 16% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาด ซึ่งรายได้เติบโตตามอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ ขณะที่ประสิทธิภาพในการทำกำไรเริ่มดีขึ้น โดยมีสาระสำคัญดังนี้ 1) บริษัทมียอดขายเติบโต 11%QoQ และ5%YoY เป็น 4,012 ล้านบาท เทียบ QoQ เติบโตดีเนื่องจากเข้า high season ที่ค่ายรถยนต์มีการเร่งผลิตรับงานมอเตอร์โชว์ ในเดือน มี.ค. โดยเฉพาะจากลูกค้ารายใหญ่ฮอนด้า ที่มีการออกโมเดลใหม่หลายรุ่น ขณะที่เทียบ YoY เติบโตจากตลาดส่งออกเริ่มฟื้นตัวหลังจากสถานการณ์ขาดแคลนชิฟในอุตสาหกรรมยานยนต์คลี่คลายลง 2) ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น QoQ และ YoY ตามยอดขายที่ฟื้นตัว และราคาวัตถุดิบเม็ดพลาสติก ที่ปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก โดย EBITDA Margin ดีขึ้นจาก 3Q65/66 ที่ 18.3% และ 4Q64/65 ที่ 20.6% เป็น 21.1%
ปรับเพิ่มประมาณการกำไร
ด้วยผลประกอบการ 4Q65/66 ที่ฟื้นตัวดีกว่าที่คาดไว้ ทำให้เราปรับเพิ่มประมาณกำไรสุทธิปี 2565/66 เพิ่มจากเดิม 4% เป็น 1,867 ล้านบาท (+7%YoY) จากการปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มจาก 18.3% เป็น 18.9% และปรับลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลง 0.9% แนวโน้มปี 2566/67 เราคาดกำไรจะฟื้นตัวต่อเนื่อง 7%YoY เป็น 1,867 ล้านบาท ซึ่งสมมติฐานยอดผลิตรถยนต์ของอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 4% เป็น 1.95 ล้านคันซึ่งทาง STANLY ได้รับคำสั่งซื้อเพิ่ม สำหรับสินค้า หลอดไฟทั้งไฟหน้า-ไฟท้าย ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล, รถมอเตอร์ไซค์, และรถกระบะ รวมถึงโมเดลใหม่ที่เป็นคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ด้านอัตรากำไรดีขึ้นหลังราคาวัตถุดิบหลักหลายตัวปรับลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก
คงคำแนะนำ “ซื้อ” กำไรฟื้นตัวดี และจ่ายปันผลสูง
เรามองว่าผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และในปี 2566/67 คาดยังเติบโตตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรม ขณะที่ระยะยาวเรามองการเข้ามาของ EV เป็นวัฏจักรการเติบโตรอบใหม่ของบริษัท ด้านสถานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash ไม่มีภาระหนี้สิน เราปรับมูลค่าพื้นฐานในปี 2566/67 จากเดิมที่ 232.0 บาท เป็น 243.6 บาท สะท้อนการปรับประมาณการกำไร อิง PER เฉลี่ย 5 ปีที่ 10x นอกจากนี้บริษัทประกาศจ่ายปันผลงวดปี 2565/66 ที่ 20 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 93.74% ของกำไร ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าปกติ ที่จ่ายราว 40-45% ของกำไร เนื่องจากเป็นการฉลองครบรอบ 40 ปี ของการก่อตั้งบริษัท ซึ่งคิดเป็น Dividend Yield 10.7% จากราคาปัจจุบัน โดยขึ้น XD วันที่ 4 ก.ค.2566