Daily View

อาจต้องกลับมาพิจารณาการเคลื่อนไหวของเงินบาทอีกครั้ง หลังพบสัญญาณการแข็งค่ารุนแรงวานนี้ อาจเป็นไปได้ว่าเกิดจาก (1) การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐจากการรายงาน PMI ภาคผลิต และภาคบริการที่ต่ำกว่าตลาดคาด (2) กระทรวงพาณิชย์รายงานดุลการค้าเป็นบวก 183 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3) COVID-19 ภายในประเทศมีสัญญาณบวกจากการที่ยอดผู้ติดเชื้อเริ่มชะลอตัวลง และรักษาหายต่อวันสูงกว่า ประกอบกับเริ่มมีความคืบหน้าในการเปิดประเทศ ซึ่งอาจทำให้ในระยะถัดไปมีเม็ดเงินไหลเข้ามาจากการท่องเที่ยว ส่งผลให้ดุลบัญชีเดินสะพัดที่ติดลบมีแนวโน้มจะเริ่มพลิกกลับมาเป็นบวก สำหรับผลกระทบจะกระทบเชิงลบต่อกลุ่มส่งออก (ASIAN HANA KCE TU) แนะช่วงสั้นหลีกเลี่ยง อย่างไรก็ตามมีผลบวก คือ จูงใจให้ต่างชาติเข้าซื้อสุทธิในตลาดหุ้น สอดคล้องกับ 2 วันที่ผ่านมาที่ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิรวมกัน 4.1 พันล้านบาท

สำหรับแนวโน้ม SET เชื่อว่าจะเริ่มกลับมาแกว่งหาฐานใหม่ หลังปรับตัวขึ้นรับปัจจัยบวกเรื่องของจำนวนผู้ติดเชื้อที่ชะลอตัวลงไปแล้ว รวมไปถึงกลุ่ม Domestic ก็เชื่อว่าช่วงสั้นจะเริ่มกลับเข้าสู่การแกว่งออกข้าง ประกอบกับทั่วโลกมีปัจจัยรอคอยคือการประชุม Jackson Hole ที่จะเริ่มต้นประชุมในวันพรุ่งนี้ มองกรอบวันนี้ 1580 – 1590 กลยุทธ์การลงทุนแนะนักลงทุนสายเก็งกำไรทยอยทำกำไรในกลุ่มส่งออก (ASIAN HANA KCE TU) หลังปรับตัวขึ้นมาแรงในช่วงที่ผ่านมา กอรปนกับค่าเงินบาทที่เริ่มแข็งค่า ส่วนหุ้นระยะสั้นมองไปยังกลุ่มน้ำมัน (PTT PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) ตามปัจจัยบวกราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น 3.4% รวมไปถึงแนวโน้มกำไรในครึ่งปีหลังยังเติบโตได้เด่นต่อเนื่อง (CBG EPG JWD MINT SAPPE WICE))

Stock Pick

EPG (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 15 บาท) คาดผลประกอบการใน FY2Q22 เติบโต YoY ต่อเนื่อง หนุนโดยรายได้กลุ่มยานยนต์ และฉนวนกันความร้อนที่เติบโตตามอุปสงค์ในอเมริกาที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังการเปิดเมือง

WICE (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 14.30 บาท) คาดผลประกอบการในครึ่งหลังของปีจะยังโต YoY แข็งแกร่งต่อเนื่อง หนุนโดยรายได้ในทุกภาคส่วนที่เติบโตตามอุปสงค์การส่งออกสินค้าที่ยังสูงโดยเฉพาะไปอเมริกา ประกอบกับค่าบริการขนส่งทางเรื่อยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง หลังได้อานิสงส์จากอุปทานเรือที่ขาดแคลน

- Advertisement -