ปัจจัยเด่นเดียวที่โดดเดี่ยว / 1,520-1,540
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาดดัชนี SET วันนี้แกว่ง Sideways: โดยมองภาคเช้าจะปรับบวกขึ้นก่อน แต่มีโอกาสย่อลงระหว่างวัน เบื้องต้น ตลาดได้แรงหนุนจาก 1) การซ้อนซื้อหุ้นต่อเนื่องจากวานนี้ ซึ่งสะท้อนภาพพื้นฐานของบริษัทจดทะเบียนหลายบริษัทยังแข็งแกร่ง 2) การตอบรับถ้อยแถลงของการลงนาม 8 พรรคร่วมรัฐบาล ที่นำโดยพรรคก้าวไกลหลังตลาดปิดทำการเมื่อวานนี้ ถึงเงื่อนไข MOU ที่ได้ตกลงกับนโยบายแต่ละพรรคการเมือง ซึ่งสะท้อนถึงท่าทีที่ประนีประนอม ไม่สุดโต่งทางการเมือง ทำให้ทางฝ่ายมองเป็นสัญญาณลดความขัดแย้ง และเป็นพัฒนาการเชิงบวกต่อการจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ยังไม่ผ่านขั้นตอนการโหวตของ สว. ทั้ง 250 เสียง การเมืองในประเทศอาจมีโอกาสพลิกมากดดันดัชนี SET ได้อีกครั้ง และยังมีความกังวลต่อโอกาสที่ สว. ส่วนใหญ่จะไม่โหวตเห็นด้วย นอกจากนี้แรงหนุนตลาดยังมาจาก 3) การเจรจาเพดานหนี้ แม้ยังไม่ได้ข้อสรุป แต่มีความคืบหน้าเชิงบวก ขณะที่มองแรงกดดันต่อตลาดยังมาจาก 1) ถ้อยแถลงของ ปธ.เฟดสาขา สะท้อนโอกาสที่เฟดจะคงดอกเบี้ยชั่วคราว สอดคล้องกับ CME Fedwatch tool ให้น้ำหนักไปทางคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.00-5.25% ในรอบประชุม 14 มิ.ย. นี้ แต่ยังเปิดโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในครั้งถัดๆ ไป และ 2) ต่างชาติที่ยังเดินหน้าขายหุ้นไทยต่อเนื่องกว่า 8.2 หมื่นล้านบาท (YTD) สอดคล้องกับค่าเงินบาทที่อยู่ในทิศทางอ่อนค่า นอกจากนี้นลท.ยังเฝ้าติดตามรายงานตัวเลขศก. สัปดาห์นี้มีรายงาน CPI อังกฤษ ในคืนวันพุธ, วันพฤหัสบดี GDP สหรัฐ หากฟื้นตัวได้จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้น
- กลยุทธ์ลงทุน 1) หุ้นพื้นฐานดี P/BV ต่ำ: BBL, BCPG, KBANK, PTT, SIRI 2) ค่าเงินบาทอ่อน: DELTA, HANA, ITC MINT, TU 3) หุ้น Defensive: ADVANC, BCH, BDMS และ 4) Selective: AEONTS, AOT, BA, GULF
ปัจจัยบวก
- Xinhua รายงานว่ากระทรวงวัฒนธรรมและท่องเที่ยวจีน ออก ม.กระตุ้นภาคท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อต้อนรับวัน National Tourism ที่จะถึงวันที่ 26 พ.ค. นี้
- สภาพัฒน์เผย 1Q66 อัตราว่างงานไทยดีขึ้นอยู่ที่ 1.05% ซึ่งเข้าสู่ระดับปกติ และแรงงานได้ค่าจ้างเพิ่มจากสภาวะ ศก.ที่ฟื้นตัว ส่วนหนี้ครัวเรือนชะลอตัวสู่ 87% ของ GDP
- BOI เผยคําขอรับการส่งเสริมการลงทุน 1Q66 มีมูลค่า 1.86 แสน ลบ. (+77%y-y) จากสถานการณ์โค้วิดที่ คลี่คลาย และการย้ายฐานเพื่อเลี่ยงปัญหาภูมิรัฐศาสตร์
ปัจจัยลบ
- Financial Times รายงานว่าผลกำไรของธนาคารจากฝั่งตะวันตก 7 แห่ง รวมถึง Goldman Sachs ที่เข้าดาเนินธุรกิจในจีน ปรับตัวลงหนักในปี 2565 จาก บ.ล็อก ดาวน์, ความตึงเครียดูภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งคาดต้องใช้เวลา หลายปีถึงจะสามารถฟื้นตัวได้
- Goldman Sachs คาด หากสหรัฐไม่สามารถเพิ่มเพดาน หนี้ได้ภายใน 1 มิ.ย. จะทําให้วันที่ 8-9 มิ.ย. ก.คลังสหรัฐมีเงินสดต่ำกว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์
PICKS OF THE DAY
ITC BUY
- เป้าหมาย 24.00 / 25.00 แนวรับ 22.50 / 22.90
- บาทอ่อน: จากบาทอ่อนค่าในช่วงนี้ หุ้นส่งออกจะได้ประโยชน์จากรายได้ในรูปเงินบาทที่เพิ่มขึ้นและอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น
- ITC ราคาหุ้นคุ้มค่า: ITC ส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยง 100%, ขายในยุโรปและอเมริการวมกว่า 64% ของรายได้, คาด 2Q66 ฟื้นตัว เริ่มมีคำสั่งซื้อกลับมา และจะสามารถเร่งปริมาณขายได้อีกใน 2H66 จากการขยายไป ในจีน สหรัฐ ฝรั่งเศสและญี่ปุ่น ซึ่งถ้าคำสั่งซื้อเริ่มกลับมาบวกกับการปริมาณขายที่เติบโตขึ้น ราคาหุ้นในปัจจุบันถือว่าคุ้มค่า เนื่องจาก PE ระดับ 17.4 เท่า อยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง
MINT BUY
- เป้าหมาย 34.00 / 35.00 แนวรับ 32.25 / 32.75
- คาดผลการดำเนินงาน 2Q66 โดดเด่น: หลังได้แรงบวกจากการเข้าสู่ High Season ของกลุ่มโรงแรง NH Hotel Group หนุน Demand ในยุโรปฟื้นตัวแข็งแกร่ง โดยตัวเลขเดือน เม.ย. 66 ล่าสุดมี Occ.Rate อยู่ที่ 70% ซึ่งคาดช่วยลดทอนธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย และมัลดีฟส์ที่เข้าสู่ช่วง Low Season ของการท่องเที่ยว
- บาทอ่อนช่วยหนุน: ทางฝ่ายคาดMINT ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ช่วยหนุนอำนาจซื้อของทั้งต่างชาติที่เข้าท่องเที่ยวในไทย รวมทั้งโอกาสรับรู้ส่วนต่างอัตราแลกเปลี่ยนจากผลการดำเนินงานในต่างประเทศ