ยังคลุมเคลือ / 1,525-1,550

มุมมองตลาดหุ้นวันนี้

  • ยังคลุมเคลือ: ทางฝ่ายคาด SET Index เช้านี้มีโอกาสแกว่งตัวแดนลบ ท่ามกลางปัจจัยต่างประเทศที่กดดันตลาด แม้ระหว่างวันจะมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน ได้แก่ การส่งสัญญาณโทนบวกจาก FOMC Minutes ในเรื่องของความจําเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ลดน้อยลง และมองการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมล่าสุดเมื่อวันที่ 2-3 พ.ค. 66 ที่ผ่านมาอาจเป็นรอบสุดท้ายก็ตาม ทั้งนี้ปัจจัยลบที่กดดันตลาด ได้แก่ 1) การเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ที่ยังไม่มีข้อสรุป หลังทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ยอมรับข้อเสนอที่แต่ละฝ่ายเรียกร้อง ส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลว่า เส้นตายของการผิดนัดชำระหนี้ที่ถูกกำหนดไว้วันที่ 1 มิ.ย. 66 อาจเกิดขึ้น และจะทำให้เกิดความหายนะต่อ ศก. สหรัฐฯ ตลอดจนลามไปเศรษฐกิจทั่วโลก อีกทั้งล่าสุด Fitch Rating ยังปรับลดมุมมองเป็น “เชิงลบ” จากประเด็นนี้ และ 2) ความกังวลเศรษฐกิจยุโรปถดถอย จากตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ทั้งในส่วนของอังกฤษจากการรายงานตัวเลข CPI และ Core CPI เดือน เม.ย. 66 ที่ขยายตัวกว่าสูงกว่าคาด โดยเฉพาะ Core CPI ที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 31 ปี และเยอรมนีจากการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ประจำเดือน พ.ค. 66 ที่ลดลงมาอยู่ที่ 88.6 จุด จากเดือน เม.ย. 66 ที่ 91.7 จุด ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาล อย่างไรก็ดี ด้วยทิศทางราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น ซึ่งดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน จากสัดส่วนน้ำหนักในตลาดค่อนข้างมาก และแนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่า มองหนุนหุ้นส่งออก คาดจะช่วยลดช่วงลบของการเคลื่อนไหวให้แก่ SET Index ได้
  • กลยุทธ์ลงทุน 1) เก็งหุ้นเข้าคำนวณ MSCI และ FTSE: BTG, ICHI, MAKRO, SAPPE, SISB, SVI, TIDLOR, TU 2) หุ้นพื้นฐานดีราคาถูก: BBL, BCPG, KBANK, KTB, PTT 3) ค่าเงินบาทอ่อนค่า: AAI, HANA, TU 4) Spending + Selective: AMATA, AP, CPALL, GULF, MAJOR, TLI, WHA

ปัจจัยบวก

  • จากปัญหาการขาดแคลนชิปและการระบาดของโควิด-19 ที่คลี่คลายลง ได้หนุนยอดผลิตและยอดส่งออกรถยนต์ เดือน เม.ย. 66 ส่วนใหญ่ปรับเพิ่มขึ้น y-y จากฐานที่ต่ำ โดยเฉพาะยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 43.53% y-y มาอยู่ที่ 79,940 คัน ทั้งนี้ ส.อ.ท. ยังคงเป้ายอดการผลิตรถยนต์ปี 66 นี้ ที่ 1.95 ล้านคัน
  • ไทย – UAE เดินหน้าเจรจา CEPA รอบแรก เล็งปิดจบดีลใน 6 เดือน มั่นใจช่วยเพิ่ม GDP และส่งออกไทยขยายตัว ทั้งนี้ UAE เป็นคู่ค้าอันดับที่ 6 ของไทยในตลาดโลก และเป็นอันดับที่ 1 ในตะวันออกกลาง ในปี 2565

ปัจจัยลบ

  • อังกฤษเปิดเผยตัวเลข Headline CPI เดือน เม.ย. 66 ขยายตัว 8.7% แม้ลดลงจากการขยายตัว 10.1% ใน เดือน มี.ค. 66 แต่ยังสูงกว่าตลาดคาดที่ขยายตัว 8.2% นอกจากนี้ตัวเลข Core CPI เดือน เม.ย. 66 ยังขยายตัวต่อ 6.8% y-y จากเดือนก่อนหน้าที่ขยายตัว 6.2% y-y
  • จับตาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนระลอกใหม่ คาดมีแนวโน้มว่ากำลังจะพุ่งสูงขึ้นจนไปแตะในระดับสูงสุด พร้อมกับทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในแต่ละสัปดาห์มากถึง 65 ล้านรายภายในเดือน มิ.ย. 66 นี้

PICKS OF THE DAY

MAJOR BUY

  • เป้าหมาย 15.80 / 16.20 แนวรับ 14.50 / 14.80
  • หนังดี รายได้มา: ปกติ 2Q66 เป็น high season ของธุรกิจ จะมีหนังใหญ่เข้าฉายหลายเรื่อง ซึ่ง Fast10 เข้า 5 วัน ทำรายได้ box office ที่ 168 ลบ., Guardians 3 ที่ 164 ลบ. จะตามด้วย Little Mermaid, Spider Man (ภาคการ์ตูน), Transformers, The Flash, Indiana Jones 5 ทำให้ 2Q66น่าจะเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปีนี้
  • มีกำไรพิเศษขาย MPIC และ 2H66 ดีต่อเนื่อง: MAJOR ได้แจ้ง Timelineขาย MPIC น่าจะบันทึกกำไรพิเศษหลังภาษี 520 ลบ. ได้ใน 2Q66 และอาจมีปันผลพิเศษ อีกทั้ง 2H66 หนังใหญ่ ทยอยเข้า 8 เรื่อง และจะ Relaunch ป๊อบคอร์นขายใน 7-11 อีกครั้ง เร่งยอดขายจากป๊อบคอร์นเพิ่มขึ้น
MAKRO BUY
  • เป้าหมาย 40.75 / 42.00 แนวรับ 38.50 / 39.00
  • ขานรับไปกับภาพเศรษฐกิจฟื้นตัว: ทางฝ่ายมองบวกต่อผลดำเนินงาน MAKRO คาดโตรับ ศก .ฟื้นตัวหนุนธุรกิจค้าส่ง (MAKRO) และค้าปลีก (Lotus’s) มียอดขายดีขึ้น ควบคู่กับแผนขยายสาขาที่จะเปิดเพิ่มขึ้นในปีนี้ทั้งฝั่ง MAKRO และ Lotus’s อีกทั้ง ยังมีแรงหนุนจากยอดขายผ่านช่องทาง Omni-Channel ที่จะดี หลังปรับปรุงประสิทธิภาพในส่วนของ Application และการกระจายสินค้า ขณะที่ต้นทุนทางการเงินคาดจะเห็นการลดลงช่วง 2H66 เป็นต้นไปหลังเสร็จสิ้นการปรับโครงสร้างหนี้แล้ว
  • ขานรับข่าวเข้า MSCI: จากการถูกคัดเลือกเข้าคำนวณในดัชนี MSCI ทางฝ่ายคาดมีแรงเก็งกำไรช่วงสั้นจากแรงเข้าซื้อหลังจะมีผลบังคับใช้ราคาปิดวันที่ 31 พ.ค. 66 นี้

 

- Advertisement -