บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
Star Petroleum Refining (SPRC TB) กำไรเดินหน้าฟื้นตัว
ปัจจัยหนุนราคาหุ้นอยู่ที่การพลิกกลับมามีกำไร
เราเริ่มต้นบทวิเคราะห์หุ้น SPRC ด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายอิง DCF ที่ 12.40 บาท เรามองว่าหุ้น SPRC ถูกลงโทษไปแล้ว จากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหล ซึ่งนำไปสู่การตั้งสำรองที่สูงลิ่วสำหรับการทำความสะอาดและชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงต้นทุนการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เราคาดว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขภายในสิ้นปี 66 และจะกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ นอกจากนี้ เรายังคาดอีกว่าการซื้อธุรกิจเชื้อเพลิงของเชฟรอนในประเทศไทยจะช่วยหนุนกำไรให้เพิ่มขึ้น โดยประเมินว่ากำไรจะเติบโต 38% YoY ในปี 67
การดำเนินงานยังถูกกดดัน คาดจะดีขึ้นในปี 67
SPRC ยังคงเดินหน้าแก้ปัญหาผลกระทบจากน้ำมันดิบรั่วไหลอยู่ แม้ว่าจะมีการตั้งสำรอง สำหรับการทำความสะอาดและชดเชยความเสียหาย ตอนนี้บริษัทฯ ต้องใช้การขนส่งแบบเรือต่อเรือ เพื่อขนถ่ายน้ำมันดิบไปยังโรงกลั่น ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง ส่งผลต้นทุนการขนส่งน้ำมันดิบเพิ่มเป็นสองเท่าจากประมาณ 2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลเป็น 4 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะแก้ไขปัญหาได้ภายในสิ้นปี 66 และกลับไปใช้ทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยว กลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) สำหรับการขนถ่ายน้ำมันดิบ ซึ่งจะช่วยให้ SPRC รับรู้ค่าการกลั่นเพิ่มขึ้น 2 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ดีลซื้อกิจการของคาลเท็กซ์จะหนุนการเติบโตในปี 2567
เรามีมุมมองบวกต่อการที่ SPRC เข้าซื้อธุรกิจค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง และจัดจำหน่ายของเชฟรอนในประเทศไทย โดย SPRC จะเข้าซื้อกิจการสถานีภายใต้แบรนด์คาลเท็กซ์ รวมถึงถือหุ้นในท่อส่งน้ำมันและบริษัทบริการเชื้อเพลิงการบิน (BAFS TB, CP THB31.75) ดีลนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มกำไรเท่านั้น (เราประเมินกำไรเพิ่ม 7-8% ในปี 67-68) แต่ยังสร้างกระแสรายได้ที่มีความผันผวนน้อยลงด้วย นอกจากนี้ เรายังมองว่าราคาซื้อเหมาะสมแล้ว ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 10 เท่าของรายได้เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี ราคาหุ้นอยู่ในจุดที่น่าสนใจ มองในแง่ของ P/BV ราคาหุ้น SPRC แพงสุดในบรรดาโรงกลั่นของไทย แต่ก็มีเลเวอเรจที่น้อยที่สุด โดยที่ P/BV ปี 67 ที่ 0.9 เท่า หุ้น SPRC ซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 1.3 เท่า และต่ำกว่าระดับสูงสุดในช่วงที่เป็นขาขึ้นที่เกือบ 2.0 เท่า ปัจจัยที่จะหนุนราคาให้ขึ้นต่อ ได้แก่ การพลิกกลับมามีกำไรของบริษัทฯ