บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):
Non-bank sector เริ่มต้นปีแบบอืดๆ แต่มีบางบริษัททำได้ดี
Event
สรุปผลประกอบการ
Impact
กำไรใน 1Q66 โตในอัตราที่ชะลอลง
ผลประกอบการใน 1Q66 ของบริษัท non-bank ส่วนใหญ่ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ (โดยเฉพาะ MTC SAWAD SINGER) เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงในการบริหารจัดการหนี้เสีย และ margin ถูกบีบ นอกจากนี้ ผลกำไรโดยรวมใน 1Q66 (ไม่รวม SINGER) ยังเพิ่มขึ้นเพียง 3% QoQ และ 1% YoY โดยกำไรใน 1Q66 คิดเป็น 24% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา ซึ่งเมื่อแยกเป็นรายบริษัท กำไรของ KTC ยังคงเติบโตอย่างสม่ำเสมอในระดับปานกลาง ในขณะที่ของ TIDLOR เติบโตอย่างแข็งแกร่งจากรายได้ค่าธรรมเนียม ส่วนของ MTC ยังคงถูกกดดันจาก yield ที่ถูกบีบ และต้นทุนที่เกี่ยวกับการเคลียหนี้เสีย ในขณะเดียวกัน กำไรของบริษัทขนาดเล็กๆ โตในอัตราที่สูงจากฐานกำไรที่ต่ำใน 1Q65 อย่างไรก็ตาม คุณภาพสินทรัพย์ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผลประกอบการของ SINGER
การแข่งขัน และโครงสร้างสินเชื่อกดดันยีลด์ลด และทำให้มารจิ้นแคบลง
บริษัท non-bank ทุกแห่งเลือกคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เอาไว้เท่าเดิมที่ประมาณ 16%-20% (ต่ำกว่าเพดานที่ 24%) โดย MTC คิดดอกเบี้ยในขอบล่างของช่วงดังกล่าว นอกจากนี้ เนื่องจากมีความเสี่ยงจาก NPL สูง บริษัทจึงลดการปล่อยสินเชื่อแบบมีหลักประกันที่ความเสี่ยงสูง ซึ่งได้แก่ Nanofinance ทั้งนี้ yield สินเชื่อปกติลดลงเล็กน้อยทั้ง QoQ และ YoY แต่ของ SAWAD ลดลงมากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม เพราะกฎเกณฑ์ทางการกดสินเชื่อมอเตอร์ไซค์เอาไว้ ส่วนพอร์ตสินเชื่อปรับโครงสร้างก็ทำให้สินเชื่อของ SINGER ลดลงอย่างมาก ในขณะเดียวกัน ต้นทุนทางการเงินขยับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย (แต่ของบริษัทขนาดเล็กเพิ่มขึ้นอย่างมาก) ซึ่งฉุดให้มาร์จิ้นลดลงไปอีก สำหรับในระยะต่อไป ทุกบริษัทคาดว่าต้นทุนทางการเงินจะสูงที่ประมาณ 40-50bps ในช่วงที่เหลือของปี แต่ยีลด์สินเชื่อเงินกู้จะยังเท่าเดิม
NPL และ credit cost เพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลง
การที่ NPL เพิ่มขึ้นอย่างมากใน 4Q65 ทำให้โมเมนตัมการเติบโตชะลอตัวลงใน 1Q66 เพราะมีการใช้นโยบายเชิงรุกเพื่อกระตุ้นให้พนักงานตามเก็บหนี้ผิดนัดชำระหนี้ให้ได้ก่อนที่จะกลายเป็น NPL ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่บอกว่า NPL มาจากลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก COVID ทำให้ไม่สามารถชำระคืนหนี้ได้ เหมือนในภาวะปกติ และต้องใช้เวลานานขึ้นในการบริหารจัดการ NPL ก้อนนี้ด้วยการ write off หนี้เสีย และขายออกไป ซึ่งจะทำให้ credit cost ยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องใน 3Q66 เพื่อเคลียหนี้เสียออกจากงบดุล
Risks NPL เพิ่มขึ้นทำให้ คชจ.สำรองฯ (credit cost) เพิ่มขึ้น