แกว่งตัวออกข้าง รอติดตามปัจจัยสำคัญ 1585-1610

ตลาดหุ้นวันนี้

  • แกว่งตัวออกข้างรอติดตามปัจจัยสำคัญ: วันนี้คาดตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวออกข้าง ด้วยความผันผวนในกรอบระหว่าง 1585-1610 จุด ระหว่างรอความชัดเจนจาก 2 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ 1) การพิจารณาผ่อนคลายกิจการกิจกรรมตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอต่อศบค. ชุดใหญ่ ในกลุ่มเสี่ยงต่ำระยะที่ 1 (1 ก.ย. 64) และ 2) ถ้อยแถลงของนายเจอโรมพาวเวลล์ประธาน Fed ในการประชุมประจำปีที่เมือง Jackson Hole คืนนี้ โดยเฉพาะประเด็นการทำ QE Tapering และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย กลยุทธ์การลงทุนลดการถือครองสถานะลง รอความชัดเจนจากปัจจัยต่างๆ และหากราคาปรับตัวลงมาที่แนวรับสำคัญควรทยอยซื้อสะสม “หุ้นกลุ่มเปิดเมือง ” และ “หุ้นส่งออกที่คาดว่าจะเติบโตต่อในครึ่งปีหลัง”
  • การประชุม Fed ประจำปี ทางฝ่ายมีมุมมองต่อผลการประชุมอย่างไร?: การประชุม Fed ประจำปีที่เมือง Jackson Hole รัฐไวโอมิงวันนี้ เวลา 21.00 น. ของประเทศไทย นายเจอโรม พาวเวลล์ จะมีถ้อยแถลงเกี่ยวกับมุมมองเศรษฐกิจสหรัฐ และท่าทีต่อนโยบายทางการเงินในอนาคตของ Fed ซึ่งตลาดหุ้นทั่วโลกให้น้ำหนักกับถ้อยแถลงครั้งนี้ค่อนข้างมาก เนื่องจากมีสัญญาณจากการประชุม FOMC ครั้งล่าสุดถึงการทำ QE Tapering ออกมาอย่างชัดเจน โดยทางฝ่ายมีมุมมองว่าการแถลงครั้งนี้ พาวเวลล์จะชี้มุมมองของเศรษฐกิจสหรัฐว่าเติบโตแข็งแกร่ง โดยเฉพาะจากภาคการจ้างงาน และการเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้อ อันเป็นผลจากการกลับมาเปิดเศรษฐกิจและ Supply Chain ต่างๆ แต่การจ้างงานยังห่างไกลจากเป้าของ Fed ที่ระดับก่อนวิกฤตการระบาดของ COVID-19 และจะยืนยันการผ่อนคลายมาตรการทางการเงินต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเต็มรูปแบบ โดยไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายก่อนปี 66 ส่วนการทำ QE Tapering ทางฝ่ายคาดโอกาสเป็นไปได้ 3 แนวทางดังนี้
    • แนวทางที่ 1 (60%): ยังไม่เริ่มทำ QE Tapering แต่กำหนดเวลาชัดเจน- Fed รอติดตามตัวเลขการจ้างงานและเงินเฟ้อของสหรัฐเดือน ส.ค. และ ก.ย. 64 รวมถึงการระบาดของไวรัสสายพันธุ์เดลตาก่อนตัดสินใจทำ QE Tapering ในการประชุม FOMC เดือน พ.ย. 64 และเริ่มดำเนินการตั้งแต่ ธ.ค. 64 เป็นต้นไป เดือนละ 15,000-20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จนถึงช่วงกลางปี 65 ก่อนเตรียมขึ้นดอกเบี้ยในปี 66 หากผลออกมาตามแนวทางนี้ คาดตลาดหุ้นทั่วโลกจะปรับฐานลง ส่วนตลาดหุ้นไทยอาจได้ผลกระทบน้อยลง เนื่องจากสัดส่วนการถือครองของต่างชาติลดลงเทียบกับการทำ QE Tapering ปี 56
    • แนวทางที่ 2 (30%): ไม่ส่งสัญญาณใด ๆ ออกมา – ตลาดหุ้นไทยน่าจะขึ้นต่อได้มีโอกาสทดสอบ 1640 จุดอีกครั้ง
    • แนวทางที่ 3 (10%): ทำ QE Tapering ทันทีในการประชุม FOMC ครั้งหน้า- ตลาดหุ้นทั่วโลกพักฐานแรง และความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นมากทั้งการระบาดของเดลตา และตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวของสหรัฐที่เริ่มชะลอความร้อนแรงลง

PICKS OF THE DAY

LH BUY

  • LAND & HOUSES บรรยากาศดีขึ้น: สถานการณ์ COVID-19 เริ่มดีขึ้นมีแนวโน้มคลายล็อกน่าจะส่งผลดีต่อยอดเข้าเยี่ยมโครงการเพื่อจองบ้านในช่วง ก.ย. 64 คาดยอดจอง 3Q64 น่าจะดีกว่าตลาดคาดก่อนหน้า
  • ราคายังต่ำ: ผลกระทบจาก COVID-19 ช่วง 3Q64 น่าจะน้อยกว่าคาด ราคาหุ้นยังต่ำในเชิง P/E เทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีตและ Yield 3% มองเป็นหุ้นเปิดเมืองที่ยังขึ้นน้อย จากการคาดหมายการผ่อนคลายการล็อคดาว์นในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า

BCH BUY

  • 3Q64 New High: จํานวนเคสตรวจไม่ได้ลดลงคาด สิ้น 3Q64 ที่ 7 แสนราย เพิ่มขึ้นจาก 2Q64 ที่ 5.88 แสนราย อีกทั้งรายได้ค่ารักษาเพิ่มขึ้นมาก q-q
  • แนวโน้ม 4Q64 ไม่ได้แย่: รับรู้รายได้ “Moderna” ครั้งแรกโดยได้รับจัดสรรมากที่สุดในกลุ่ม ในขณะที่ผบห. ประเมินผู้ติดเชื้อรายวันยังสูงมากกว่า 1 หมื่นราย/วัน ทำให้รายได้ที่เกี่ยวข้อง COVID-19 ยังอยู่ คาดกำไร 4Q64 จะดีกว่า 2Q64 ปรับกำไรทั้งปีขึ้น
- Advertisement -