KS Daily View 07.06.2023 >>> แรงกดดันเงินเฟ้อลดลง การฟื้นตัวเศรษฐกิจ 2H23 เป็นตัวหนุน SET คาดแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,520-1,535/1,555 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ SNNP

สรุปภาวะตลาดเมื่อวันวานนี้

ต่างประเทศ: ดัชนี DJIA +0.03%, S&P 500 +0.24%, NASDAQ +0.36% โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่  Financial (+1.33%), Consumer discretionary (0.99%) ส่วน Sector ที่ underperform ได้แก่ Healthcare (-0.88%), Consumer Staples (-0.47%)

ในประเทศ: SET Index -2.66pts. หรือ -0.17% เป็น 1,528.54 ตัวขับเคลื่อนสำคัญคือ RBF (+9.1%), TQM (+3.3%), DELTA (+2.5%) ตัวฉุดคือ NEX (-7.0%), TU (-5.6%), BCP (-5.3%), DOHOME (-4.4%)

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ: คาด SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ 1,520-1,535/1,555 ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญคือแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลงและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในครึ่งหลังของปี 2566 แนะจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของจีน

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) สินทรัพย์อื่น: ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี 2.51% (คงที่ DoD), ผลตอบแทนพันธบัตร US 2Y 4.51% (+3bps. DoD), ผลตอบแทนพันธบัตร US 10Y 3.68% (-1bps. DoD), น้ำมันดิบเบรนท์ US$76.29/bbl (-0.6 %) และสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ 1,981.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ (+0.4% DoD) สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลดลงจากความกังวลด้านเศรษฐกิจ

2.) ทางการจีนขอให้ธนาคารในประเทศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากอย่างน้อยเป็นครั้งที่สองในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี อ้างอิงจาก Bloomberg ซึ่งเป็นความพยายามที่เพิ่มขึ้นในการกระตุ้นอุปทานสินเชื่อและการใช้จ่ายของผู้บริโภค

3.) ตัวเลขเงินเฟ้อเดือน พ.ค.​ 2023 ของไทย (+0.5% YoY และ -0.7% MoM) ต่ำกว่าคาด และต่ำสุดในรอบ 21 เดือน ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (+1.5% YoY และ +0.1% MoM) ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์เล็กน้อย และลดลงจากอัตราเดือนก่อนหน้าที่ 1.7% YoY ปัจจัยสำคัญมาจากราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้าที่ลดลง และฐานที่สูงในปีที่แล้วด้วย

4.) ธปท.ร่วมกับสมาคมเช่าซื้อไทยเตรียมทำโฟกัสกรุ๊ปเกี่ยวกับไทม์ไลน์การดำเนินการของตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ก่อนประกาศราชกิจจานุเบกษา 1 ส.ค.นี้ จากนั้นจะให้ผู้ประกอบการยื่นคำร้องภายใน 90 วัน และคาดว่าพระราชกฤษฎีกาจะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการภายในวันที่ 1 พ.ย.นี้ เราคาดว่ามาตรการด้าน market conduct ของ ธปท. จะส่งผลให้การเติบโตของสินเชื่อของธุรกิจ HP ชะลอตตัว กระทบธุรกิจที่เน้น HP loan (HENG, AMANAH, MICRO, SAWAD, NCAP) ในทางตรงกันข้าม เราคาดว่า TIDLOR, MTC, SAK, KTC และ AEONTS ที่มีพอร์ท HP น้อย จะได้รับผลกระทบจำกัด

5.) ครม.พิจารณาแก้ไขสัญญาอู่ตะเภาจากเหตุโควิด-19 ระบาด อ้างอิงจาก Bangkokbiznews เราคาดว่าค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากการแก้ไขสัญญาโครงการอู่ตะเภาจะหนุนให้ IRR สูงขึ้น มองเป็นบวกต่อกลุ่มกิจการร่วมค้าที่ได้สัมปทานดังกล่าว (BA, BTS และ STEC)

หุ้นแนะนำวันนี้

Top pick:

SNNP (ราคาพื้นฐาน 30.30 บาท) คาดว่ารายได้โตอย่างต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี และแตะจุดสูงสุดใน 4/2566 จากการเปิดตัวโรงงานในเวียดนามเฟส 2 และเฟส 3 ผสานนักท่องเที่ยวจีนที่ไหลเข้ามามากขึ้นตั้งแต่เดือน มิ.ย. เป็นต้นไป คาดยอดขายปีนี้โต 16% และกำไรจะโตได้ 40.5% YoY เป็น 715 ลบ. หรือ 150-200 ลบ. ต่อไตรมาส ทำให้หุ้นจะยกกรอบการเทรดเป็น 25-30 บาท

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

นักลงทุนอาจเลือกทยอยสะสมหุ้นกลุ่ม Global play ที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวลงมาเยอะจน valuation เริ่มน่าสนใจคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของอุปสงค์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน เช่น PTTGC, TOP เป็นต้น ขณะเดียวกันมองกลุ่ม Finance และ Quality growth ได้ sentiment บวกจากการชะลอขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และ ธปท. ได้แก่ TIDLOR, SAK, BE8 เป็นต้น นอกจากนี้มองว่าหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวจะได้อานิสงค์จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน จากจำนวน flights บินที่เพิ่มเป็น 430 เที่ยวต่อสัปดาห์ในเดือน มิ.ย​. จากปัจจุบันที่มีกว่า 100 เที่ยวบิน ต่อสัปดาห์

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ:

  • วันพุธ ติดตาม ตัวเลข China Balance of trade เดือน พ.ค. คาดเกินดุลที่ 91 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเดือนก่อนหน้าที่เกินดุล 90.21 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ตัวเลข China Export เดือน พ.ค คาด +7%YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ +8.5% YoY) ตัวเลข China Import เดือน พ.ค คาด -5%YoY (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ -7.9% YoY) และปิดท้ายด้วย ตัวเลข US Balance of trade เดือน เม.ย. คาด ขาดดุล 75 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ขาดดุล -64.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ)
  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขผู้รับสวัสดิการสหรัฐฯ ตลาดมองเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 239k (เทียบเดือนก่อนหน้าที่ 232k)
  • วันศุกร์ ติดตาม China CPI คาด  +0.2% YoY (เทียบจาก +0.1% YoY ในเดือนก่อนหน้า) และติดตาม ตัวเลข Consumer Confidence Index ของไทย ที่ตลาดมองทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้วที่ 55 จุด
- Advertisement -