วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,525 / 1,520 แนวต้าน 1,535 / 1,540 คาดตลาดจะรอดูตัวเลข CPI และ PPI เพื่อประเมินผลการประชุม FOMC สัปดาห์หน้า ขณะที่การเมืองไทยยังเป็นปัจจัย Overhang ตลาดได้อยู่

Our View? “อ่อนแอเหลือเกิน”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,525 / 1,520 และแนวต้านที่บริเวณ 1,535 / 1,540 เรามองวันนี้ตลาดจะให้น้ำหนักต่อการรอดูการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค. คาดจะออกมาอยู่ที่ระดับ +0.2% MoM และ +4.10% YoY รวมทั้งติดตามดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน พ.ค. ในวันพรุ่งนี้ คาดจะออกมาอยู่ที่ระดับ -0.1% MoM และ +1.5% YoY เพื่อที่จะประเมินทิศทางแนวโน้มการปรับใช้นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ก่อนการประชุม FOMC ในวันที่ 13-14 มิ.ย. นี้ โดยเรามองว่าหากตัวเลขดังกล่าวไม่ได้ออกมามากกว่าที่ตลาดคาดไว้ ยังคงสะท้อนอัตราเงินเฟ้อสหรัฐแม้ยังอยู่ในระดับสูง แต่อยู่ในภาพการชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป คาดจะเพิ่มความคาดหวังให้ FED ยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% ต่อไปในเดือนนี้ โดยล่าสุด CME FED Watch Tools ให้น้ำหนักว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ที่น้ำหนักราว 80.0%+/- จากก่อนหน้าคาดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% มองเป็นปัจจัยบวกช่วยหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัวขึ้นได้บ้าง

อย่างไรก็ตามเรามีมุมมองเชิงลบอ่อนๆ ต่อการที่ World Bank ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกใหม่ แม้จะปรับคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 2.1% สูงกว่าประมาณการก่อนหน้าที่ 1.7% จากการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐและจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.1% จาก 0.5% และ 5.6% จาก 4.3% ตามลำดับ แต่ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีหน้าลงสู่ระดับ 2.4% ต่ำกว่าคาดการณ์ก่อนหน้าที่ระดับ 2.7% รวมทั้งลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐและจีนในปี’67 ลงเหลือเพียงระดับ 0.8% และ 4.6% ตามลำดับ จากความกังวลของผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่างๆ ยังคงอยู่ในระดับสูง และวิกฤตธนาคารสหรัฐคาดจะกดดัน เรามองจิตวิทยาเชิงลบจํากัด Upside ของราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.ค. เมื่อคืนนี้แกว่งตัวค่อนข้างผันผวน ปิดที่ระดับ 71.74 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.41 ดอลลาร์ (-0.57%) ได้รับแรงกดดันจากความกังวลอุปสงค์น้ำมันดิบลดลงจากการปรับประมาณการเศรษฐกิจโลกในปี’67 ลงของ World Bank รวมทั้งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) คาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวที่ระดับ 1.3% ในปี’66 และ 10% ใน ปี’67 ต่ำกว่าคาดการณ์ก่อนหน้าของ EIA จำกัดการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบ หลังได้รับแรงหนุนจากการที่ซาอุดิอาระเบียจะปรับลดกำลังการผลิตอีก 1 ล้านบาร์เรล/วัน โดยสมัครใจลงเหลือ 9 ล้านบาร์เรล/วัน ในเดือน ก.ค. คาดจะกระตุ้นแรงขายทำกำไรระยะสั้นต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานได้บ้างเล็กน้อย

สําหรับปัจจัยภายในประเทศเรามีมุมมองเชิงบวกต่อการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน พ.ค. เมื่อวานนี้ออกมาอยู่ที่ระดับ +0.53% YoY และ -0.71% MoM ชะลอตัวลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน สะท้อนความสามารถในการควบคุมเงินเฟ้อที่ดีของเศรษฐกิจไทย และบ่งชี้ถึงอัตราเงินเฟ้อเข้าสู่กรอบเป้าหมายของ ธปท. ได้เร็ว  ทำให้เราคาดว่า กนง. น่าจะเริ่มหยุดการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป และจะปรับเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยเพื่อประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อและเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เรายังคงคาดตลาดหุ้นไทยยังคงถูกจำกัด Upside จากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยังเป็นปัจจัย Overhang กดดันตลาดได้อยู่ ทั้งนี้เรายังแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัวสำหรับหุ้นในกลุ่ม Domestic ในประเทศ หุ้นในกลุ่มธนาคารฯ (KBANK, SCB, BBL, KTB และ TTB) ปรับตัวขึ้นได้ จากแนวโน้มผลประกอบการ 2Q’66 ที่มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้งเราเริ่มเห็นอัตราการเติบโตของสินเชื่อในบางธนาคารฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว 2.) หุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO, BJC, DOHOME และ GLOBAL) ที่เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง ดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวในประเทศจากการบริโภคและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ รวมทั้งยังได้รับประโยชน์จากแนวโน้มค่าไฟที่ปรับลดลง รวมทั้ง 3) หุ้นในกลุ่มส่งออกสินค้าเกษตร (TU, GFPT, TFG และ CPF) จากตัวเลขการส่งออกสินค้าเกษตรยังคงขยายตัว 23.8% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนทิศทางหุ้นดังกล่าวฟื้นตัวขึ้นได้

ธีมการลงทุน “SelectivePlay”

หุ้นแนะนำวันน้ี “MAKRO”

  • กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 37.00 / 36.50 Target 42.00 / 43.50 Stop <36.00
  • แนวโน้มผลการดำเนินงานเป็นขาขึ้น คาดการณ์ 2H’66 สดใส YoY และ HoH
  • ทางเทคนิคราคาอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับที่กรอบขาขึ้น พร้อม SSTO อยู่ในภาวะ Oversold แนะนำ ทยอยซื้อสะสม

- Advertisement -