ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index เพิ่มขึ้น 4.67 จุด (+0.31%) ปิดที่ระดับ 1,533 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,611 ล้านบาท หนุนหุ้น Big Cap ปรับตัวขึ้นนำตลาด อาทิ PTTEP TRUE EA และ GULF

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้   

ประเมิน SET  แกว่งตัว 1,525 – 1,540 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบที่ขึ้นยืนเหนือ 72 US/Barrels หลังโอเปกพลัสมีมติลดกำลังการผลิตน้ำมันลง อย่างไรก็ตามความกังวลการประชุม FOMC ในวันที่ 13-14 มิ.ย.อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% จะส่งผลให้ Fund flow ผันผวนและกดดันดัชนี จึงแนะนำ Selective buy ต่อไป

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • BBL KTB TTB KBANK SCB SAPPE ICHI  แนวโน้มกำไร 2Q23 ยังคงเติบโต
  • AMATA WHA ROJNA NYT อานิสงส์ค่ายรถ EV ตั้งฐานการผลิตในไทย
  • PTTEP TOP BCP SPRC  ราคาน้ำมันดิบยืนเหนือ 72 US/Barrels

หุ้นแนะนำวันนี้

  • PTTEP (ปิด 150 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 170 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งรับข่าวซาอุฯ ประกาศลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจเพิ่มอีก 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดหวังจีนออกมาตรการกระตุ้น ศก. เพิ่มดีมานด์
  • BBIK (ปิด 121 ซื้อ/เป้า 140 บาท) เราเริ่มต้นบทวิเคราะห์ด้วยคำแนะนำ ซื้อ มอง BBIK เป็นหุ้น Growth Stock ที่น่าสนใจ คาดกำไรสุทธิปีนี้เติบโต 117% และปีหน้าโต 28% ขณะที่ราคาหุ้นยังไม่แพงคิดเป็น PEG เพียง 0.6 เท่า

บทวิเคราะห์วันนี้

  • BBIK (ปิด 121 ซื้อ/เป้า 140), Media sector (NEUTRAL)

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ตัวเลขเศรษฐกิจจีนยังอ่อนแอโดยเฉพาะการส่งออกพลิกเป็นหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 เดือน: จีนรายงานตัวเลขการส่งออกเดือน พ.ค. พลิกเป็นหดตัว 7.5%yoy จากขยายตัว 8.5%yoy ในเดือน เม.ย. และต่ำกว่าที่ BB Consensus คาดว่าจะหดตัว 1.8%yoy ส่วนการนำเข้าหดตัว 4.5%yoy แต่ลดลงจากเดือน เม.ย. ที่หดตัว 7.9%yoy และน้อยกว่าที่ BB Consensus คาดว่าจะหดตัว 8%yoy

(+) ตลาดคาดหวังจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากตัวเลขในหลายกิจกรรมอ่อนแอเกินคาด: กิจกรรมเศรษฐกิจของจีนที่ถูกกดดันทั้งใน(การบริโภค, อสังหาฯ) และต่างประเทศ(ส่งออกหดตัว) ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่ารัฐบาลจีนอาจจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้ อาทิ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ หรือ ปรับลด RRR rate

(+) กลุ่มน้ำมัน- ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นต่อเนื่องกังวลซัพพลายตึงตัว: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 72.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ตลาดยังได้แรงหนุนจากซาอุฯ ลดกำลังการผลิตโดยสมัครใจอีก 1 ล้านบาร์เรล ซึ่งจะทำให้ซัพพลายน้ำมันดิบตึงตัวหากดีมานด์ในตลาดเริ่มฟื้นตัว

ข่าวในประเทศและต่างประเทศ

สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ

ไทย

(+/-) กกร. คงคาดการณ์ GDP ไทยในปีน้ีที่ 3-3.5% โดยคงสมมติฐานการส่งออกที่ -1.0 ถึง 0.0% และเงินเฟ้อที่ 2.7 ถึง 3.2%

สหรัฐ

(-) ตลาดสหรัฐฯยังถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี และ 10 ปี หลังจากธนาคารกลางแคนาดาขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี ส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้าเช่นกัน

ยุโรป

(-) นายคลาส นอต กรรมการบริหารของ ECB ระบุว่า ECB จําเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมิ.ย.และก.ค. และพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปหากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงเกินไป

เอเชีย

(-) ยอดส่งออกของจีนร่วงลง 7.5% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากความต้องการสินค้าจีนในตลาดโลกชะลอตัวลง

- Advertisement -