ASL ANALYSIS GUIDE
ประเมิน SET แกว่งตัว sideway หลังปรับตัวขึ้นเหนือเส้นกลาง Bollinger band ที่ 1,540 ได้มั่นคง ระยะสั้นลุ้นทดสอบแนวต้าน (จุดสูงหลังวันเลือกตั้ง) 1,570 เป็นจุดพิจารณาเล่นรอบ แนวรับ 1,552/1,540
ประเด็นการลงทุน
1. ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ค.สูงสุดรอบ 39 เดือน เลือกตั้ง-ท่องเที่ยวหนุนเศรษฐกิจ
2. ต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
3. ตัวเลขภาคแรงงานออกมาแย่กว่าคาดหนุนเฟดคงดอกเบี้ย
วันนี้เคาะ MAKRO แนวโน้ม 2Q66 ผลประกอบการอาจลดลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูกาลทั้งธุรกิจค้าส่งและธุรกิจค้าปลีก แต่ SSSG จะยังคงเติบโตในอัตราเลขหลักเดียวระดับสูง จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การบริโภคฟื้นตัว รวมทั้งการกลับมาของกลุ่มลูกค้าโฮเรก้า (โรงแรม ร้านอาหาร จัดเลี้ยง) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตแบบ Double digit
MARKET STRATEGY
สรุปตลาดวานนี้ SETI ปิดที่ 1,559.50 จุด เพิ่มขึ้น 26.29 จุด (+1.71%) มูลค่าการซื้อขาย 59,630.89 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวขึ้นโดดเด่นกว่าตลาดภูมิภาค จากเงินทุนต่างชาติเริ่มกลับมา หลังคลายกังวลการเมืองในประเทศมากขึ้น และ Valuation หุ้นไทยไม่แพง รวมถึงคาดการณ์เฟดน่าจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ซึ่งถือเป็น ปัจจัยบวก
Research Highlight: ติดตามการตัดสินเรื่องอัตราดอกเบี้ยของ FED ในสัปดาห์หน้า
ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ค. สูงสุดรอบ 39 เดือน เลือกตั้ง- ท่องเทียวหนุน เศรษฐกิจ
- ม.หอการค้าไทย รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.66 อยู่ที่ระดับ 55.07 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 และสูงสุดในรอบ 39 เดือน
- ปัจจัยบวกมาจาก
1. บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งที่คึกคัก ส่งผลให้มีเม็ดเงินสะพัดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น
2. สภาพัฒน์รายงาน GDP 1Q66 ขยายตัว 2.7% เร่งตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า คาดทั้งปีจีดีพี โต 3.2% จากปัจจัยหนุนภาคท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน
3.นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมากขึ้น ส่งผลดีให้เม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น
4.ราคาพืชผลเกษตรหลายรายการปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อรายได้เกษตรกร และกำลังชื้อในภูมิภาค
5.ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลง
6.เงินบาทปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย
- ปัจจัยลบมาจาก
1. กังวลปัญหาเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า รวมทั้งภาวะค่าครองชีพที่ยังอยู่ในระดับสูง
2.ความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาล และเสถียรภาพทางการเมือง
3.สถานการณ์เศรษฐกิจโลกและภาคการเงินในสหรัฐ มีผลทางจิตวิทยาเชิงลบ
4.กนง. ขึ้นดอกเบียอีก 0.25%
5. การส่งออกไทย เดือนเม.ย. หดตัว 7.6%
- ในเชิงกลยุทธ์เรามองเป็นบวกต่อกลุ่มค้าปลีก BJC CRC MAKRO ท่องเที่ยว AAV AOT CENTEL สื่อสาร TRUE ADVANC
ต่างชาติ ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
- วานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นแรงได้รับแรงหนุนจาก Fund Flow ที่ไหลกลับเข้ามา โดยวานนี้ต่างชาติซื้อสุทธิรวม 1,700 ล้านบาทในกลุ่มหุ้น Big Cap และมีการเปิดสัญญา Long ในตลาด TFEX กว่า 10,000 สัญญา
- โดยจากแนวโน้ม Fund Flow ที่ไหลเข้าสู่ตลาดมองเป็น Sentiment บวก เราแนะนํากลุ่ม Big Cap ที่ยัง Laggard เช่น BANPU NEX ONEE GUNKUL BAM GLOBAL EA
ตัวเลขภาคแรงงาน ออกมาแย่กว่าคาด
- ตัวเลขจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้นกว่าที่คาดจำนวน 261,000 ราย จากที่ตลาดคาดไว้ที่ 235,000 ราย เป็นระดับสูงสุดในรอบ 20 เดือน ส่งผลให้ US Bond Yield ปรับตัวลดลง เนื่องจากมองว่า FED จะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย
- ข้อมูลจาก FED watch tool มองว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบ ถัดไปวันที่ 14 – 15 มิ.ย. นี้ โดยให้น้ำหนักคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 74.8% และขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ที่ 25.2%
สัปดาห์หน้าติดตาม
- 13 มิ.ย. ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) MoM (พ.ศ.) // ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) MoM และ YoY (พ.ศ.)
- 14 มิ.ย. ดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรม MoM (เม.ย.) EU // ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) MoM ( พ.ค.)
- 15 มิ.ย. แถลงการณ์ FOMC และการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย // ดัชนียอดขายปลีกพื้นฐาน (Core Retail Sales) MoM (พ.ค.) // จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก // ดัชนีภาคการผลิตจากธนาคารกลางรัฐฟิลาเดลเฟีย (มิ.ย.) // ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน YoY( พ.ค.) // แถลงการณ์ นโยบายการเงินของ ECB และการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย EU (มิ.ย.)
- 16 มิ.ย. ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) YoY ( พ.ศ.) EU
Investment Strategy
- ประเมิน SET แกว่งตัว sideway หลังปรับตัวขึ้นเหนือเส้นกลาง Bollinger band ที่ 1540 ได้มั่นคง ระยะสั้นลุ้นทดสอบแนวต้าน (จุดสูงหลังวันเลือกตั้ง) 1570 เป็นจุดพิจารณาเล่นรอบ แนวรับ 1552/1540
- เช้านี้ติดตามตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ พ.ค. ของจีน
- Dollar index ชะลอการแข็งค่าและ US bond yield ที่เริ่มปรับตัวลง สะท้อนการคาดการณ์ของตลาดใน Fed watch tool ที่ให้น้ำหนักสูงกว่า 66% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย 5.00-5.25% ในการประชุม FOMC 14-15 มิ.ย. นี้ เนื่องจากเพื่อดูผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาอย่างต่อเนื่องต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิด soft landing แทน recession ทั้งนี้หากมีการส่งสัญญาณชะลอ/ยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเป็นผลดีต่อกลุ่ม Growth stock อย่างไรก็ดี เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับการออกพันธบัตรรัฐบาล ราว 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สรอ. ของรัฐบาลสหรัฐฯ หลังขยายเพดานหนี้ได้จะมีแรงหนุนให้ Bond yield ยังทรงตัวในระดับสูง
- ในเชิงกลยุทธ์ เราแนะนำ Selective buy หุ้นในกลุ่ม Cyclical play KBANK KTB TRUE BJC LH AOT ADVANC BDMS PTG, กลุ่ม Commodity PTTGC TOP SPRC BANPU และ DCA KBANK BJC TRUE CBG
Global Markets
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรง และอาจเป็นปัจจัยชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบเล็กน้อย เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวลง จากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางรายใหญ่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป ขณะที่การร่วงลงอย่างหนักของหุ้นโวดาโฟนถ่วงหุ้นกลุ่มเทเลคอมลงด้วย
(-) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบ หลังจากสื่อรายงานว่า สหรัฐและอิหร่านใกล้บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งจะนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน และส่งผลให้อิหร่านสามารถส่งออกนํ้ามันในตลาดได้
(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX ปิดพุ่งขึ้น โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานสูงกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรง
หุ้นเคาะไป คุยไป…MAKRO
- MAKRO ตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่ในประเทศไทย 12 สาขา และต่างประเทศ 4- 6 สาขา ซึ่งเป็นประเทศที่แม็คโครขยายธุรกิจอยู่แล้ว ส่วนธุรกิจค้าปลีก โลตัส จะเปิดสาขาขนาดใหญ่แบบไฮเปอร์มาร์เก็ต 3-4 สาขา ซูเปอร์มาร์เก็ตในไทยและมาเลเซียรวม 10-14 สาขา และโลตัส โกเฟรซ (Lotus’s go fresh) 100-150 สาขา ซึ่งประเมินยอดขายปีนี้คาดว่าจะขยายตัวมากกว่า GDP ปี 66 มีปัจจัยหนุนมาจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ส่วนลดค่าเช่าที่ให้กับคู่ค้าลดลง และภาพเงินเฟ้อในประเทศที่ชะลอตัว ขณะที่ MAKRO มีแผนจะ Re-finance ในช่วง 2Q66 โดยเงินกู้ส่วนที่เหลือราว 3.45 หมื่นล้านบาท ที่มี CoF ราว 4.7-7% ต่อปี เป็นการออกหุ้นกู้ที่มี CoF เพียง 2.8-4.15% ต่อปี ช่วยให้แนวโน้มต้นทุนทางการเงินลดลง หนุนกำไรสุทธิให้เพิ่มขึ้น
- ในเชิง sentiment ได้รับปัจจัยบวกจากได้รับการเข้าคํานวนใน FTSE SET Large Cap Index รอบใหม่มีผล 19 มิ.ย. นี้ และรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ค. ที่อยู่ที่ระดับ 55.07 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 และสูงสุดในรอบ 39 เดือน
- ส่วนแนวโน้ม 2Q66 ผลประกอบการอาจลดลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูกาลทั้งธุรกิจค้าส่งและธุรกิจค้าปลีก แต่ SSSG จะยังคงเติบโตในอัตราเลขหลักเดียวระดับสูง จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การบริโภคฟื้นตัว รวมทั้งการกลับมาของกลุ่มลูกค้าโฮเรก้า (โรงแรม ร้านอาหาร จัดเลี้ยง) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทําให้ยอดขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตแบบ Double digit