สัปดาห์นี้ปัจจัยสำคัญได้แก่ผลประชุม FED
Market Update
ตลาดหุ้น Dow Jones คืนวันศุกร์ปิดบวก 0.13% นักลงทุนอยู่ระหว่างรอดูเงินเฟ้อสหรัฐฯ และประชุม FED ช่วงกลางสัปดาห์ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 1.5% ถูกกดดันจากแท่นขุดเจาะน้ำมันในแคนาดาที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก
Market Outlook
สัปดาห์นี้ปัจจัยหลักที่นักลงทุนจะให้น้ำหนักได้แก่การประชุม FED ในวันที่ 14 มิ.ย. หรือทราบผลทางการช่วง 15 มิ.ย. ช่วงเช้าตามเวลาประเทศไทย อิงข้อมูลจาก CME FED Watch พบว่าให้น้ำหนักส่วนมากราว 74.8% ที่ FED จะคงดอกเบี้ยไว้ระดับเดิม พร้อมคาดว่าปลายปี 2023 ดอกเบี้ยสหรัฐฯจะอยู่ที่ 5.25% (ระดับปัจจุบัน) หรือ หมายความว่านักลงทุนคาดว่าจากนี้ FED จะคงดอกเบี้ยต่อเนื่องจนถึงปลายปี ดังนั้นจึงต้องติดตามผลประชุมใกล้ชิด เพราะจะมีการเปิดเผยถึงเส้นทางดอกเบี้ยช่วงถัดไป (Dot Plot) ทั้งปีนี้และปีหน้า หากส่งสัญญาณตามที่ตลาดประเมินไว้ก็มองเป็นกลาง แต่หากผ่อนคลายมากกว่าตลาดคาดก็จะเป็นปัจจัยหนุน นอกจากนี้ยังแนะติดตามถ้อยแถลงของประธาน FED หากส่งสัญญาณเชิงดำเนินนโยบายไม่เข้มงวดก็จะเป็นบวกกับตลาด ซึ่งเราเชื่อว่าจะมีการส่งสัญญาณแบบนั้นเนื่องจากดอกเบี้ยสหรัฐฯ ปรับขึ้นมาสูงกว่าเงินเฟ้อ ขณะที่ภาคแรงงานก็เริ่มเห็นสัญญาณอ่อนแอจากอัตราการว่างงานและผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่สูงขึ้น ส่วนปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ เงินเฟ้อสหรัฐฯ ในวันที่ 13 มิ.ย. Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 4.2%YoY ลดลง จากเดือนก่อนหน้าที่ 4.9%YoY และหากต่ำกว่าคาดการณ์ก็จะเป็นบวกกับตลาดหุ้น รวมถึงทิศทางใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย ถัดมาดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯใน วันพุธช่วงกลางคืนตามเวลาประเทศไทย Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 1.5%YoY -0.1%MoM หากรายงานแล้วยังต่ำกว่าที่ประเมินไว้ก็จะเป็นบวกกับตลาด และสุดท้ายยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ที่จะรายงานในช่วงกลางคืนวันพฤหัสเวลาไทย Bloomberg ประเมินทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อน
สำหรับในประเทศติดตามกระแสเงินทุนต่างชาติ หลังพลิกมาขายสุทธิพร้อม Short TFEX ราว 2 หมื่นสัญญารวมถึง การจัดตั้งรัฐบาลนักลงทุนอาจกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการกรณีคุณพิธาถือหุ้นสื่อ หลังจาก กกต. มีมติเตรียมพิจารณาซึ่งถือเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าตลาดจะให้น้ำหนักกับประเด็นผ่อนคลายดอกเบี้ยมากกว่า โดยประเมิน SET INDEX สัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 1545 – 1575 เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้น Trading เน้น Domestic Play อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) ร้านอาหาร (M) ชิ้นส่วนยานยนต์ (AH)
หุ้นแนะนําซื้อวันนี้
AOT (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 82.00 บาท) มีมุมมองที่ดีกับ AOT ในแง่ของผู้ประกอบการที่ได้รับผลดีจากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะผลการดำเนินงานที่ในช่วง FY2Q23 กำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่องมาอยู่ที่ 1,861 ลบ. (+443%QoQ) หลังเที่ยวบินและผู้โดยสารเติบโตต่อเนื่องจากการเปิดประเทศของจีน นอกจากนี้ แนวโน้มในช่วง FY3Q23 จะเริ่มได้รับผลดีจากมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่สิ้นสุดลง
KTB (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 21.40 บาท) คุณภาพสินเชื่อยังอยู่ในระดับที่จัดการได้ แม้จะมีประเด็นความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินเชื่อรายย่อยและ SME บางกลุ่ม อย่างไรก็ดี KTB ได้ตั้งสำรองหนี้ฯ เพิ่มเพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ด้านงบดุลขึ้น ขณะที่คาดว่าค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญจะสูงกว่า 100bp ในปี 2023 (2022: 93bp)