KS Daily View 13.06.2023 >>> ติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ ประชุมกกต.เรื่องการรับรองส.ส.เร็วกว่ากำหนดหรือไม่? คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,550-1,565/1,585 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ COM7 PTTGC

สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้

ต่างประเทศ : ดัชนี DJIA +0.56%, S&P 500 +0.93%, NASDAQ +1.53% โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ IT (+2.07%), Consumer discretionary (+1.74%), Communication service (+1.20%) ส่วน Energy (-0.97%), Utilities (-0.17%), Financial (-0.09%)

ในประเทศ: SET Index -3.70 pts. หรือ -0.24% เป็น 1,551.14 จุด ตัวขับเคลื่อนหลักสำคัญคือ DELTA (+1.8%), BDMS (+0.9%), CPN (+1.1%), AWC (+2.0%) ตัวฉุดคือ GULF (-1.6%), PTTEP (-1.3%), MAKRO (-2.0%), AOT (-0.7%)

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

คาด SET Index เคลื่อนไหวในกรอบ 1,550-1,565/1,585 มองประเด็นทางการเมืองภายในประเทศยังเป็นประเด็นที่ตลาดยังติดตามพัฒนาการ โดยรอที่ประชุมกกต.วันนี้ว่าจะมีการเสนอประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.ตามที่มีข่าวช่วงสุดสัปดาห์หรือไม่ หากมีการพิจารณารับรองส.ส.ตามที่สำนักข่าวรายงานในช่วงสุดสัปดาห์ อาจช่วยสร้าง sentiment เชิงบวกระยะสั้นให้กับการลงทุน ต่อด้วยช่วงข้ามคืนนี้สหรัฐฯมีกำหนดรายงานตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภค (CPI) ของเดือน พ.ค. ตลาดคาดที่ +4.1% YoY (เทียบจาก +4.9% YoY ในเดือนก่อนหน้า) และ Core CPI ตลาดมองที่ +5.3% YoY (เทียบจาก +5.5% YoY ในเดือนก่อนหน้า) หากเงินเฟ้อปรับลดลงต่อ เรามองจะช่วยสนับสนุนให้ Fed พิจารณาในการหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือส่งสัญญาณผ่อนคลายจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยในรอบการประชุม FOMC ช่วงข้ามคืนวันพุธนี้ ซึ่งการทำให้แวดล้อมการลงทุนมีแนวโน้มเป็นบวกมากขึ้นในระยะถัดไป

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) ประเด็นตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่มีกำหนดจะประกาศช่วงข้ามคืนนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลให้ Fed พิจารณาหยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือส่งสัญญาณผ่อนคลายหากตัวเลขเงินเฟ้อที่ออกมายังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องซึ่งเราประเมินว่าจะทำให้แวดล้อมการลงทุนเป็นบวกมากขึ้น โดยเรามองกลุ่ม nonbank และ global play เป็นกลุ่มที่น่าสนใจลงทุน ทั้งนี้กลุ่ม nonbank จะได้อานิสงค์เชิงบวกจากทิศทางต้นทุนทางการเงินที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับสูงสุดของวัฏจักรแล้ว ขณะที่ global play เป็นกลุ่มที่ราคาหุ้นปรับตัวลดลงมามาก ซึ่งการลงทุนอาจมองในมุมของการหา cheap valuation ในเชิง bottom fishing trade

2.) สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ธนาคารกลางสำคัญหลายแห่งมีประชุมเพื่อกำหนดทิศทางนโยบายการเงิน โดยนอกจาก Fed ในช่วงข้ามคืนวันพุธแล้วยังมี ECB ในวันพฤหัสและ BOJ ในวันศุกร์ โดยตลาดคาด ECB จะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อหลังตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวลดลงได้ช้ากว่าในส่วนของฝั่งสหรัฐฯแต่เชื่อว่าก็อยู่ในช่วงปลายวัฏจักรแล้วโดยอาจขึ้นดอกเบี้ยต่อได้อีกแค่ 1-2 รอบการประชุม ขณะที่ด้าน BOJ ยังสวนกระแสโลกเนื่องจากคาดว่าจะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายเดิมที่ -0.10% และคงมาตรการ yield curve control บนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีที่ +/-0.50% เพื่อป้องกันสภาวะเงินฝืดและรองรับให้เงินเฟ้อสามารถอยู่ในกรอบนโยบายได้หลังผลของเรื่องฐานราคาพลังงาน

3.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานภาคอสังหาฯของจีนอาจฟื้นตัวแบบ L-shape ซึ่งหมายถึงการฟื้นตัวอาจต้องใช้ระยะเวลายาวนานหลายปี เนื่องจากอุปสงค์ที่ลดลงตามแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของประชากรในอัตราที่ลดลง อีกทั้งนโยบายของทางการมีการเปลี่ยนแปลงหลังต้องการลดบทบาทความสำคัญและผลกระทบที่มีของกลุ่มอสังหาฯต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ตัวหุ้นที่อาจได้รับผลกระทบเช่น PSL, DOHOME, GLOBAL เป็นต้น

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

1.) เลือกหุ้นกลุ่ม Global play ที่ก่อนหน้านี้ปรับตัวลงมาเยอะจน valuation เริ่มน่าสนใจคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการ Restocking รอบใหม่บนมุมมอง Soft Landing และโอกาสที่จีนจะกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ผสานกับกลุ่ม Finance และ Quality growth ที่ได้ sentiment บวกจากโอกาสที่ Fed จะชะลอ หรือหยุดขึ้นดอกเบี้ย

1.1) IVL (ราคาพื้นฐาน 37 บาท)
1.2) PTTGC (ราคาพื้นฐาน 46.70 บาท)
1.3) HANA (ราคาพื้นฐาน 49 บาท)
1.4) TIDLOR (ราคาพื้นฐาน 30 บาท)
1.5) BE8 (ราคาพื้นฐาน 69.68 บาท)

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

  • COM7 (ราคาพื้นฐาน 35.07 บาท) ผู้บริหารกลับมาสื่อสารกับนักลงทุนอีกครั้งหลังงบ 1/2566 ประกาศ อีกทั้งมีการปรับเพิ่มเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2566 ขึ้นจาก 15% เป็น 20% หนุนจากการขยายสาขาเชิงรุก การเปิดตัวไลน์สินค้าใหม่และบริการทางการเงินใหม่เพื่อหนุนยอดขาย กอปรกับบริษัทมีการขยาย business model ใหม่ในลักษณะคอมมูนิตีค้าปลีกพร้อมนำเสนอขายสินค้าหลายประเภทมากขึ้น เช่น ร้านขายยา ร้านดูแลสัตว์เลี้ยง เทรดอิน การซื้อขายสินค้า IT มือสองและประกันภัย
  • PTTGC (ราคาพื้นฐาน 46.7 บาท) เรามองความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การเมืองภายในประเทศทำให้หุ้นในกลุ่ม Global play มีความน่าสนใจมากกว่า โดยเฉพาะ PTTGC ที่เราคาดว่าผลประกอบการจะทยอยฟื้นตัวขึ้นได้ตลอดทั้งปี หลังผู้บริหารยืนยันปริมาณอีเทนราคาถูกจะเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนก.ค.เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการใช้อีเทนเป็นวัตถุดิบจะเพิ่มขึ้นจาก 36% ในครึ่งแรกของปี 2566 เป็น 40% ในครึ่งหลังของปี 2566 ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มความสามารถในการทำกำไรได้ 4-5 พันลบ./ปี นอกจากนี้ ผู้บริหารเผยว่าระบบทุ่นรับน้ำมันดิบ (SPM) น่าจะกลับมาดำเนินงานได้ภายในปีนี้ โดยขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการซ่อมแซมแล้วและคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2566

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคารติดตามตัวเลขอัตราเงินฟ้อสหรัฐฯ CPI ของเดือน พ.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.1% YoY (เทียบจาก 4.9% YoY ในเดือนก่อนหน้า) และ Core CPI ตลาดมองที่ 5.3% YoY (เทียบจาก 5.5% YoY ในเดือนก่อนหน้า)
  • วันพุธ ติดตาม การประชุมธนาคารกลางของสหรัฐฯ FOMC โดยตลาดประเมิน Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 5.25% ซึ่งตลาดมองเป็นการสิ้นสุดรอบการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed หลังมีการปรับขึ้นมาต่อเนื่องนับตั้งแต่ มี.ค. 2022 กอปรกับแรงกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มปรับตัวลดลง
  • วันพฤหัสฯ มีหลายปัจจัยต้องติดตาม เริ่มจากช่วงเย็นมีการประชุมธนาคารกลางของยุโรป ECB ตลาดคาดจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 25bps จาก 3.75% เป็น 4.00% ตามด้วยตัวเลขค้าปลีกของสหรัฐ (retail sales) ตลาดมองทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (เทียบจาก +0.4% MoM ในเดือนเม.ย.) และตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯรายภูมิภาค Empire State และ Philly Fed manufacturing index ตลาดมองที่ -15.6% (เทียบจาก -31.8% ในเดือนก่อนหน้า) และ -12.3% (เทียบจาก -10.4% ในเดือนก่อนหน้า) ตามลำดับ
  • วันศุกร์ ติดตาม การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตลาดคาดยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.10% Monetary policy divergence ของ BOJ ที่ยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ขณะที่ธนาคารกลางอื่นทั่วโลกต่างปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังคงเป็น trading theme หลักที่ทำให้ดัชนี Nikkei ปรับตัวเพิ่มขึ้นและค่าเงิน JPY อ่อนค่าลง การประชุมรอบนี้มีความสำคัญในการติดตามว่า policy stance ของ BOJ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่
- Advertisement -