วันนี้คาดตลาด “Sideway Down”
แนวรับ 1,555 / 1,550 แนวต้าน 1,570 / 1,577 ผลการประชุม FOMC ออกมาตามคาด แต่ส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ขณะที่ภายในประเทศลุ้นประกาศรายชื่อสส.ทั้งหมดภายใน มิ.ย. นี้
Our View? “FED ยังดุ”
คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1,555 / 1,550 และแนวต้านที่บริเวณ 1,570 / 1,577 เมื่อคืนนี้ผลการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.00-5.25% ตามที่เรา และตลาดคาดไว้เพื่อที่จะประเมินผลกระทบของการใช้อัตราดอกเบี้ยแบบตึงตัวต่อไป ขณะที่คาดว่าผลกระทบของปัญหาธนาคารสหรัฐยังคงมีความไม่แน่นอน ทั้งนี้ที่ประชุมยังคงมุมมองต่อเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวขึ้นต่อเนื่อง และการจ้างงานยังคงแข็งแกร่งกว่าคาด แม้จะเผชิญความตึงตัวของนโยบายทางการเงินของ FED ไปบ้างแล้ว ทำให้ FED อาจใช้เวลานานขึ้น ในการกดอัตราเงินเฟ้อให้ปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) ของ FED ที่เราแนะนำให้ติดตามแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED ในระยะถัดไปมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นสู่ค่ากลางที่ระดับ 5.625% ในปีนี้ จากก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 5.125% และในปีหน้าอยู่ที่ระดับ 4.625% จากคาดการณ์ก่อนหน้าที่ระดับ 4.25% สะท้อนถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้อีกราว 2 ครั้งของ FED ในปีนี้ และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงที่ช้ากว่าที่ตลาดคาด คาดจะกระตุ้นแรงขายทำกำไรระยะสั้น ในสินทรัพย์เสี่ยงได้บ้าง
อย่างไรก็ดี วันนี้แนะนำติดตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมระยะกลางระยะ 1 ปี (1-Year MLF) จากระดับ 2.75% สู่ระดับ 2.65% ของธนาคารกลางจีน (PBOC) หลังจากก่อนหน้า PBOC ปรับลดอัตราดอกเบี้ย Reverse Repurchase Rate ลง 0.1% สู่ระดับ 1.9%, ลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อโครงการเงินกู้ระยะสั้น (SLF) แบบข้ามคืน, ระยะ 7 วัน และ 1 เดือนลง สู่ระดับ 2.75%, 2.90% และ 3.25% คาดเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน หลังจากตัวเลข CPI ของจีนเดือน พ.ค. ออกมาเพียงระดับ 0.2% และถือเป็นสัญญาณของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนเพิ่มเติมได้อีกครั้ง คาดจะส่งผลให้มีสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดเพิ่มเติมเป็นปัจจัยบวกอ่อนๆ ต่อทิศทางตลาดในภูมิภาค
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.ค. เมื่อคืนนี้อ่อนตัวลงอีกครั้ง ปิดที่ระดับ 68.27 ดอลลาร์/บาร์เรล -1.15 ดอลลาร์ (-1.66%) โดยได้รับแรงกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 7.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางจากที่ตลาดจะลดลง 11.1 ล้านบาร์เรล อีกทั้งตลาดยังคงกังวลกับแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED อีก 2 ครั้ง อาจส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบอ่อนแอกดดันทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานได้บ้างเล็กน้อย สำหรับปัจจัยภายในประเทศเรามองยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้าสนับสนุนการฟื้นตัวขึ้นได้ดี โดยย้งให้น้ำหนักหลักไปกับการรอติดตามความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาลยังเป็นปัจจัย Overhang กดดันตลาดได้อยู่ โดยล่าสุด กกต. รายงานมีการรับรอง สส. แบ่งเขตไปแล้ว 100 คน และคาดจะรับรอง สส. ทั้งหมดได้ภายในเดือน มิ.ย. นี้
ทั้งนี้เรายังแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัวสำหรับหุ้นในกลุ่ม Domestic ในประเทศ 1.) หุ้นในกลุ่มธนาคารฯ (KBANK, SCB, และ BBL) ปรับตัวขึ้นได้ จากแนวโน้มผลประกอบการ 2Q’66 ที่มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้งเราเริ่มเห็นอัตราการเติบโตของสินเชื่อในบางธนาคารฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว 2.) หุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO, BJC, DOHOME และ GLOBAL) ที่เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวในประเทศจากการบริโภคและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ รวมทั้งยังได้รับประโยชน์จากแนวโน้มค่าไฟที่ปรับลดลง รวมทั้ง 3.) หุ้นในกลุ่มส่งออกสินค้าเกษตร (TU, GFPT, TFG และ CPF) จากตัวเลขการส่งออกสินค้าเกษตรยังคงขยายตัว 23.8% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 รวมทั้งราคาเนื้อสัตว์ที่เริ่มทยอยปรับตัวขึ้นบ้างแล้ว คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนทิศทางหุ้นดังกล่าวฟื้นตัวขึ้นได้
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “KBANK”
- คาดแนวโน้มกำไร 2Q’66 จะเติบโตได้สูง QoQ และ YoY ตาม NIM มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการปรับดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา OPEX ลดลง และ ECL ที่คาดจะลดลง
- ทางเทคนิคในแกว่งตัวกรอบหลัก Sideways พยายาม Breakout แนวต้านที่เส้นแนวโน้มขาลงระยะสั้น แนะนำทยอยซื้อสะสม
กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 131.00 / 129.00 Target 139.00 / 142.00 Stop <126.00