บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง:
TOA Paint (Thailand) (TOA TB) แนวโน้มเติบโตและมาร์จิ้นขยายตัว
ปรับประมาณการ และ ราคาเป้าหมายขึ้น คงแนะนำ ซื้อ
เราคงแนะนำ ซื้อ โดยปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 40 บาท จากเดิม 37 บาท บนฐาน Forward P/E เฉลี่ย 35 เท่า จากประมาณการที่ปรับขึ้นเพิ่ม เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาด จากต้นทุนที่ลดต่ำลง แนวโน้มยอดขายและกำไรปกติปี 2566 จะเติบโตสูง 10% / 40% ตามลำดับ และปี 2567 คาดจะเติบโตดีต่อ 8% / 10% ระยะยาวจะได้แรงบวกเพิ่มจากการขยายสู่วัสดุก่อสร้างครบวงจรมากขึ้น TOA มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีเงินสดในมือสูง 7.5 พันล้านบาท โดยปัจจัยที่จะช่วยหนุนราคาหุ้น คือ ยอดขายที่เติบโต และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีจากต้นทุนที่ลดลง หนุนกำไรเติบโตสูง
ผู้บริหารคงเป้ายอดขายโต 15% ในขณะที่มาร์จิ้นขยายตัว
ปี 2566 ผู้บริหารคงเป้าหมายยอดขายจะเติบโต 15% ในขณะที่ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มเป็น 32.9-34% จากเดิม 31% เนื่องจาก TOA จะใช้ TiO2 จากจีนซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่า 25-30% เข้ามาผสม TiO2 จากสหรัฐและยุโรป ในสัดส่วน 35% จากเป้าเดิม 20% โดย TiO2 มีสัดส่วน 20% ของต้นทุนรวม รวมถึง ต้นทุน Oil Link (สัดส่วน 15% ของต้นทุนรวม) ราคาก็ปรับลดลง
ปรับประมาณการกำไรเพิ่มขึ้น คาดปีนี้จะโตสูง
ปี 2566 เราปรับลดประมาณการยอดขายลงเหลือ 22,613 ล้านบาท โต 10% จากเดิมคาดจะโต 15% เนื่องจากในช่วงที่เหลือของปีจะไม่ได้ผลบวกจากราคาที่ปรับขึ้นใน 2Q65-3Q65 ในขณะที่ปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 32.8% จากเดิม 30% เนื่องจากได้ผลบวกจากต้นทุนที่ลดลง และ ใช้ TiO2 จากจีนซึ่งมีต้นทุนถูกกว่ามาผสมมากขึ้น ทำให้กำไรปกติจะเติบโตสูงถึง 40% สู่ระดับ 2,339 ล้านบาท แผนการลงทุนขยายธุรกิจจะช่วยหนุนยอดขาย และกำไรปี 2567 เติบโตต่อ 8% / 10% ตามลำดับ
หุ้นมี Valuation ที่น่าสนใจ
TOA มี Valuation คือ ปี 2566 ซื้อขาย P/E เท่ากับ 28.2 เท่า (-1.5 SD), P/BV 4.7 เท่า (-1 SD) และ EV/EBITDA 15.8 เท่า และ ปี 2567 Valuation จะถูกลงอีก คือ P/E เท่ากับ 25.6 เท่า, P/BV 4.3 เท่า และ EV/EBITDA 14.6 เท่า โดย TOA มีเงินสดในมือสูง 7.5 พันล้านบาท ในขณะที่มีเงินกู้ที่มีภาระดอกเบี้ยเพียง 153 ล้านบาท มีกระแสเงินในรูป EBITDA เท่ากับ 3.8-4 พันล้านบาท ในช่วงปี 2566-2567