วันนี้คาดตลาด “Sideways”
แนวรับ 1,555 / 1,550 แนวต้าน 1,565 / 1,570 คาดได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศ ตลาดไม่เช่ือ FED จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง พร้อมจีนลดดอกเบี้ยคาดออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมา
Our View? “ขึ้นตามเพื่อนบ้าง”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,555 / 1,550 และแนวต้านที่บริเวณ 1,565 / 1,570 ผลการประชุม ECB ของธนาคารกลางยุโรปเมื่อคืนนี้ออกมาขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดไว้ที่ระดับ 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากระดับ 3.50%, อัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 4.25% และอัตราดอกเบี้ย Refinancing อยู่ที่ระดับ 4.00% และยังส่งสัญญาณถึงแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นต่อเนื่อง จากการที่เงินเฟ้อของยุโรปยังอยู่ในระดับสูงกว่า 6.1% ในเดือน พ.ค. เรามองเป็นปัจจัยเสี่ยงกระตุ้นความกังวลเศรษฐกิจยุโรปมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยได้ในระยะถัดไป แต่คาดตลาดอาจยังไม่ให้น้ำหนักในปัจจุบันมากนัก
ขณะที่เมื่อคืนนี้กระทรวงพาณิชย์สหรัฐตัวเลขยอดค้าปลีก (Retail Sale) เดือน พ.ค. ออกมา +0.3% สวนทางจากที่ตลาดคาดว่าจะ -0.1% โดยเฉพาะยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น สะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐในฝั่งผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง อีกทั้งตัวเลขดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) เดือน มิ.ย. ออกมา +6.6 สูงกว่าที่ตลาด คาด –16.0 มองเป็นปัจจัยลดทอนความกังวลในแนวโน้มการเกิดเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง (Hard Landing) ของสหรัฐได้บ้าง อีกทั้งตลาดยังผ่อนคลายความกังวลเกี่ยวกับการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หลังจากที่ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคสหรัฐ (CPI) เดือน พ.ค. ปรับตัวขึ้นเพียง 4.0% ต่ำกว่าที่ตลาดคาด และเป็นสัญญาณถึงการที่เงินเฟ้อสหรัฐมีโอกาสปรับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในระยะกลาง อีกทั้งล่าสุด CME FED Watch Tools บ่งชี้ตลาดคาดการณ์ FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเพียง 1 ครั้งสู่ระดับ 5.50% ก่อนที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงสิ้นปี’66 และจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตั้งแต่ต้นปี’67 ต่างจากที่ Dot Plot ของ FED ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ เป็นปัจจัยหนุนทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้นได้บ้าง
อีกทั้งเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อการที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ลง 0.1% สู่ระดับ 2.65% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีนหลังตัวเลขเงินเฟ้อจีนในระยะถัดไปมีความเสี่ยงหดตัวเข้าสู่ภาวะเงินฝืด ทำให้เกิดคาดการณ์ว่าจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม มองเป็นบวกต่อทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงในภูมิภาค
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน ก.ค. ฟื้นตัวขึ้นปิดที่ระดับ 70.62 ดอลลาร์/บาร์เรล +2.35 ดอลลาร์ (+3.44%) ได้รับแรงหนุนจาก PBOC ปรับลดอัตราดอกเบี้ย และแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ของโลก คาดจะหนุนอุปสงค์น้ำมันฟื้นตัวขึ้นได้ อีกทั้งยังได้รับรายงานปริมาณการกลั่นน้ำมันเดือน พ.ค. ในจีนพุ่งขึ้น 15.4% YoY คาดจะหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงาน-โรงกลั่น ฟื้นตัวกลับขึ้นได้ (PTTEP, PTTGC, TOP และ SPRC)
สําหรับปัจจัยภายในประเทศเรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ กกต. เตรียมประกาศรับรอง สส. แบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ มองเป็นพัฒนาการเชิงบวกต่อการจัดตั้งรัฐบาลของไทย อย่างไรก็ตาม เรายังมองความไม่แน่นอนทางการเมืองเกี่ยวกับการถือหุ้นสื่อของคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คาดยังเป็นปัจจัย Overhang จำกัด Upside ของตลาดได้อยู่ ทั้งนี้เรายังแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมเมื่ออ่อนตัว สําหรับหุ้นในกลุ่ม Domestic ในประเทศ 1.) หุ้นในกลุ่มธนาคารฯ (KBANK, SCB, และ BBL) ปรับตัวขึ้นได้จากแนวโน้มผลประกอบการ 2Q66 ที่มีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น รวมทั้งเราเริ่มเห็นอัตราการเติบโตของสินเชื่อในบางธนาคารฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว 2.) หุ้นในกลุ่มค้าปลีก (CPALL, MAKRO, BJC, DOHOME และ GLOBAL) ที่เราคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวในประเทศจากการบริโภคและการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ รวมทั้งยังได้รับประโยชน์จากแนวโน้มค่าไฟที่ปรับลดลง รวมทั้ง 3.) หุ้นในกลุ่มส่งออกสินค้าเกษตร (TU, GFPT, TFG และ CPF) จากตัวเลขการส่งออกสินค้าเกษตรยังคงขยายตัว 23.8% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 รวมทั้งราคาเนื้อสัตว์ที่เริ่มทยอยปรับตัวขึ้นบ้างแล้ว คาดจะเป็นจิตวิทยาเชิงบวกหนุนทิศทางหุ้นดังกล่าวฟื้นตัวขึ้นได้
ธีมการลงทุน “SelectivePlay”
หุ้นแนะนำวันนี้ “TOP”
- คาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงบวกจากรายงานจีน กลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้นกว่า 15.4%YoY ในเดือน พ.ค. หนุ่มทิศทางค่าการกลั่นเพิ่มขึ้น
- ทางเทคนิคในราคา Breakout แนวต้านที่เส้นแนวโน้มขาลงก่อนอ่อนตัวลงทดสอบ EMA10 วัน
- กลยุทธ์ เล่นรีบาวด์ แนวรับ 45.50 / 44.75 Target 48.00 / 51.00 Stop <44.50