ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

รีบาวด์สั้น ก่อนผันผวนต่อ

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์ รีบาวด์สั้น ก่อนเทรดผันผวนต่อ…. หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยปิดลบเล็กน้อย แต่ที่จริงหุ้นหลายกลุ่มปรับลงค่อนข้างแรง โดยเฉพาะกลุ่มไฟแนนซ์ หลังจากทั้งเฟดและ ธปท. ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อ แต่แรงซื้อหนักในหุ้น DELTA (+9.31%) ตัวเดียวมีผลบวกต่อดัชนีฯ 9.69 จุด… สำหรับในวันนี้ ปัจจัยโดยรวมเป็นบวกเล็กน้อย i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับขึ้นต่อค่อนข้างแรง หลังจากตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 0.3% MoM สูงกว่าที่ consensus คาด ทำให้ตลาดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังเดินหน้าต่อได้ในช่วงสั้น และลดความกังวลต่อเฟดที่น่าจะขึ้นดอกเบี้ยต่ออีก i) ค่าเงินดอลล่าร์ฯ ร่วงแรง (เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงในเอเชีย) หลังจากสกุลเงินยูโรฯ แข็งค่าแรง ตามการที่ ECB ประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 4.00% และส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยต่ออีกในการประชุม ECB รอบถัดไปในเดือน ก.ค. อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่าค่าเงินบาททำได้เพียงประคองตัว (ไม่แข็งค่าขึ้น) สะท้อนความไม่แน่นอนของปัจจัยการเมืองภายในประเทศ และชี้ว่าฟันด์โฟลว์ต่างชาติน่าจะยังไม่มีความต่อเนื่อง ภาพใหญ่ของ SET Index จึงยังคงเป็นไซด์เวย์อยู่

หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร LH*, BBL*, PLT

  • LH (เป้าพื้นฐาน 9.84 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 8.5 บาท / แนวต้าน 8.65 – 8.8 บาท กรณี Break ผ่านกรอบแนวต้านนี้ได้ ประเมินฟื้นตัวทดสอบแนวต้านถัดไป +/-9.0 บาท (Stop loss 8.4 บาท) 2) ประเมินธุรกิจพื้นที่เช่าและโรงแรมปีนี้หนุนผลการดำเนินงานปีนี้ ให้ยังเติบโตได้เล็กน้อย YoY (ชดเชยธุรกิจอสังหาฯ ที่อาจชะลอตัว) รวมทั้งยังมีโอกาสบันทึกกำไรจากการขายโรงแรมเข้า LHHOTEL REIT มากกว่าคาด (ล่าสุดเตรียมขายโรงแรม 2 แห่ง เดิมคาด 1 แห่ง) 3) ปันผลสูง คาดปันผลต่อหุ้นปีนี้ 0.7 มาท Dividend yield +8% ต่อปี
  • BBL* (เป้าพื้นฐานฐาน 186 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 161.5 บาท / แนวต้าน 164.5 – 166.5 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ แนะนำ “เก็งกำไรตาม” มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 169 บาท (Stop loss 160 บาท) 2) ประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยยังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อ (แม้จะพักในเดือนนี้) และ ธปท. ยังส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อ ขณะที่คาดฐานลูกค้าองค์กรของ BBL ยังสามารถรับแรงกดดันเรื่องอัตราดอกเบี้ยได้ดี 3) PBV ยังต่ำเพียง 0.6 เท่า ยังต่ำค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 0.7 เท่า ขณะที่ Sentiment ต่างๆ เป็นบวก
  • PLT (เป้าพื้นฐาน 2.0 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 1.21 บาท / แนวต้าน 1.30 – 1.35 บาท กรณี Break ผ่านแนวต้านนี้ได้ แนะนำ “เก็งกำไรตาม” มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 1.40 บาท (Stop loss 1.21 บาท) 2) คาดเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจากมีสัญญาการขนส่ง LPG ที่ชัดเจนจากลูกค้ารายใหญ่ คาดแนวโน้มกำไรปีนี้โต +24% YoY เป็น 109 ล้านบาท โดยผลการดำเนินงาน 2H66 คาดจะโต HoH จาก i) เตรียมซื้อเรือขนส่งฯ ใหม่ ii) เริ่มรับรู้รายได้การขนส่ง LPG ให้ทาง OR* เดือน ธ.ค. iii) การท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวเต็มที่หนุนการใช้ LPG 3) Valuation ถูก ด้วย Forward PE ที่ต่ำเพียง 11.5 เท่า และ Dividend yield ปีนี้คาดไว้ที่ +/- 4.0%

หุ้นมีข่าว

(- SPA) สปาไทยกุมขมับหมอนวดขาดแคลนหนัก (ข่าวสด) ซาอุฯ กว้านซื้อให้เดือนละ 2 แสน-วอนปลดล็อกอาชีพสงวน ร้านสปาไทยระส่ำ ‘ซาอุ-ดูไบ” กว้านซื้อตัว “หมอนวด’ เพิ่มค่าจ้างให้ 1.6-2 แสนบาท/เดือน จากที่ทำเมืองไทยได้ค่าจ้าง 3 หมื่นบาท/เดือน วอนรัฐบาลปลดล็อกอาชีพสงวนเพราะคนไทยไม่ทำงานบริการ

(+) ผู้ถือหุ้น SA อนุมัติเพิ่มทุน PP เสริมแกร่งลุยขยายธุรกิจ ยันรายได้ปีนี้โตเกิน 130% (ข่าวหุ้น) ผู้ถือหุ้น SA ไฟเขียวแผนเพิ่มทุน 119.27 ล้านหุ้น เสนอขาย PP ด้านซีอีโอ “ขจรศิษฐ์” ลั่นเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงิน รองรับแผนขยายธุรกิจ ย้ำเป้ารายได้ปีนี้นิวไฮโตเกิน 130%

(+) AWC ทุ่มงบ 7.7 พันล. ซื้อรร.พลาซ่าแอทธินี (ทันหุ้น) AWC ทุ่มงบลงทุน 7,789 ล้านบาท เทกโอเวอร์พลาซ่าแอทธินี พร้อมจับมือ Nobu Hospitality ร่วมพัฒนา 2 โรงแรมในกรุงเทพฯ และนิวยอร์ก เป็นไปตามกลยุทธ์สร้างการเติบโต และสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัทอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

(+) KTMS ลุยขยายหน่วยไตเทียม หนุนปีนี้โต 45% (ข่าวหุ้น) KTMS ส่งซิกรายได้ไตรมาส 2/66 พุ่ง! อานิสงส์ขยายหน่วยไตเทียม-เครื่องไตเทียม ครึ่งปีหลังลุยเปิดหน่วยไตเทียมตามแผน 5-11 แห่ง จากปีก่อน 22 แห่ง และเพิ่มเครื่องไตเทียม 86-106 เครื่อง ปีนี้รายได้ 500 ล้านบาท โต 45%

(+) VIBHA ยอดผู้ใช้บริการแน่น Q2 จ่อบุ๊กกำไรพิเศษ 100 ล. (ทันหุ้น) VIBHA แบไต๋ Q2/2566 ฟอร์ม แจ่ม อานิสงส์ยอดผู้ใช้บริการพุ่ง-เพิ่มค่าหัว สปส.หนุน แถมจ่อบุ๊กกำไรพิเศษขายหุ้น “โรงพยาบาล มเหสักข์” ราว 100 ล้านบาท คาดเข้าพอร์ตในครึ่งแรกปี 2566 แถมวางหมากปี 2566 รายได้ค่ารักษาปกติ เติบโตต่อเนื่อง ขานรับยอดผู้ใช้บริการพุ่ง

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • BCH* (เป้าพื้นฐาน 23 บาท) แนวรับ 18.2 บาท / แนวต้าน 18.7 – 19.1 บาท (Trailing stop 18.1 บาท)
  • IP (เป้า Consensus 19.55 บาท) แนวรับ 12.4 บาท / แนวต้าน 13.2 – 13.5 บาท (Trailing stop 12.4 บาท)
  • PJW (เป้าพื้นฐาน 6.8 บาท) แนวรับ 4.4 บาท / แนวต้าน 4.5 – 4.6 บาท (Stop loss 4.4 บาท)
  • SCGP* (เป้าพื้นฐาน 50 บาท) แนวรับ 39.25 บาท / แนวต้าน 40.75 – 42.5 บาท (Stop loss 38.25 บาท)
  • AAV* (เป้าพื้นฐาน 3.7 บาท) แนวรับ 2.84 บาท / แนวต้าน 2.94 – 3.0 บาท (Stop loss 2.84 บาท)
  • SPALI* (เป้าพื้นฐาน 24.6 บาท) แนวรับ 20.7 บาท / แนวต้าน 21.4 – 21.6 บาท (Stop loss 20.6 บาท)
  • BAFS (เป้าพื้นฐาน 36.5 บาท) แนวรับ 31.5 บาท / แนวต้าน 32.5 – 34.0 บาท (Stop loss 31 บาท)
  • GFPT (เป้าพื้นฐาน 17.7 บาท) แนวรับ 12.0 บาท / แนวต้าน 12.7 – 13.1 บาท (Stop loss 11.9 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ น้ำหนักลงทุน “น้อยกว่าตลาดฯ” ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินวัฏจักรขาลงของอุตสาหกรรมฯมีโอกาสจบลงเร็วๆนี้ อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยลบบางประการที่ยังต้องพิจารณา เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ค่าเงินบาทผันผวน การปรับขึ้นค่าแรง ฯลฯ ทั้งนี้วันนี้ฝ่ายวิจัยฯ ออกบทวิเคราะหุ้นรายตัว Preview ผลการดำเนินงาน 2Q66 ในภาพรวมดีขึ้น QoQ ทุกบริษัท เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นฟื้นตัว ขณะที่คาด HANA KCE กำไรจะลดลง YoY เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง ยังคงให้น้ำหนักหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ที่ “น้อยกว่าตลาดฯ” และแนะนำให้นักลงทุนจับตาดูพัฒนาการโดยรวมเพื่อยืนยันว่าอุตสาหกรรมกำลังกลับไปเป็นขาขึ้น (มีโอกาสการ re-rate PER ขึ้น)
- Advertisement -