แรงบวกดูโดดเดี่ยว / 1,545 – 1,565
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาดดัชนี SET ภาคเช้าเปิดบวก แต่ยังต้องลุ้นว่าจะยืนบวกได้หรือไม่: แรงหนุนภาคเช้าจากการเมืองในประเทศ หลังช่วงสุดสัปดาห์ได้ข้อตกลงพรรคร่วมรัฐบาล โดยประธานสภาจะมาจากพรรคก้าวไกล ขณะที่พรรคเพื่อไทยได้รองประธานสภา ทำให้บรรยากาศการเมืองไทยคืบหน้ามากขึ้น อย่างไรก็ตาม อดีตกรรมการนโยบายฯ ก.คลัง ยังเป็นห่วง ถึงนโยบายที่หาเสียงอาจใช้งบสูงถึง 6.5 แสน ลบ. ซึ่งอาจทำให้ทางก้าวไกลไม่สามารถดำเนินนโยบายได้ตามที่หาเสียงไว้ได้ ขณะที่หุ้นกลุ่มนายทุนใหญ่ ซึ่งเป็นกลุ่ม Big Cap. อาจกดดันดัชนี SET จากนโยบายของว่าที่พรรครัฐบาลใหม่ ซึ่งเป็นเชิงส่งเสริมการแข่งขันและลดการผูกขาด นอกจากนี้ Big Cap. ยังเสี่ยงถูกขายจากกระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังไหลออกจากหุ้นไทยต่อเนื่องแล้วกว่า 1.03 แสน ลบ. YTD ส่วนปัจจัยภายนอกถูกกดดันจากความกังวลว่าเฟดอาจดำเนินนโยบาย Hawkish ต่อไป หลังคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟดมองเง็นเฟ้อพื้นฐานยังปรับตัวลงช้ำ และห่างจากเป้าหมายที่ระดับ 2% สอดคล้องกับประธานเฟดสาขาริสมอนด์ ที่ยังสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป หนุนให้ Fed Watchtool มองโอกาสถึง 71.9% ที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบประชุม 26 ก.ค. เช่นเดียวกับ Euro Zone ที่คาดจะยังเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังคืนวันศุกร์เผยดัชนี CPI พ.ค.ยังสูงที่ 6.1%y-y แต่ความผันผวนของดัชนี SET วันนี้อาจไม่มาก จากคืนนี้ที่ฝั่งสหรัฐจะปิดทำการสัปดาห์นี้ติดตามถ้อยแถลงนโยบายการเงินสหรัฐรอบครึ่งปีหลัง หากส่งสัญญาณ Hawkish จะเป็นลบต่อดัชนี ส่วนแรงบวกยังพอมีจากหวังความสัมพันธ์สหรัฐ-จีนอาจคืบหน้า
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) หุ้นเข้าคำนวนดัชนี SET50/100: BTG, ERW, MBK, TLI, WHA 2) ท่องเที่ยว+ Spending : BA, CPALL, CRC, MINT 3) ม.กระตุ้นศก. จีน: HANA, KCE, SCGP, STA 4) Commodities: BANPU, BCP, LST, TVO
ปัจจัยบวก
- ปธน.สี จิ้นผิง กล่าวระหว่างพบบิลเกตส์ ว่าจีนยินดีทำงานกับทั่วโลกในด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี เสริมความหวังการพัฒนาความสัมพันธ์ ต่อไปยังการนัดพบระหว่าง รมต.ต่างประเทศ ทั้งจีน ฉิงกัง กับ รมต.ต่างประเทศสหรัฐ แอนโทนี บลิงเกน ในสัปดาห์นี้
- BOI เผยยุทธศาสตร์ส่งเสริมการลงทุนปี 66-70 ใน 4 จังหวัด เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (NeEC) ซึ่งปีนี้มีการลงทุนแล้วกว่า 24 โครงการ มูลค่าลงทุนแล้วกว่า 3.8 พันล้านบาท (YTD) ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเกษตร-แปรรูปอาหาร
- หุ้นที่เข้าคำนวนดัชนี SET50 รอบครึ่งปีหลัง TLI, WHA ส่วน หุ้นเข้าคำนวน SET100: BTG, ERW, MBK, SNNP, STEC, TASCO และ TLI
ปัจจัยลบ
- ธนาคาร UBS ลดเป้าเศรษฐกิจจีนปีนี้จาก 5.7% เหลือ 5.2% หลังจากที่ทางการจีนเผยข้อมูลเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผลผลิตภาคอุตสาหกรรมอ่อนแอ
- โยอาคิม นาเจล ปธ.ธนาคารกลางเยอรมนี และ IMF ยังสนับสนุนให้ ECB เดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เพื่อ เป้าหมายเงินเฟ้อลดสู่เป้า 2% อย่างทันท่วงที
- นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายฯ ก.คลัง คาดรัฐบาลใหม่อาจมีงบสำหรับจัดทำรัฐสวัสดิการเพียง 2 แสนลบ. ซึ่งต่ำกว่าจบที่คาดว่าจะต้องใช้ตามนโยบายที่หาเสียงซึ่งคาดไว้ราว 6.5 แสนลบ.
PICKS OF THE DAY
SCGP BUY
- เป้าหมาย 40.75 / 42.00 แนวรับ 37.50 /38.50
- ลุ้นอุปสงค์จีนหนุน ขณะที่เวียดนามผ่อนคลาย: ล่าสุดจีนส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ ทางฝ่ายมองว่าจะช่วยหนุนปริมาณการขายรวมและราคาขายในต่างประเทศ กอปรกับได้ Sentiment ทางบวกจากการปรับลด Refinancing rate ของเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่ SCGP จะขยายการลงทุน
- แรงกดดันลด กอปรกับ Downside จำกัด: แรงกดดันด้านต้นทุนลดลงตามราคาพลังงานและค่าขนส่งที่ปรับตัวลดลง หนุนผลประกอบการฟื้นตัว นอกจากนี้ราคาหุ้นยังถูก โดยค่า P/BV อยู่ที่ 1.7 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 2.5 อีกทั้งปรับตัวลงต่ำกว่า -2SD และมี Downside จำกัด เนื่องปัจจุบันราคาได้ปรับลงมาแล้ว 31% จากต้นปี
CRC BUY
- เป้าหมาย 41.50 / 43.00 แนวรับ 39.00 / 39.50
- การจับจ่ายฟื้นตัว รับความเชื่อมั่น ร่วมกับความชัดเจนทางการเมือง: ไม่เพียงแต่ภาพ ศก. ที่ฟื้นตัวหลังเปิดเมืองจะกระตุ้นการจับจ่ายจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ความชัดเจนทางการเมืองก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เข้ามาช่วยสนับสนุนหลังสร้างความมั่นใจให้ต่างชาติกล้ากลับเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งดีต่อภาพรวม
- ขานรับต้นทุนการเงินธุรกิจลดลง: แม้ภาพ ศก. เวียดนามจะยังอ่อนแอและส่งผลต่อการปรับลดของอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงต่อเนื่อง หากแต่ในแง่ CRC ซึ่งมีธุรกิจอยู่ในเวียดนามทั้ง Food, Hardline และพื้นที่ให้เช่า (สัดส่วนรายได้ 22% สิ้น 1Q66) มองเป็นการจำกัด Downside Risk นอกเหนือจากการคาดหวังมาตรการกระตุ้น ศก. ของเวียดนามเพิ่มเติม