KS Daily View 19.06.2023 >>> มองตลาดฟื้นตัวต่อ หลัง FED ประเมินไม่มี Recession คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,550-1,565/1,585 หุ้นแนะนำวันนี้ PTTEP AP

สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้

ต่างประเทศ : ดัชนี DJIA -0.32%, S&P 500 -0.37%, NASDAQ -0.68% โดย Sector ที่ outperform ใน S&P500 ได้แก่ Utilities (+0.53%), Consumer staples (+0.05%) ส่วน Communication services (-1.0%), Information technology (-0.83%), Financial (-0.22%)

ในประเทศ: SET Index +1.68 pts. หรือ +0.11% เป็น 1,559.39 จุด ตัวขับเคลื่อนหลักสำคัญคือ PTT (+1.6%), GULF (+2.2%), BAY (+4.0%), PTTEP (+1.3%) ตัวฉุดคือ BH (-2.6%), AOT (-0.3%), TRUE (-1.5%), PTTGC (-1.9%)

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

คาดดัชนีแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,550-1565/1585 จุด มองตลาดฟื้นตัวต่อหลังย่อยผลประชุม Fed แล้วให้น้ำหนักมุมมองที่ว่าเศรษฐกิจยังดี ไม่มี recession อีกทั้งการขึ้นดอกเบี้ยอาจทำไม่ได้มากเท่าที่ Fed ประเมิน กอปรกับวันจันทร์ต้นสัปดาห์นี้ธนาคารกลางจีน PBOC มีกำหนดประชุมเพื่อกำหนดทิศทางนโยบายการเงิน ตลาดคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย Loan prime rate ลงอีก การเมืองภายในประเทศก็มีลุ้นว่าอาจสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้เร็วขึ้นหลังคาดกกต.รับรองส.ส.สัปดาห์นี้

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) เรามองประเด็นผลการประชุมของธนาคารกลางต่างๆยังเป็นปัจจัยหลักในการเป็นตัวแปรกำหนดทิศทางกระแสการลงทุนในช่วงนี้ โดยเฉพาะหลังการประชุม FOMC ของสหรัฐฯสัปดาห์ที่แล้ว Fed ประเมินว่าจะไม่มี Recession ในปี 2023 และเศรษฐกิจจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง กอปรกับต้นสัปดาห์นี้ธนาคารกลางของจีน PBOC มีโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย Loan prime rate ลงต่อ 10bps จาก 3.65% เป็น 3.55% หลังจากในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้าก็มีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาพยุงเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เราจึงมองว่าแว้ดล้อมการลงทุนน่าจะยังเป็นบวกได้ต่อและกลุ่ม Global play ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้แรงส่งจากประเด็นนี้น่าจะเป็นกลุ่มที่นำตลาดต่อ

2.) ประเด็นการเมืองภายในประเทศก็เริ่มมีพัฒนาการเชิงบวกหลังจากที่มีข่าวว่ากกต.ได้ทยอยพิจารณารับรองส.ส.ไปแล้วอย่างต่อเนื่องตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว สำนักข่าวรายงานคาดว่ากระบวนการพิจารณาส.ส.น่าจะสามารถดำเนินการแล้วเสร็จและประกาศรับรองได้ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ ทำให้กลุ่มพรรคร่วมรัฐบาล 8 พรรคมีกำหนดที่จะจัดประชุมร่วมกันหลังการประกาศรับรองในวันที่ 22 มิ.ย. ซึ่งวาระการหารือคือการเจรจาร่วมกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาล ทั้งนี้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาทิศทางการเจรจาดูมีความชัดเจนมากขึ้นหลังพรรคเพื่อไทยยอมถอยให้สำหรับประเด็นความขัดแย้งเรื่องตำแหน่งประธานสภากับทางพรรคก้าวไกล แต่อาจขอเจรจาตำแหน่งรองประธานสภา 2 ตำแหน่งแทน

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

1.ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,555 – 1,585 จุด โดยปัจจัยบวกหลักจะมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวทำให้ใกล้จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลักอย่าง Fed อีกทั้งมีหลายประเทศที่กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม นอกจากนี้การอ่อนค่าของเงิน USD จะเป็นปัจจัยหนุน Fund flow กลับเข้าลงทุนในตลาดเกิดใหม่ด้วย

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

PTTEP (ราคาพื้นฐาน 160 บาท) ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ $US 71.78/barrel เพิ่มขึ้น +2.29% WoW หลัง Fed ประกาศพักการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเมินไม่มี recession และตัวเลข US retail sale เดือน พ.ค. ที่ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด รวมถึงทางการจีนมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เรามองว่า PTTEP จะได้แรงส่งจากประเด็นเหล่านี้ต่อ

AP (ราคาพื้นฐาน 14.2 บาท) เราชอบ AP ในความสำเร็จอย่างต่อเนื่องของโครงการแนวราบใหม่ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดย AP สามารถสร้างยอดขายราว 20-30% ของมูลค่าโครงการทั้งหมดของโครงการใหม่ส่วนใหญ่ในช่วงเปิดตัวได้ อีกทั้งโครงการคอนโดของบริษัทฯ ยังได้รับการตอบรับจากผู้ซื้อในระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงชุดสัปดาห์ที่ผ่านมา AP เปิดตัวโครงการคอนโดใหม่ได้กระแสตอบรับค่อนข้างดีมาก เป็นโครงการแรกในรอบหลายๆปีที่เราเห็นลูกค้ามาต่อคิวรองจองตั้งแต่ตี 3 ปัจจุบัน AP ซื้อขายด้วย PER ปี 2566 ที่เพียง 6.2 เท่า และ DY ปี 2566 ที่ 5.5% ซึ่งถือว่าราคาหุ้น AP ค่อนข้างถูก และเราคาดว่ามูลค่าหุ้นจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามแนวโน้มกำไรที่เพิ่มขึ้น

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันอังคารติดตามตัวเลขการอนุญาตก่อสร้างในสหรัฐฯ (Building permits) ตลาดคาดที่ 1,430k (เทียบจากเดือนก่อนหน้าที่ 1,417k) และ ตัวเลขบ้านก่อสร้างใหม่ (Housing starts) ตลาดคาดที่ 1,400k (เทียบจากเดือนก่อนหน้าที่ 1401k) ตัวเลขน่าสนใจเพราะอาจต้องติดตามว่าสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯในสหรัฐฯที่เริ่ม-ฟื้นตัวกลับมาว่าจะมีความต่อเนื่องหรือไม่
  • วันพุธ ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ตลาดคาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ 25bps เป็น 4.75% (เทียบจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.50%) แรงกดดันเงินเฟ้อในยุโรปและอังกฤษยังคงอยู่ในระดับสูงและปรับตัวลดลงช้ากว่าฝากฝั่งสหรัฐฯ ตลาดยังมองดอกเบี้ยนโยบายของ BOE จึงน่าจะปรับตัวขึ้นต่อ
  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขภาคการผลิต Chicago PMI ของสหรัฐฯช่วงข้ามคืน แม้เป็นตัวเลขภาคการผลิตระดับเมืองแต่มีความสำคัญเนื่องจากเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในสหรัฐฯตามจำนวนประชากร ตลาดคาดดัชนีจะออกมาที่ 0.15 (เทียบจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.07) ดัชนีมีความสำคัญเนื่องจากเป็นตัวชี้นำตัวเลขดัชนีภาคการผลิต ISM ของสหรัฐฯ ในระยะถัดไป
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขส่งออกไทยของเดือนพ.ค. ตลาดคาดยังคงหดตัวลงที่ -6.1% YoY (เทียบจากเดือนก่อนหน้าที่ -7.6% YoY) ต่อด้วยข้อมูล Flash PMI ของยุโรป ซึ่งตลาดว่ายังปรับตัวลดลงต่อที่ 44.5 (เทียบจากเดือนก่อนหน้าที่ 44.8)ไม่
- Advertisement -