ความคืบหน้า ที่ไม่คลายกังวล / 1,545-1,565
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET แกว่งตัว Sideways: แรงหนุนสำคัญมาจากความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นศก.เพิ่มเติมของจีน เพื่อฟื้นฟูกิจกรรมทางศก.และอุปสงค์ภายในประเทศ โดยวันนี้ตลาดคาดว่าธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีลง 0.10% สู่ระดับ 3.55% จากเดิมที่ระดับ 3.65% และปรับลดอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีลง 0.15% เพื่อกระตุ้นอุปสงค์ในภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะเป็น Sentiment ทางบวกต่อ SET Index รวมถึงหุ้นที่ส่งออกไป/มีฐานการผลิตในจีน อีกทั้ง SET Index ยังได้แรงหนุนจากความคืบหน้าของการเมืองไทยที่คาดว่าจะเป็น Sentiment ทางบวกเบาๆ หลังเมื่อวานนี้ที่ประชุม กกต.มีมติประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และแบ่งเขตรวม 500 คน ส่งผลให้ต้องมีการเปิดประชุมสภา ภายใน 15 วัน และเป็นการหนุนความคาดหวังที่ว่าประเทศไทยกำลังจะได้รัฐบาลใหม่ อย่างไรก็ดี การที่กกต.เผยว่าการสืบสวน สอบสวนผู้ถูกร้องเรียน หากมีหลักฐานว่าไม่สุจริตจะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง ส่งผลให้คาดว่านักลงทุนกลุ่มที่ไม่ชอบความไม่แน่นอนจะยังคงมองการเมืองไทยเป็น Overhang และเทขาย/ชะลอการลงทุนต่อไป อีกทั้งทางขึ้นของ SET Index ยังคงถูกจำกัดจากความกังวลต่อแนวโน้มศก.สหรัฐฯ หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายยังส่งสัญญาณ Hawkish โดยคืนนี้ติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ได้แก่ คุณวิลเลี่ยมและคุณบูลลาร์ด ซึ่งหากมีการส่งสัญญาณ Hawkish จะเป็นแรงกดดันต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) ความหวังจีนกระตุ้นศก.: HANA, IVL, NER, PTTGC, SCCC, SNNP 2) ดอกเบี้ยขาขึ้น: BBL, BLA, KTB, SCB, TIPH และ 3) Spending+ท่องเที่ยว: AOT, AP, BTG, CPALL, MAJOR, MINT, OR, SAPPE
ปัจจัยบวก
- นายแอนโทนี บลิงเกน รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้เข้าพบ ปธน.สี จิ้นผิง ที่กรุงปักกิ่ง โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะร่วมมือกันเพื่อสร้างบรรยากาศการแข่งขันที่เป็นธรรมและจะไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง
- CAAM เผยยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีนในเดือนพ.ค. อยู่ที่ 2.05 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 26.4% y-y และยอดขายรวมในช่วง 5M66 เพิ่มขึ้น 10.7% y-y แตะที่ประมาณ 9 ล้านคัน
- Make UK คาดผลผลิตในภาคโรงงานของอังกฤษจะขยับลงเพียง 0.3% เท่านั้นในปีนี้ เมื่อเทียบกับคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่าจะหดตัวลง 3.3% จากความแข็งแกร่งของอุปสงค์เครื่องบินและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ปัจจัยลบ
- Goldman Sachs ปรับลดคาดการณ์การขยายตัว GDP ของจีน ในปี 66 ลงสู่ระดับ 5.4% จากคาดการณ์เดิมที่ 6% พร้อมกับคาดการณ์ว่าทางการจีนจะไม่ผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมมากไปกว่าที่เคยดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา
- CNBC รายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ EU เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกแบบบริษัทโทรคมนาคมของจีน เช่น หัวเว่ย และ แซดทีอี จากเครือข่าย 5G ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความตึงเครียดกับจีน
PICKS OF THE DAY
BBL BUY
- เป้าหมาย 166.50/170.00 แนวรับ 157.50/159.00
- กลุ่มแบงค์ยังให้น้ำหนักลงทุนมาก กว่าตลาด: ภาพรวมของกลุ่มแบงค์ยังมองเติบโตจากสภาวะเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว ซึ่งจะส่งผลดีต่อ อุปสงค์ด้านสินเชื่อให้มีโอกาสเร่งตัว
- คาดผลตอบแทนจากสินเชื่อเติบโต หนุน BBL โดดเด่น: ปัจจุบัน BBL เป็น 1 ใน 2 ธนาคาร ที่มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นในงวด 1Q66 และตั้งแต่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทาง BBL ได้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้ง MLR, MOR และ MRR เพิ่มขึ้น จึงคาดว่า BBL จะได้ประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของผลตอบแทนจากสินเชื่อในงวด 2Q66
IVL BUY
- เป้าหมาย 36.00/37.00 แนวรับ 33.00/34.00
- คาดหวังมาตรการกระตุ้นจากจีน: ด้วยตัวเลขข้อมูล ศก. จีนที่ยังดูแย่ ทำให้ตลาดยังคงคาดหวังว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้น ศก. เพิ่มเติม ทั้งนี้ในเบื้องต้นตลาดคาดหวังว่าทาง ธ.กลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ในทิศทางเดียวกับช่วงอายุอื่นๆ (กลางและสั้น) ที่มีการประกาศปรับลดช่วงก่อนหน้า
- ส่วนต่างราคาเริ่มฟื้น: สัปดาห์ที่ผ่านมาส่วนต่างราคา MEG และ PTA เริ่มฟื้นตัวขึ้น โดยทางฝ่ายมองว่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์อื่นๆจะทยอยเพิ่มขึ้นตามการกระตุ้นศก. ของจีน