KS Daily View 20.06.2023 >>> การเมืองมีพัฒนาการเชิงบวก ปัจจัยภายนอกรั้งระยะสั้น SET แกว่งในกรอบ 1,550-1,565/1,585 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ MINT KTB

สรุปภาวะตลาดเมื่อวานนี้

ต่างประเทศ : ตลาดสหรัฐฯปิดทำการจากวันหยุดจูนทีนธ์

ในประเทศ: SET Index -2.47 pts. หรือ -0.16% เป็น 1,556.92 จุด ตัวขับเคลื่อนหลักสำคัญคือ DELTA (+5.4%), AOT (+0.7%), KTB (+1.0%), TLI (+1.5%) ตัวฉุดคือ PTTEP (-1.6%), TOA (-13.7%), BAY (-3.1%), PTT (-0.8%)

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:

คาดดัชนีแกว่งตัวขึ้นในกรอบ 1,550-1565/1585 จุด มองเคลื่อนไหวกรอบแคบแม้ประเด็นการเมืองภายในประเทศมีพัฒนาการเชิงบวก หลังวานนี้ทางกกต.ประกาศรับรองส.ส.ทั้ง 500 คนแล้วอย่างเป็นทางการ และทางพรรคร่วมทั้ง 8 พรรคพร้อมหารือเจรจาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล อีกทั้งวันนี้ทางการจีนมีกำหนดแถลงการประชุมธนาคารกลาง PBOC หลังมีการเลื่อนปฏิทินเศรษฐกิจมาจากเมื่อวาน โดยมีแนวโน้มว่าทางการจีนจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย Loan prime rate ลงต่ออีก 10bps จาก 3.65% เป็น 3.55% ต่อเนื่องจากช่วงสัปดาห์ก่อนหน้าที่มีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาพยุงเศรษฐกิจแล้ว อย่างไรก็ดี ช่วงข้ามคืนที่ผ่านมาสำนักข่าวรายงานทางการจีนอาจยังไม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังชุดใหญ่ตามที่ตลาดรอคอย โดยระบุทางการกำลังศึกษาและประเมินถึงมาตรการใหม่ซึ่งจะมีการนำมาใช้ในเวลาที่เหมาะสม สอดคล้องกับที่ทาง หลี่ เฉียง นายกฯจีนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อขณะเดินทางเยื่อนยุโรปสัปดาห์นี้ว่าทางการจะยังไม่ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆ นี้

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1.) กกต.ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คนและแบบแบ่งเขต 400 คน รวมทั้งหมด 500 คน หลังได้มีการตรวจสอบรายงานความเห็นจากทางผู้ตรวจการเลือกตั้งทั้ง 77 จังหวัดแล้วพบมีส.ส.จำนวน 318 คนที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน ขณะที่มีอีก 82 มีเรื่องร้องเรียน แต่เนื่องด้วยกระบวนการสืบสวนอาจไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน กกต.จึงประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนแต่หากการไต่สวนสืบสวนพบมีการกระทำโดยไม่สุจริต กกต.จะยื่นคำร้องเพื่อเพิกถอนต่อไป การประกาศรับรองส.ส.ดังกล่าวคาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกให้กับแวดล้อมการลงทุนภายในประเทศหลังมีความกังวลก่อนหน้าว่าการจัดตั้งรัฐบาลอาจทำได้ล่าช้าเนื่องจากกกต.อาจดำเนินการในลักษณะทยอยรับรองส.ส.และอาจไม่ได้รับรองส.ส.ถึงเกณฑ์ 95% ซึ่งเป็นเกณฑ์สำหรับการเปิดประชุมสภา ดังนั้นประเด็นความกังวลเรื่องจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าหรือการจัดทำงบประมาณติดขัดอาจคลายกังวลได้ไประดับหนึ่ง

2.) ธนาคารกลางจีน PBOC มีกำหนดแถลงการณ์ประชุมนโยบายการเงิน ตลาดคาดทางการจีนจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย Loan prime rate ลงต่ออีก 10bps จาก 3.65% เป็น 3.55% ต่อเนื่องจากช่วงสัปดาห์ก่อนหน้าที่มีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้ามาพยุงเศรษฐกิจแล้ว อย่างไรก็ดี การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 10bps ดูเหมือนจะไม่พอช่วยพยุงเศรษฐกิจได้ โดยตลาดคาดหวังว่าสุดท้ายแล้วทางการจีนจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังชุดใหญ่ออกมา แต่ดูเหมือนตลาดจะต้องผิดหวังเนื่องจากช่วงข้ามคืนที่ผ่านมาสำนักข่าวรายงานทางการจีนอาจยังไม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลังชุดใหญ่ตามที่ตลาดรอคอย โดยระบุทางการกำลังศึกษาและประเมินถึงมาตรการใหม่ซึ่งจะมีการนำมาใช้ในเวลาที่เหมาะสม สอดคล้องกับที่ทาง หลี่ เฉียง นายกฯจีนได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อขณะเดินทางเยื่อนยุโรปสัปดาห์นี้ว่าทางการจะยังไม่ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเร็วๆนี้

Theme การลงทุนสัปดาห์นี้

  1. ประเมินตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,555 – 1,585 จุด โดยปัจจัยบวกหลักจะมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก หลังเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวทำให้ใกล้จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลักอย่าง Fed อีกทั้งมีหลายประเทศที่กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม นอกจากนี้การอ่อนค่าของเงิน USD จะเป็นปัจจัยหนุน Fund flow กลับเข้าลงทุนในตลาดเกิดใหม่ด้วย

หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:

MINT (ราคาพื้นฐาน 40.88 บาท) คาด RevPar จะแข็งแกร่งขึ้นในไตรมาส 2/2566 ในช่วงไฮซีซั่นของยุโรป หลัง MINT รายงานอัตรารายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPar) เดือน เม.ย.ที่ 3,936 บาท เพื่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2566 และเพิ่มขึ้น 43% YoY สูงกว่าช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19 อยู่ 35% จากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของ NHH ในช่วงไฮซีซั่น อีกทั้งรายได้จากธุรกิจอาหารมีแนวโน้มจะปรับตัวดีขึ้น QoQ จากการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศจีน ทำให้ผลประกอบการคาดพลิกกลับมามีกำไรได้ใน ในไตรมาส 2/2566

KTB (ราคาพื้นฐาน 24.75 บาท) เรามอง NIM จะเป็นขาขึ้นต่อเนื่องอย่างน้อยอีก 2-3 ไตรมาสข้างหน้า จากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยที่เร่งตัวซึ่งจะสร้างผลตอบแทนสินเชื่อให้กับธนาคารได้ดี เรามอง NIM ปี 2566 มีแนวโน้มจะสูงกว่าเป้าหมายของ KTB ซึ่งทำให้กำไรที่แข็งแกร่งของ KTB ในไตรมาส 1/2566 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในไตรมาส 2/2566-3/2566 หนุนโดย NIM ที่เพิ่มขึ้นเป็น อีกทั้งเราเชื่อว่าการประเมินมูลค่าปัจจุบันของ KTB นั้นไม่แพง เนื่องจากซื้อขายด้วย PBV ปี 2566 เพียง 0.6 เท่า ซึ่งสอดคล้องกับคู่แข่งธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ แต่เราคาดว่าจะให้ ROE ที่แข็งแกร่งกว่าธนาคารหลักอื่น

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

  • วันพุธ ติดตามการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ตลาดคาดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อ 25bps เป็น 4.75% (เทียบจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.50%) แรงกดดันเงินเฟ้อในยุโรปและอังกฤษยังคงอยู่ในระดับสูงและปรับตัวลดลงช้ากว่าฝากฝั่งสหรัฐฯ ตลาดยังมองดอกเบี้ยนโยบายของ BOE จึงน่าจะปรับตัวขึ้นต่อ
  • วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขภาคการผลิต Chicago PMI ของสหรัฐฯช่วงข้ามคืน แม้เป็นตัวเลขภาคการผลิตระดับเมืองแต่มีความสำคัญเนื่องจากเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในสหรัฐฯตามจำนวนประชากร ตลาดคาดดัชนีจะออกมาที่ 0.15 (เทียบจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.07) ดัชนีมีความสำคัญเนื่องจากเป็นตัวชี้นำตัวเลขดัชนีภาคการผลิต ISM ของสหรัฐฯ ในระยะถัดไป
  • วันศุกร์ ติดตามตัวเลขส่งออกไทยของเดือนพ.ค. ตลาดคาดยังคงหดตัวลงที่ -6.1% YoY (เทียบจากเดือนก่อนหน้าที่ -7.6% YoY) ต่อด้วยข้อมูล Flash PMI ของยุโรป ซึ่งตลาดว่ายังปรับตัวลดลงต่อที่ 44.5 (เทียบจากเดือนก่อนหน้าที่ 44.8)ไม่
- Advertisement -