ขึ้นเพื่อลงต่อ / 1,490-1,515
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- ขึ้นเพื่อลงต่อ: ทางฝ่ายคาด SET Index เช้านี้แม้คาดมีลุ้นบวกเบาๆ ต่อจากวานนี้ที่เห็นความผันผวนอิงทางบวกช่วงท้ายตลาด หนุนหุ้น Big Cap ลดช่วงลบลง แต่แนวโน้มทางหลักยังมองเป็นการขึ้นเพื่อลงต่อ หลังยังถูกกดดันจากกระแสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเหล่าธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก เพื่อสกัดความร้อนแรงของอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงทรงตัวในระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวานนี้ ธ.กลางอังกฤษ (BoE) สร้างเซอร์ไพร์สตลาดด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% มากกว่าที่ตลาดคาดจะปรับขึ้นเพียง 0.25% และเป็นการเกิดขึ้นต่อเนื่องในวันเดียวกันจาก มติของ ธ.กลางสวิตเซอร์แลนด์ (SNB) และ ธ.กลางนอร์เวย์ ที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ขณะที่ถ้อยแถลงประธานเฟดต่อสมาชิกวุฒิสภาเมื่อคืนนี้ยังคงมุมมองเดิมสำหรับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่คาดจะเกิดขึ้นอีก 2 ครั้งในปีนี้ตามการอ้างอิง Dot Plot ที่บ่งชี้ว่า terminal rate สิ้นปี 2566 จะอยู่ที่ 5.6% จากปัจจุบันที่ระดับ 5.00 – 5.25% อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้นตลาดยังคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงแค่ 1 ครั้งอีก 0.25% สําหรับการประชุมรอบหน้า (25-26 ก.ค.) ด้วยความน่าจะเป็นที่ 75.6% และจะคงที่ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี 2566 ส่วนปัจจัยการเมืองในประเทศ คาดยังไม่แน่นอนจากการสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งประธานสภาและรองประธานสภาจะพลิกขั้วหรือไม่ เนื่องจากอาจมีผลต่อการบริหารประเทศระยะถัดไป ด้านปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์หน้าส่วนใหญ่เป็นตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจที่บ่งชี้การเติบโต ได้แก่ นำเข้า-ส่งออกไทย, PMI ภาคการผลิตจีน และ Core PCE สหรัฐฯ นอกเหนือจากสัปดาห์สุดท้ายของการทำ Window Dressing และการปรับน้ำหนักดัชนี SET50 และ SET100
- กลยุทธ์ลงทุน: 1.) เงินบาทอ่อนค่า: HANA, SAPPE, TKN, TU 2.) Spending+ท่องเที่ยว: AOT, AP, BH, ERW, MINT, SIRI 3.) ดอกเบี้ยขาขึ้น: BBL, KBANK, SCB 4.) SET50-SET100: MBK, TASCO, WHA และ 5.) Window Dressing: BEM, LH, SCGP
ปัจจัยบวก
- เลขาธิการ กกพ. เปิดเผยแนวโน้มค่าไฟงวด ก.ย.-ธ.ค.66 มีโอกาสลดลงอย่างน้อย 20 สตางค์/หน่วย จากงวด ปัจจุบัน (พ.ค.-ส.ค.66) อยู่ที่ 4.70 บาท/หน่วย หลังได้แรงหนุนจากราคา LNG ตลาดโลกอ่อนตัวลง
- ส.อ.ท. เปิดเผยยอดผลิตรถยนต์เดือน พ.ค. 66 เติบโต 16.48% y-y หลังการขาดแคลนชิปเริ่มคลี่คลายกดดัน ฐานต่ำในช่วงปีก่อน ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเติบโต 12.25% y-y จากยอดขายประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ ยังขยายตัวได้ดี ยกเว้นเวียดนามที่หดตัว
- สมาคมโรงแรมไทยยังเชื่อมั่นท่องเที่ยวฟื้นตัว และคาด นทท. ต่างชาติเข้าไทยปีนี้ตามเป้า 25 ล้านคน หลังยังชี้ไทยยังครองแชมป์จุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยม
ปัจจัยลบ
- นสพ. ไฟแนนเชียลไทมส์รายงาน โดยอ้างคำสัมภาษณ์ของรัฐมนตรีพลังงานของยูเครนที่ระบุว่า รัสเซียอาจปิดหนึ่งในท่อส่งก๊าซไปยังยุโรปภายในสิ้นปีหน้า เมื่อสัญญาการจัดหาก๊าซของยูเครนกับบริษัทก๊าซพรอบหมดอายุ
- หัวหน้าสํานักปธน.ยูเครนคาดหวังว่าจะได้รับเชิญเป็นสมาชิกนาโตในการประชุมนาโต้วันที่ 11-12 ก.ค. ซึ่งเป็น ปัจจัยกดดันต่อภูมิรัฐศาสตร์ เพราะหากนาโต้รับยูเครน ซึ่งอยู่สภาวะสงคราม อาจทำให้สงครามขยายวงกว้าง
- ค่าเงินบาทล่าสุดอ่อนค่าทะลุ 35.00 บาทในรอบ 3 เดือน กดดันกระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย YTD แล้ว 107,759 ล้านบาท
PICKS OF THE DAY
SCB BUY
- เป้าหมาย 110.00 / 112.00 แนวรับ 105.00 / 106.00
- สินเชื่อเดือน พ.ค. โตเด่นที่สุดในกลุ่ม: SCB มีสินเชื่อเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 1.1% m-m เป็นระดับที่สูงที่สุดในกลุ่ม และทำให้คาดว่ารายได้ดอกเบี้ยจะเพิ่มขึ้น เมื่อรวมกับการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ คาดว่าจะทำให้กำไร 2Q66 ออกมาที่ 11.3 พันลบ. เพิ่มขึ้น 12.5% y-y และ 2.8% q-q
- มีการยกระดับ Pay-out ratio ขึ้น: ในปี 65 SCB ได้มีการยกระดับ Dividend pay-out ratio ขึ้นเป็น 60% จากปี 64 ที่จ่ายเพียง 39% ส่วนปี 66 คาดว่า SCB จะมีการจ่ายปันผล 7.05 บาท/หุ้น คิดเป็น Div. yield 6.6%
MINT BUY
- เป้าหมาย 35.00 / 36.00 แนวรับ 32.50 /33.00
- แรงบวกจาก High Season ยุโรป หนุนผลดำเนินงาน: ด้วยจุดเด่นด้านการกระจายตัวของธุรกิจ MINT ทำให้แม้ธุรกิจโรงแรมในไทยจะเข้าสู่ช่วง Low Season กดดันผลดำเนินงานหากแต่แนวโน้ม 2Q66 ทางฝ่ายคาดผลดำเนินงาน MINT จะยังโต q-q จากการเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจโรงแรมในยุโรป
- ประกาศเปิดตัว รร.ในซาอุดิอาระเบีย: นอกเหนือจากการเติบโตธุรกิจที่มีอยู่คาดยังสดใสรับการเปิดประเทศแล้ว MINT ยังได้ต่อยอดขยายธุรกิจไปยังประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยล่าสุด เปิดตัวโรงแรมอนันตรา ที่ตั้งอยู่ในโครงการโทรเจนา ณ เมืองนีออม ซึ่งจะมีทั้งห้องพักและห้องสวีทจำนวนรวม 270 ห้อง โดยคาดจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 69