บล.บัวหลวง: 

DoHome (DOHOME TB /DOHOME.BK)

DOHOME – อยู่ในจุดต่ำสุดของวัฏจักรแล้ว

เราได้เชิญ DOHOME เข้าร่วมงาน BLS Thai Corporate Day ในวันที่ 27 มิ.ย. แม้ผลประกอบการในไตรมาส 2/66 น่าจะยังอ่อนตัว แต่เรามองว่า DOHOME จะเริ่มเห็นกำไรฟื้นตัว YoY ตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2566 เป็นต้นไป จากฐานที่ต่ำและราคาเหล็กที่กลับสู่ระดับปกติ

ไตรมาส 2/66 ยังคงอ่อนตัว

เราคาดไตรมาส 2/66 จะเป็นอีกไตรมาสที่อ่อนแอสำหรับ DOHOME เนื่องจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม และฐานกำไรที่สูงในปีที่ผ่านมา (จากราคาเหล็กที่แข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา หนุนการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมและอัตรากําไรขั้นต้นในไตรมาส 2/65) และอุปสงค์ที่ลดลงจากผู้บริโภค และลูกค้าโครงการโดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากการตรวจสอบของเรากับ DOHOME พบว่ายอดขายสาขาเดิมในเดือนเม.ย.และ พ.ศ. 2566 ลดลงเกือบ 10% YoY นอกจากนี้ ด้วยราคาเหล็กที่อ่อนแอในช่วงเดือนเม.ย. และพ.ค. 2566 และปัจจัยฤดูกาล ดังนั้น จึงไม่น่าจะเห็นการขยายตัวของอัตรากําไรขั้นต้น YoY และ QoQ ในไตรมาส 2/66 เนื่องจากราคาเหล็กที่ลดลง อาจกดดันการฟื้นตัวของอัตรากำไรขั้นต้นของผลิตภัณฑ์เหล็ก (คิดเป็น 30% ของยอดขายทั้งหมด) ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารยังคงอยู่ในระดับสูง เนื่องจาก DOHOME ยังคงเพิ่มการใช้จ่ายด้านการตลาดเพื่อสนับสนุนการ ขาย

อย่างไรก็ตาม กำไรอาจฟื้นตัว YoY ตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2566 เป็นต้นไป

เราคาดว่า DOHOME จะรายงานกำไรฟื้นตัว YoY ตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2566 เป็นต้นไป หนุนโดยฐานกำไรที่ต่ำในปีที่ผ่านมา ฐานราคาเหล็กที่ลดลง (YoY) และสัดส่วนการขายสินค้าแบรนด์ตนเองที่มากขึ้น (เรามองช่วง 2H23 สินค้าแบรนด์ตนเองของ DOHOME จะมีต้นทุนที่ลดลงจากการซื้อสินค้าเข้ามาในช่วงที่ค่าขนส่งลดลง และค่าเงินบาทแข็งค่าเมื่อต้นปีนี้) แม้ว่าช่วงโลว์ซีซั่น จะยังคงสร้างแรงกดดันต่อการฟื้นตัวของกําไร HoH ในครึ่งหลังของปี 2566 (เทียบกับครึ่งแรกของปี 2566) เรามองว่าระดับสต็อกและราคาต้นทุนเหล็กที่กลับลงมาปกติ (DOHOME สต็อกเหล็กราคาสูงมากเกินไปในปี 2565) จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักในการฟื้นตัวของกําไรตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2566 2H23 เป็นต้นไป

ติดตามผลกระทบจากภัยแล้งและการจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้า

DOHOME ตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายระดับ 10% ในปี 2566 เรามองว่าภัยแล้งและความล่าช้าของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เป็นปัจจัยสําคัญที่ต้องติดตาม เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของยอดขายของ DOHOME ขณะที่ภัยแล้งอาจสร้างแรงกดดันต่อผลผลิตของเกษตรกรและกําลังซื้อ (โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งคิดเป็น 70% ของยอดขาย DOHOME) ความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อาจนำไปสู่การเลื่อนการเปิดตัวมาตรการกระตุ้นการบริโภคและการเบิกจ่ายงบประมาณสําหรับโครงการใหม่ (22 % ของยอดขาย DOHOME มาจากผู้รับเหมาซึ่งประมาณ ครึ่งหนี่งอาจมีสวนเกี่ยวข้องกับโครงการของรัฐ)

ราคาหุ้นยังคงรอผลประกอบการฟื้นตัว

ปัจจุบัน DOHOME ซื้อขายที่ PER ปี 2566 ที่ 36.7 เท่า แม้จะค่อนข้างเป็นไปตามค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 35.9 เท่า แต่เรามองว่าตลาดอาจกำลังรอการฟื้นตัวของผลประกอบการที่ยั่งยืน

- Advertisement -