บล.บัวหลวง:
NEXT Capital (NCAP TB /NCAP.BK)
NCAP – กำไรกลับมาน่าประทับใจได้ไหม?
ราคาหุ้น NCAP ปรับตัวขึ้นเกือบ 40% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ซึ่งดีกว่า SET และกลุ่มการเงินรายอื่น กำไรไตรมาส 1/66 ของ NCAP เติบโต 209% YoY และ 102% QoQ ทั้งนี้เราขอเชิญนักลงทุนมารับรู้ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับความมั่นคงของกําไรในงาน Thai Corporate Day ของเราในวันที่ 26 มิ.ย. นี้
บริษัทขนาดกลางสําหรับกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อ
NCAP เป็นผู้ให้สินเชื่อเช่าซื้อสำหรับมอเตอร์ไซค์และรถบรรทุกมือสองที่ไม่ใช่ธนาคาร โดยเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อในปี 2566 อยู่ที่ 20% YoY ซึ่งเราเชื่อว่าสามารถทำได้ บริษัทเริ่มให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อสําหรับรถบรรทุก มือสองในไตรมาส 3/65 เนื่องจากบริษัทเชื่อว่าความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้ค่อนข้างต่ำ และมีโอกาสในการเติบโตสูง โครงสร้างพอร์ตสินเชื่อของ NCAP ณ สิ้นเดือน มี.ค.อยู่ที่ 97% สําหรับมอเตอร์ไซค์และ 3% สําหรับรถบรรทุกมือสอง
เริ่มต้นปีอย่างปัง
กําไรไตรมาส 1/66 ของ NCAP อยู่ที่ 142 ล้านบาท เติบโต 208.6% YoY และ 101.9% QoQ หนุนจากการตั้งสํารองที่ลดลงและสินเชื่อที่ขยายตัว อัตราการตั้งสำรองในไตรมาส 1/66 อยู่ที่ 4.7% ลดลงจาก 10.6% ในไตรมาส 1/65 และ 12% ในไตรมาส 4/65 พอร์ตสินเชื่อของ NCAP ณ สิ้นเดือน มี.ค. อยู่ที่ 7.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.5% YoY และ 6.5% QoQ สัดส่วนต้นทุนต่อรายได้อยู่ที่ 39.2% ในไตรมาสนี้ ลดลงจาก 42.5% ในไตรมาส 1/65 แต่เพิ่มขึ้นจาก 30.4% ในไตรมาส 4/65 ปัจจัยดังกล่าวกลบผลกระทบของ NIM ในไตรมาส 1/66 ที่ 17.5% ลดลง 311bps YoY และ 62bps QoQ เนื่องจากผลตอบแทนเฉลี่ยที่ลดลง และต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น
เราคาดกําไรไตรมาส 2/66 จะอยู่ในกรอบ 130-140 ล้านบาท เติบโต 930% YoY (ทรงตัว QoQ) โดยสินเชื่อเติบโต 12% YoY และ 4% QoQ เราคาดอัตราการตั้งสำรองในไตรมาสนี้อยู่ที่ 5% ลดลงจาก 13.9% ในไตรมาส 2/65 แต่เพิ่มขึ้นจาก 4.7% ในไตรมาส 1/66 ปัจจัยดังกล่าวน่าจะกลบผลกระทบของ NIM ในไตรมาส 2/66 ที่ 16.9% ลดลง 314bps YoY และ 57bps QoQ
สินเชื่อเช่าซื้อที่มาพร้อมโอกาสจํานวนมาก
ส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ของ NCAP อยู่ที่ 7% ทำให้บริษัทเป็นรายใหญ่อันดับที่ 3 ของตลาด ซึ่งยังคงมีโอกาสในการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากมีการขายรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ราว 2 ล้านคันทุกปีในประเทศไทย ซึ่ง หมายถึงกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อสําหรับรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ที่มีโอกาสถึง 1 แสนล้านบาทต่อปี สําหรับธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสอง ยังคงไม่มีตัวเลขที่ตายตัว แต่แหล่งข่าวในอุตสาหกรรมประเมินว่ามีการขายรถบรรทุกมือสอง 3 หมื่นคันทุกปี ซึ่งบ่งบอกว่ากลุ่มธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกมือสองมีโอกาสสูงมากกับมูลค่าราว 2.4 หมื่นล้านบาทต่อปี
ธปท.มีแนวโน้มที่จะเริ่มบังคับใช้กฎหมายสินเชื่อเช่าซื้อสำหรับรถยนต์และมอเตอร์ไซค์อย่างเข้มงวด ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2566 แต่เราคาดว่า ธปท. จะไม่เปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อในปัจจุบันเป็นความรับผิดชอบของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งคณะกรรมการได้กำหนด เพดานอัตราดอกเบี้ยของสินเชื่อเช่าซื้อยานยนต์ โดยมีผลตั้งแต่เดือน ม.ค. 2566 ไปแล้ว (10% สำหรับรถยนต์ใหม่ 15% สำหรับรถยนต์มือสองและ 23% สำหรับมอเตอร์ไซค์) ธปท.จะเป็นผู้กำหนดและบังคับใช้ ระเบียบในตลาด ซึ่งกฏในตลาดใหม่จะเป็นประโยชน์ต่อธนาคารและผู้ประกอบการขนาดกลางถึงใหญ่ที่ไม่ใช่ธนาคาร โดยน่าจะมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นสำหรับบริษัทการเงินและตัวแทนจำหน่ายขนาดเล็กตามต่างจังหวัด ซึ่งบางรายอาจออกจากธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อไปเลย จากค่าใช้จ่ายในที่เข้ามา