วันนี้คาดตลาด “Sideways”

แนวรับ 1,482 / 1,460 แนวต้าน 1,490 / 1,495 ยังไม่มีปัจจัยใหม่ แนะนำติดตามถ้อยแถลง FED และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ สำหรับภายในประเทศติดตามการเมืองไทย และตัวเลขส่งออก

Our View? “ไร้เรี่ยวแรง”

คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,482 / 1,460 และแนวต้านที่บริเวณ 1,490 / 1,495 เรามองตลาดขาดปัจจัยใหม่เข้าช่วยในการสนับสนุนการปรับตัวขึ้นของทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยง อีกทั้งยังคาดว่าตลาดจะรอดูถ้อยแถลงเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) หลายท่านรวมถึงนายเจอโรม พาวเวล ประธาน FED ถึงแนวโน้มการใช้นโยบายทางการเงินในระยะถัดไป โดยเรายังคงคาดว่าเจ้าหน้าที่ FED ส่วนใหญ่คาดจะยังสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อจนกว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวลงสู่กรอบเป้าหมาย และเราคาดว่า FED จะคงอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวไปในระยะเวลาหนึ่ง โดยเรามองเป็นปัจจัยที่อาจจะส่งผลให้อัตราการผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ จากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น และอาจอยู่ในระยะเวลานานกว่าคาด ซึ่งจะส่งผลให้ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องตามมา และคาดจะเป็นสาเหตุของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระยะถัดไป

โดยวันนี้เราแนะนำติดตามการรายงานตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Order) เดือน พ.ค. คาดจะอยู่ที่ระดับ -0.8% MoM หากออกมาตามคาด เป็นการสะท้อนกิจกรรมในภาคการผลิตของสหรัฐชะลอตัวลง  รวมทั้งยังต้องติดตามตัวเลขยอดขายบ้านใหม่ (New Home Sales) คาดจะออกมาที่ระดับ 6.75 แสนหลังคา -12% MoM เริ่มชะลอตัวลงอีกครั้ง บ่งชี้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐเริ่มได้รับผลกระทบจากการใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับสูงของ FED บ้างในระดับหนึ่ง ขณะที่การเข้าสู่ช่วงรายงานผลประกอบการของบจ. ของตลาดหุ้นทั่วโลก คาดส่งผลให้ตลาดมีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น จากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น คาดจะกดดันผลประกอบการของ บจ. ได้บ้าง

ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน ส.ค. เมื่อคืนนี้ปิดที่ระดับ 69.37 ดอลลาร์/บาร์เรล +0.21 ดอลลาร์ (+0.30%) แม้เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบยังเผชิญแรงกดดันจากความกังวลเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งคาดจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันลดลง อย่างไรก็ดี เรายังมองราคาน้ำมันดิบยังมีปัจจัยจำกัด Downside จากการปรับลดกำลังการผลิตแบบสมัครใจของซาอุดิอาระเบียในช่วงเดือน ก.ค. นี้ รวมทั้งความขัดแย้งภายในรัสเซียคาดจะส่งผลให้อุปทานขาดเสถียรภาพได้บ้างเล็กน้อย เป็นปัจจัยจำกัด Downside ของราคาน้ำมันดิบ-หุ้นในกลุ่มพลังงานเช่นกัน อีกทั้งราคาสัญญาล่วงหน้าก๊าซธรรมชาติปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อที่ระดับ 2.79 ดอลลาร์ (+2.27%) คาดจะสามารถช่วยให้ PTTEP ฟื้นตัวขึ้นได้

สําหรับปัจจัยภายในประเทศสัปดาห์นี้ เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการที่ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภา พ.ศ. 2566 ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามการประชุมของพรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคก้าวไกล-พรรคเพื่อไทย เพื่อจัดตั้งรัฐบาลคาดจะมีการหารือกันเกี่ยวกับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯ ในวันที่ 28 มิ.ย. นี้ ก่อนที่วันที่ 29 มิ.ย. จะมีการนัดพูดคุยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคร่วมมองเป็นพัฒนาการทางบวกในการจัดตั้งรัฐบาลของไทย ขณะที่การเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของเดือน มิ.ย. คาดจะเริ่มเห็นการ Preview ผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มธนาคาร (BBL, KTB, KBANK และ SCB) ที่คาดกําไร 2Q66 ยังอยู่ในภาพการฟื้นตัวขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่ผ่านมา รวมทั้งเราเริ่มเห็นอัตราการเติบโตของสินเชื่อในบางธนาคารฟื้นตัวขึ้นบ้างแล้ว อีกทั้ง คาดยังหุ้นที่มีความปลอดภัยในการเป็นเป้าหมายในการทำ Window Dressing ในรอบปิดงบ 2Q66 ได้ ขณะที่วันนี้แนะนำติดตามการรายงานตัวเลขส่งออกของไทยคาดจะออกมา -8.00% หดตัวลงต่อเนื่อง กดดันทิศทางหุ้นในกลุ่มส่งออกโดยเฉพาะชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ได้บ้าง

ธีมการลงทุน “SelectivePlay”

หุ้นแนะนำวันนี้ “OSP”

  • คาดแนวโน้มผลประกอบการ 2Q’66 ฟื้นตัวขึ้นจากการปรับราคาขึ้น ขณะที่มีการประกาศจ่ายปันผลพิเศษ 0.80 บาท XD วันที่ 4 ก.ค. ช่วยจำกัด Downside
  • ทางเทคนิคในราคาปรับตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านที่เส้นแนวโน้มขาลงในกรอบ Systematic Triangle พร้อม Vol. เริ่มเพิ่มขึ้น แนะนำซื้อเมื่อทะลุแนวต้าน
  • กลยุทธ์ แนวรับ 30.50 / 29.50 Target 32.00 / 33.00 Stop <28.50

- Advertisement -