หลีกหนีไม่พ้นไม่หลงทาง / 1,475-1,490
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET แกว่งตัวSicleways to sideways down: โดยยังคงถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะศก. ถดถอย จากผลกระทบของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดและธนาคารกลางหลักของโลก ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง กอปรกับนักลงทุนยังรอจับตกถ้อยแถลงของปธ.เฟดในการเสวนาว่าด้วยนโยบายการเงินของธนาคารกลาง ซึ่ง CB จะจัดขึ้นในวันที่ 28 มิ.ย. และการเสวนาว่าด้วยเสถียรภาพทางการเงินในวันที่ 29 มิ.ย. ซึ่งอาจบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลักต่างๆ ของโลก ด้านราคา Gas ที่ปรับตัวขึ้น 2.27% สู่ระดับ $2.79 ต่อ mmBtu ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 3 เดือน คาดเป็น Sentiment ทางลบต่อหุ้นในกลุ่มโรงไฟฟ้า ขณะที่วันนี้ติดตามการรายงานตัวเลขการค้าเดือนพ.ค.ของไทยตลาดคาด 1) การส่งออกหดตัว 8.00% y-y หดตัว รุนแรงขึ้นจาก 7.60%y-yในเดือนพ.ย. และ 2) การนำผ้าหดตัว 10.00%y-y หดตัวรุนแรงขึ้นจาก 7.30%y-y ในเดือนเม.ย. ทั้งนี้การหดตัวที่รุนแรงขึ้นของตัวเลขการค้าขายเป็นอีกภาพหนึ่งที่สะท้อนภาพการชะลอตัวของศก.คู่ค้าสำคัญและโลก ซึ่งจะเป็น Sentiment ทางลบต่อ SET Index รวมถึงหุ้นในกลุ่มส่งออก อย่างไรก็ดี หุ้นในกลุ่มส่งออกยังมีแรงพยุงจากค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่ายืนเหนือระดับ 35 บาท/$ ซึ่งเป็น Sentiment ทางบวกต่อหุ้นในกลุ่มดังกล่าว อีกทั้ง คาด SET Index จะมีแรงพยุงจากการทำ window Dressing ก่อนปิด 2Q66 รวมถึงแรงซื้อสะสมหุ้น BigCap. จากการที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นขนาดกลาง/เล็กในระยะนี้ สะท้อนจากความแข็งแกร่งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาของ SET50 ที่ปรับตัวลงเพียง 1.78% เมื่อเปรียบเทียบกับ SET Index ที่ปรับตัวลง 2.97%
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) นิคมอุตสาหกรรม: AMATA, WHA 2) Spending+ท่องเที่ยว: AOT, CPALL, GFPT, MAJOR, OSP 3) Defensive+Selective: ADVANC, BDMS, KTB, TTB และ 4) Window Dressing: BEM, CRC, LH, PTTGC, SCGP
ปัจจัยบวก
- รอยเตอร์รายงานว่า บริษัทอารามโคเผยว่าปัจจัยพื้นฐานตลาดน้ำมันโลกคาดว่าจะยังคงแข็งแกร่งไปตลอดทั้งปี 66 โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะในจีนและอินเดีย
ปัจจัยลบ
- BIS เรียกร้องให้ธนาคารกลางทั่วโลกเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเตือนว่าศก.โลกในขณะนี้กำลังอยู่ในจุดที่สําคัญ เนื่องจากหลายประเทศกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการควบคุมเงินเฟ้อ
- S&P ลด GDP ของจีนในปี 66 สู่ 5.2% จากคาดการณ์เดิมที่ 5.5% หลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลศก.ที่อ่อนแอในเดือนพ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
- บลูมเบิร์กเผยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในจีน ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัล ไชน่า เรียลเอสเตต จํากัด และบริษัท ลีดดิง โฮลดิ้งส์ กรุ๊ป จํากัด ไม่สามารถชำาระหนี้หุ้นกู้ที่ออกเป็นสกุลเงินดอลลาร์ได้ เนื่องจากยอดขายบ้านอ่อนตัวลงและขาดมาตรการกระตุ้นศก.ชิงรุก PICKS OF the day BUY AMA เ
PICKS OF THE DAY
AMATA BUY
- เป้าหมาย 23.00/23.50 แนวรับ 21.70/22.00
- แข็งแกร่งกว่าตลาด: แม้ว่านับตั้งแต่ปีดัชนี SET ปรับลงแล้วกว่า 11.5% แต่ราคา AMATA นับตั้งแต่ต้นปีกลับสร้างผลตอบแทนได้กว่า 4.7% และมี Correlation กับ SET ในทางลบ 0.76
- ผู้บริหารตั้งเป้าปีนี้ขายที่ดิน New High: ปัจจุบันมีที่ดิน Backlog 6.65 พันลบ. (ไทย 4.8 พันลบ., เวียดนาม 1.8 พันลบ.) ตั้งเป้าปีนี้รับรู้50%ของ Backlog ในไทย ด้านปัญหาพิพาทสหรัฐ-จีน ยังช่วยหนุนให้ภาคธุรกิจย้ายฐานสู่ทั้งไทยและเวียดนาม
- ความต้องการสาธารณูปโภคในนิคมเติบโต: คาดอุปสงค์ทั้งน้ำและไฟในนิคมจะฟื้นตัวตามอุปสงค์สินค้าที่ผลิตในพื้นที่นิคมฟื้นตัว
KTB BUY
- เป้าหมาย 20.00/20.50 แนวรับ 19.00/19.30
- คาดกำไร 2Q66 ทำ New high: คาดสินเชื่อกลับมาเติบโตได้ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ทำให้รายได้ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น และเป็นสาเหตุที่ทำให้คาดว่ากำไรในไตรมาสนี้จะอยู่ที่ 11.7 พันลบ. เติบโตได้ 40.2% y-y และ 16.4% q-q เป็นระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์
- ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น: จากการปรับเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย และการปรับส่วนผสมของพอร์ตสินเชื่อ ทำให้ KTB มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากที่สุดใน 1Q66 และเป็นเพียง 1 ใน 2 ธนาคารเท่านั้นที่มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นใน 1Q66 และการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยใน 2Q66 น่าจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นได้ต่อ