บล.บัวหลวง:

Refining & Chemical – ค่าการกลั่นและส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง (NEUTRAL)

ค่าการกลั่นปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ปรับลดลง ในขณะที่ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากอุปสงค์ในภูมิภาคที่ชะลอตัวและอุปทานที่มีจำนวนมาก ทั้งนี้เรายังคงชอบ TOP และ IVL มากที่สุด

การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อการฟื้นตัวของ อุปสงค์และโควต้าการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูปของประเทศจีน ซึ่งจะเพิ่มอุปทานในตลาดเป็นปัจจัยที่น่าจับตามอง เนื่องจากอาจกดดันค่าการกลั่นให้ปรับตัวลดลง ในทางกลับกันการเปิดประเทศจีนในปัจจุบันจะเป็นปัจจัยหนุน อุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี รวมทั้งค่าการกลั่นและส่วนต่างราคาปิโตรเคมี

เรายังคงชอบ TOP มากที่สุดในหุ้นกลุ่มโรงกลั่น เนื่องจากการเป็นผู้ผลิตที่มีประสิทธิภาพด้านต้นทุนการผลิต ซึ่งจะส่งผลให้กําไรมีความไวต่อการปรับตัวสูงขึ้นของค่าการกลั่น และเรายังคงชอบ IVL มากที่สุดในกลุ่มปิโตรเคมี  เนื่องจากแนวโน้มกำไรหลักปี 2566 ที่แข็งแกร่ง รวมทั้งมีอัพไซต์ต่อแนวโน้มการเติบโตระยะยาวจากการลงทุนและ/หรือการเข้าซื้อกิจการใหม่

ค่าการกลั่นปรับตัวลดลง WoW

ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลดลง 1.10 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 4.42 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ปรับตัวลดลง อุปสงค์ในเอเชียที่ชะลอตัว, อุปทานจากอินเดียที่เพิ่มขึ้น, และสต็อกในสหรัฐที่ลดลง ส่งผลให้ส่วนต่างราคาก๊าซโซลีนปรับตัวลง 2.70 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 16.71 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ SPRC มากที่สุด) อุปทานจากอินเดียและจีนที่เพิ่มขึ้น  ส่งผลให้ส่วนต่างราคาดีเซลปรับตัวลง 0.21 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 16.58 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ TOP มากที่สุด) นอกจากนี้ต้นทุนน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ส่วนต่างราคาน้ำมันเตาที่มีส่วนผสมของคํามะถันในระดับสูงปรับตัวลง 0.35 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ ที่ -8.17 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในทางตรงกันข้าม กิจกรรมการเดินทางทางอากาศที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ส่วนต่างราคาน้ำมันเครื่องบินปรับตัวขึ้น 0.17 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 15.69 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

ส่วนต่างราคาเอริลีนและส่วนต่างราคาโพรพิลีนปรับตัวขึ้น WoW

แรงซื้อในเอเชียที่ปรับตัวดีขึ้นหนุนให้ราคาเอธิลีนทรงตัว WoW อยู่ที่ 720 เหรียญสหรัฐ/ตัน และส่งผลให้ราคาโพรพิลีนปรับตัวขึ้น 5 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 710 เหรียญสหรัฐ/ตัน ตามลำดับ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจาก ต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาปรับตัวลง 4 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 531 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่งผลให้ส่วนต่างราคาเอธิลีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 189 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ PTTGC มากที่สุด) และส่วนต่างราคาโพรพิลีนปรับตัวขึ้น 9 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 179 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ IRPC มากที่สุด)

ส่วนต่างราคา HDPE และส่วนต่างราคา PP ปรับตัวลง WoW

ต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาที่ลดลง, อุปสงค์ในภูมิภาคที่ชะลอตัว, และอุปทานที่มีจำนวนมาก ส่งผลให้ราคา HDPE และราคา PP ปรับตัวลง 10 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 980 เหรียญสหรัฐ/ตัน และ 20 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 910 เหรียญสหรัฐ/ตัน ตามลำาดับ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาปรับตัวลงช้ากว่าราคาผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ส่วนต่างราคา HDPE เทียบกับแนฟทาปรับตัวลง 6 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 449 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ PTTGC มากที่สุด) และส่วนต่างราคา PP ปรับตัวลง 16 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 379 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ IRPC มากที่สุด)

ส่วนต่างราคา MEG และส่วนต่างราคา PVC ทรงตัว Wow

ต้นทุนวัตถุดิบเอธิลีนที่ทรงตัวและอุปสงค์ในภูมิภาคที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ราคา MEG ทรงตัว WoW อยู่ที่ 475 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนเอธิลีนไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนต่างราคา MEG จึงทรงตัว WoW อยู่ที่ 21 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบเอธิลีนที่ทรงตัวส่งผลให้ราคา PVC ทรงตัว WoW อยู่ที่ 780 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากต้นทุนเอธิลีนไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนต่างราคา PVC จึงทรงตัว WoW อยู่ที่ 420 เหรียญสหรัฐ/ตัน

คาดค่าการกลั่นลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ ในไตรมาส 3/66

การเปิดประเทศจีน, การจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้น, และอุปสงค์ก๊าซโซลีนที่สูงขึ้นตามฤดูกาลมีแนวโน้มที่จะหนุนอุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปในวงกว้างต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3/66 จากมุมมองด้านอุปทาน ฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่น และระดับสินค้าคงคลังที่ต่ำจะส่งผลให้อุปทานมีจำกัด ต้นทุนน้ำมันดิบ (Crude Premium) มีแนวโน้มทรงตัว QoQ ดังนั้นจากแนวโน้มดังกล่าว เราจึงคาดว่าค่าการกลั่นในไตรมาส 3/66 จะเพิ่มขึ้น QoQ ในด้านของ YoY ค่าการกลั่นมีแนวโน้มปรับตัวลง เนื่องจากฐานที่สูงเป็นพิเศษในไตรมาส 3/65

หากการเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของโรงกลั่นใหม่ไม่เป็นไปตามแผนหรือมีการหยุดโรงกลั่นโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้า (สาเหตุจากไฟไหม้, สงคราม, ภัยธรรมชาติ เป็นต้น) จะส่งผลให้อุปทานตึงตัว อาจเป็นอัพไซต์ต่อค่าการกลั่น นอกจากนี้การเปิดประเทศของจีนจะหนุนอุปสงค์น้ำมันสำเร็จรูปและน่าจะส่งผลดีต่อค่าการกลั่น ในทางกลับกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกซึ่งอาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อการฟื้นตัวของอุปสงค์ และโควต้าการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันสําเร็จรูปของประเทศจีน ซึ่งจะเพิ่มอุปทานในตลาดเป็นปัจจัยที่น่าจับตามอง เนื่องจากอาจกดดันค่าการกลั่นให้ปรับตัวลดลง

ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น YoY แต่ทรงตัว QoQ ในไตรมาส 3/66

การเปิดประเทศจีนจะค่อยๆ หนุนการเติบโตของอุปสงค์สำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีโดยรวมต่อเนื่องไปจนถึงไตรมาส 3/66 แต่อุปสงค์ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมส่วนใหญ่มักจะชะลอตัวตามปัจจัยฤดูกาลจนถึงเดือน ส.ค. และโดยปกติแล้วไตรมาสที่สามจะเป็นช่วงที่อุปสงค์ผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล จากปัจจัยดังกล่าว ส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น YoY ในไตรมาส 3/56 แต่ทรงตัว QoQ ยกเว้นส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์สายโพลีเอสเตอร์ (โดยเฉพาะ PET) ซึ่งจะลดลง QoQ เนื่องจากปัจจัยฤดูกาล การเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของกำลังการผลิตใหม่อาจกดดันส่วนต่างราคาเคมีภัณฑ์ในไตรมาส 3/66 ในด้านของ YoY ทั้งนี้อุปทานที่มีจำกัด ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการควบคุมมลพิษของจีน, ความล่าช้าในการเริ่มดำเนินงานของกำลังการผลิตใหม่อาจเป็นอัพไซด์ต่อราคาและส่วนต่างราคาปิโตรเคมี

- Advertisement -