บล.กรุงศรีฯ:
CARABAO GROUP (CBG TB/ CBG.BK)
กลุ่มอุตสาหกรรม | อาหารและเครื่องดื่ม |
หุ้น | CBG |
มูลค่าพื้นฐาน | 82.00 |
คำแนะนำ | BUY |
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 2Q23F จะเพิ่มขึ้น 59% qoq เป็น 419 ล้านบาท เนื่องจาก (1) ยอดขายฟื้นตัวขึ้นอย่างมากในทุกกลุ่มธุรกิจ (15% qoq) โดยเฉพาะเครื่องดื่ม energy drink ในประเทศ และ (2) อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเพราะต้นทุนวัตถุดิบลดลง เราคาดว่าโมเมนตัมของกำไรจะดีต่อเนื่องใน 3Q23 และคงคำแนะนำซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 82 บาท
ยอดขาย energy drink ในประเทศจะเติบโตอย่างมาก
เราคาดว่ายอดขายเครื่องดื่ม energy drink ในประเทศ (ประมาณ 35% ของยอดขายรวม) จะโต 20% qoq ในขณะที่คาดว่ายอดส่งออก (แบรนด์ของบริษัท – ต่างประเทศ ซึ่งคิดเป็น 34% ของยอดขายรวม) จะโต 15% qoq โดยส่วนที่เหลือจะเป็นยอดขายจากการจำหน่ายสินค้าให้กับบุคคลที่สาม และสินค้า OEM แบบมีตรายี่ห้อ (31% ของยอดขายรวม) ซึ่งคาดว่าจะโต 9% qoq สำหรับตลาดในประเทศไทย เราเชื่อว่าการที่กระทิงแดงขึ้นราคาขายปลีก 20% เป็น 12 บาท/ขวดในเดือนมีนาคมจะทำให้ยอดขายของ CBG ในไตรมาสนี้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่วนในตลาดต่างประเทศ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกัมพูชา (ประมาณ 15- 20% ของยอดขายรวม) ทำให้มีการบริโภคเครื่องดื่ม energy drink เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ เพราะมีการจ้างแรงงาน (กลุ่มลูกค้าของ CBG) มากขึ้น
อัตรากำไรขั้นต้นฟื้นตัวเพราะอัตราการใช้กำลังการผลิต และราคาอลูมิเนียมดีขึ้น
เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น 2.9ppt qoq เป็น 27.6% เนื่องจาก (1) อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานผลิตดีขึ้น (ไม่ได้เปิดเผยว่าดีขึ้นถึงระดับไหน) ตามยอดขายที่ฟื้นตัวขึ้น และ (2) ราคาอลูมิเนียมลดลงเหลือ USD2,148/ton เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน จากระดับสูงสุดที่ USD2,650/ton ในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ เนื่องจากราคาอลูมิเนียมมีแนวโน้มลดลง เราจึงเชื่อว่าอัตรากำไรขั้นต้นของ CBG มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้
ราคาเป้าหมาย DCF ที่ 82 บาท โดยความเสี่ยงหลักคือราคาวัตถุดิบผันผวน
ในแบบจำลอง DCF ของเราใช้สมมติฐาน WACC ที่ 6% และ terminal growth ที่ 2% ทั้งนี้ ราคาหุ้น CBG ในปัจจุบันคิดเป็น P/E ปี 2023F ที่ 29.9x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 47.3x เพราะกำไรอ่อนแอลงในปีนี้ เรามองว่าความเสี่ยงหลักอยู่ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ และแนวโน้มที่ไม่แน่นอนในตลาดต่างประเทศ