ตลาดหุ้นวานนี้

SET Index ลดลง 11 จุด (-0.76%) ปิดที่ระดับ 1,467 จุด การเมืองยังไม่นิ่ง นักลงทุนสถาบันขายลดความเสี่ยง โดยมีกลุ่มธนาคารถูกเทขายมากที่สุด

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้      

ประเมิน SET  ผันผวนกรอบ 1,460 – 1,480 จุด แม้ราคาน้ำมันดิบที่รีบาวด์ขึ้นหลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงมากกว่าคาดจะเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากแนวโน้ม FED และ ECB ยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ , ความไม่แน่นอนการเมืองภายในประเด็นการจัดตั้งรัฐบาลพรรคร่วม รวมถึงความผันผวนจากการหมดอายุ TFEX series M จะเป็นตัวถ่วงดัชนี

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • BBL KTB TTB KBANK SCB SAPPE ICHI CBG แนวโน้มกำไร 2Q23 เติบโต
  • PTTEP TOP BCP SPRC  ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น
  • BDMS BEM INTUCH ADVANC กลุ่ม Defensive ช่วงดัชนีผันผวน

หุ้นแนะนำวันนี้

  • PTTEP (ปิด 143.50 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 169 บาท) ราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัวใกล้แตะระดับ 70$/bbl อีกครั้งเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อการเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มธุรกิจน้ำมันโดยเฉพาะ PTTEP ซึ่งเป็น oil link Company
  • CBG (ปิด 62.50 ซื้อ/เป้า 82 บาท) ระยะสั้นมี Sentiment บวกจากราคาอะลูมิเนียมและน้ำตาลลดลง ส่วนงบ 2Q23 คาดมีกำไรสุทธิ 419 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 59%qoq จากยอดขายที่ฟื้นตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ และ มาร์จิ้นดีขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบลดลง

บทวิเคราะห์วันนี้

BBIK (ปิด 99 ซื้อ/เป้า 140 บาท), WHAUP (ปิด 3.6 ซื้อ/เป้า 5 บาท)

ประเด็นสำคัญวันนี้

(-) ประธานเฟดย้ำเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อคุมเงินเฟ้อ และเป็นไปได้หากจะปรับขึ้น 2 ครั้งติดต่อกัน: นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวย้ำในงานเสวนาว่าด้วยนโยบายการเงินของธนาคารกลาง ซึ่งธนาคารกลางยุโรป (ECB) จัดขึ้นที่ประเทศโปรตุเกสว่าเฟดยังจำเป็นที่จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อหลังจากที่เงินเฟ้อยังสูง ตลาดแรงงานยังแข็งแกร่ง และไม่ปิดโอกาสหากเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งติดต่อกัน

(+) ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว สต๊อกน้ำมันของสหรัฐลดลงมากกว่าที่คาด: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 1.86$ (+2.75%) ปิดที่ระดับ 69.56$/bbl หลังจาก EIA รายงานสต๊อกน้ำมันดิบลดลง 9.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลงเพียง 1.75 ล้านบาร์เรล และเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 2

(+/-) ความกังวลต่อทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐจะลดลงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ PCE ในวันศุกร์นี้: เบื้องต้น Consensus คาด Headline PCE เดือน พ.ค. จะลดลงแตะระดับ 4.1% จาก 4.4% และคาด Core PCE จะลดลงเป็น 4.5% จาก 4.7% ในเดือน เม.ย.  ตลาดจะคลายกังวลและตอบรับเชิงบวกหากตัวเลขออกมาต่ำกว่า 4%

ข่าวในประเทศและต่างประเทศ

สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ

ไทย

(+/-) นายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) เปิดเผยถึงแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวว่า ขณะนี้สถานการณ์เร่ิมฟื้นตัวแต่ยังไม่เต็มที่ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกและทุกประเทศยังได้รับผลกระทบจากปัญหาจากโควิด-19 ประกอบกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวยังไม่มีความพร้อมเต็มที่ โดยประเมินว่า ขณะนี้การท่องเท่ียวกลับมาได้ประมาณ 60-70% แล้ว เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19

(+) เวิลด์แบงก์ ขยับเพิ่ม GDP ไทยปี 66 เป็นโต 3.9% ท่องเที่ยวฟื้น-ดีมานด์จากจีนแกร่งกว่าคาด

สหรัฐ

(-) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (28 มิ.ย.) หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ยุโรป

(-) เยอรมนี – ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลงสู่ระดับ -25.4 ในช่วงเข้าสู่ก.ค. จากระดับ -24.4 ในมิ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ -23.0

เอเชีย

(-) กําไรของบริษัทในภาคอุตสาหกรรมจีนร่วงลง 18.8% ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากบริษัทในภาคส่วนน้ีได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุปสงค์ที่อ่อนแอลง

- Advertisement -