ประธาน FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง

Market Update

ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบเล็กน้อย 0.2% หลังจากประธาน FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 2.45% หลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่ลดลงมากกว่าคาด

Market Outlook

เมื่อคืนที่ผ่านมาประธาน FED ได้เข้าร่วมประชุมกับ ECB แต่ถ้อยแถลงยังคงคล้ายเดิม กล่าวคือส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ค. และ ก.ย. เพื่อสกัดเงินเฟ้อและสกัดความร้อนแรงในตลาดแรงงาน โดยยังคงคาดการณ์ถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากแถลงดังกล่าวพบว่าการเคลื่อนไหวของแต่ละสินทรัพย์ค่อนข้างทรงตัว ไม่ว่าจะเป็นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้งอายุ 2 และ 10 ปี ราคาทองคําและตลาดหุ้น โดย CME FED Watch ยังคงให้น้ำหนักราว 81.8% (ถูกปรับเพิ่มจากวันก่อนหน้าที่ 76.8 %) ที่ FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สะท้อนว่าถ้อยแถลงของประธาน FED มิได้สร้างความประหลาดใจต่อตลาดแต่อย่างใด (Price In ไปแล้ว) ส่วนคืนนี้รอติดตามผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.64 แสนราย หากรายงานแล้วสูงกว่าตลาดคาดการณ์ มองเป็นบวกกับตลาดจากการคลายกังวลดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ

ส่วนในประเทศยังคงถูกกดดันจากเรื่องการเมือง ล่าสุดระหว่างพรรคเพื่อไทยและก้าวไกลยังมิสามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานสภา เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายกฯ ช่วงกลางเดือน ก.ค. สอดคล้องกับกระแสเงินทุนต่างชาติที่ยังไม่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย แม้วานนี้จะชื้อสุทธิเล็กน้อย 505 ล้านบาท แต่พบว่ายังคงเห็นการ Short TFEX ต่อเนื่อง พร้อมกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าทดสอบระดับ 35.5 บาท / ดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นอ่อนค่าที่สูงสุดในรอบ 7 เดือน แต่มองหุ้นกลุ่มส่งออกได้ประโยชน์ (KCE TU) ดังนั้นเชื่อว่าการปรับขึ้นของตลาดหุ้นช่วงนี้ยังมี Upside จำกัดจนกว่าจะเห็นความชัดเจนด้านการเมืองซึ่งคาดว่าจะอยู่ในช่วงกลางเดือนหน้า

วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1467 – 1475 แม้อาจได้แรงหนุนจากตลาดหุ้น Nikkei ที่เช้านี้ปรับขึ้นราว 0.3% รวมถึงราคาน้ำมันดิบ BRT ที่ปรับขึ้นหนุนกลุ่มพลังงานแต่ก็เชื่อว่า Upside ยังจํากัดจากแรงกดดันด้านการเมือง เชิงกลยุทธ์การลงทุนยังเน้นเพียงแค่ Trading ระยะสั้นเท่านั้น แนะกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP SPRC TOP) รวมไปถึงกลุ่ม Domestic Play อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคาร (BBL KBANK KTB SCB) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL ERW MINT SPA) ศูนย์การค้า (CPN) ขนส่ง (BEM) กลุ่มสื่อ (PLANB) โรงภาพยนตร์ (MAJOR)

หุ้นแนะนำซื้อวันนี้

BBL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 190.00 บาท) คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/23 ที่ 1.04 หมื่นล้านบาท (+50% YoY, +3% QoQ) แม้รายได้ค่าธรรมเนียมจะเบาบางและคาดถึงคําไรสุทธิจากมูลค่ายุติธรรมผ่านกําไรขาดทุน (FVTPL) ที่น้อยลง เพราะตลาดทุนที่ผันผวน แต่คาดว่ากำไรสุทธิจะโตขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จาก 1) NII ที่โตขึ้นเพราะ NIM ที่ขยายตัว และ 2) การตั้งสํารองหนี้ฯ ที่ลดลง

PTTEP (ถือ / ราคาเป้าหมาย 162.00 บาท) ระยะสั้นได้แรงหนุนจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าราคาน้ำมันดิบจะลดลงต่อเนื่องในปี 2023 และ 2024 เป็น US$78/บาร์เรล และ US$74.0/บาร์เรล ตามลำดับ มีสาเหตุจากอุปทานล้นเกินและความกังวลด้านอุปสงค์จากสภาวะเศรษฐกิจถดถอย แต่มองว่าราคาหุ้นมี downside risk จํากัด เพราะมีราคาที่ไม่แพงอยู่แล้ว

- Advertisement -