พักก่อน 1625 – 1645

ตลาดหุ้นวันนี้

  • พักก่อน: คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวออกข้างระหว่าง 1625 – 1645 จุด หลังปิดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 บวกรวมกันเกือบ 95 จุด แม้จะได้รับแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง 3 วัน รวมเป็นมูลค่ากว่า 11,962 ลบ. แต่วานนี้ SET ขึ้นไปทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณ 1643 จุด และยังไม่สามารถผ่านไปได้ อาจเริ่มชะลอความร้อนแรง หากแต่ยังไม่น่าเสียทรงทางขาขึ้น ขณะที่ทิศทางการไหลของเม็ดเงินลงทุนยังอิงไปในทางสินทรัพย์เสี่ยง โดยล่าสุด Dollar Index อ่อนค่าสู่ระดับ 92.64 จุด ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นมาที่ระดับ 1.32% ในระยะสั้น จึงคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะพักตัวออกข้างในโซนด้านบนไปก่อน เพื่อรอปัจจัยเชิงบวกใหม่เพิ่มเติม
  • ทิศทางราคาน้ำมันดิบโลก รอดูผลการประชุม OPEC+ วันนี้: ล่าสุด แหล่งข่าวในกลุ่ม OPEC+ เปิดเผยต่อสำนักข่าว Reuters ว่า ดูเหมือนว่า กลุ่ม OPEC+ จะยังคงปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 4 แสนบาร์เรลต่อวันไว้ตามเดิม แม้จะมีข่าว กรณีที่รัฐมนตรีน้ำมันคูเวตส่งสัญญาณว่า OPEC+ ควรทบทวนการปรับขึ้นกำลังการผลิต น้ำมันดิบของกลุ่มก็ตาม ซึ่งหากสังเกตจากราคาสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI และ Brent ที่ปรับตัวลงเล็กน้อย สะท้อนว่านักลงทุนส่วนใหญ่กำลังเชื่อในทิศทางที่ว่า ผลการประชุมในครั้งนี้จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรที่มีนัยสำคัญ ในภาพรวมทางฝ่ายจึงคาดว่า OPEC+ จะยังคงกำลังการผลิตน้ำมันดิบตามเดิม และส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกชะลอการปรับตัวขึ้นในระยะสั้น
  • ประเด็นเด่นน่าติดตาม: 
    • ปัจจัยภายนอก ได้แก่ การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ โดยในวันนี้น่าติดตาม 1) การจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรมจากเอดีพี (ADP) ตลาดคาดมีการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 6.13 แสนตำแหน่ง มากกว่า เดือนก่อนที่ 3.30 แสนตำแหน่ง 2) สต็อกน้ำมันดิบตลาดคาดลดลง 3.09 ล้านบาร์เรล ลดลงมากกว่าสัปดาห์ก่อนที่ลดลง 2.98 ล้านบาร์เรล ส่วนในวันศุกร์นี้จับตาการประกาศ 1) Nonfarm Payrolls ของเดือน ส.ค. ตลาดคาดจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 7.5 แสนตำแหน่ง น้อยกว่าเดือนก่อนที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 9.43 แสนตำแหน่ง และ 2) อัตราการว่างงานของเดือน ส.ค.ตลาดคาดลดลงสู่ระดับ 5.2% ดีขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ ณ ระดับ 5.4% ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจทั้ง 2 ตัวดังกล่าว จะเป็นส่วนสำคัญต่อการพิจารณาปรับนโยบายการเงินของ FED ในช่วงสิ้นเดือนนี้
    • ปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ 1) การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลในระหว่างวันที่ 31ส.ค.-3 ก.ย.และ 2) การนัดจัดคาร์มอบวันที่ 2 ก.ย. เวลา 16.00 – 20.00 น.

Picks of the day

ADVANC BUY

  • รับแรงซื้อจากต่างชาติ: ท่ามกลางแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาต่อเนื่อง รวมแล้วเกิน 1.0 หมื่นลบ. ตลอด 3 วันทำการ คาดยังส่งผลดีต่อ ADVANC ในแง่ของการเป็นหุ้น Big Cap ที่ต่างชาติสนใจลงทุน อีกยังมี Upside จากราคาพื้นฐาน
  • ขานรับเม็ดเงิน 5G: ด้วยสัญญาณเชิงบวกต่อการกลับมาดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน หลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย คาดจะดีต่อ ADVANC ในแง่ของการลงทุนด้านไอที โดยเฉพาะ 5G ที่จะถูกมองเป็นสิ่งจำเป็นรับเทคโนโลยียุคใหม่ ซึ่งคาด ADVANC ได้ประโยชน์จากการมีคลื่นครอบคลุมมากสุด

BGRIM BUY

  • กำไร 2H64 ดีขึ้น : การขายไฟฟ้าอุตสาหกรรมใน 2H64 น่าจะดีขึ้น ตามการคลี่คลายของ COVID-19 และกิจกรรมการผลิตของประเทศที่ฟื้นตัว ขณะที่แรงกดดันจากต้นทุนพลังงานเริ่มลดลง จากราคาน้ำมันเริ่มอ่อนลง
  • จากกระแสพลังงานสีเขียว: บริษัทมีพอร์ต โรงไฟฟ้า เน้นพลังงานสะอาด และมีแผนขยายกิจการไปโรงไฟฟ้าหมุนเวียน ทำให้ราคาหุ้นไปกับกระแสการลงทุนพลังงานสะอาด-ESG ซึ่งเป็นที่ต้องการของนักลงทุนต่างชาติ
- Advertisement -