ศาลประเทศกัมพูชาเห็นว่ากลุ่มบริษัท GL ไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่ JTA และกรรมการของ GLH ไม่มีความผิดข้อหาฉ้อโกงหรือก่ออาชญากรรมในประเทศกัมพูชา
นายทัตซึยะ โคโนชิตะ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของบริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “บริษัทได้รับข่าวดีจากทางประเทศกัมพูชาว่า มีการยกฟ้องคดีแพ่งหมายเลข 1657 โดยศาลอุทธรณ์พนมเปญ ซึ่งเป็นศาลสูงสุดในประเทศกัมพูชา คำพิพากษาของศาลจึงถึงที่สุด คดีแพ่งหมายเลข 1657 นั้น เป็นคดีที่เกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2562 อันเนื่องมาจากการที่ บริษัท เจทรัสต์ เอเซีย พีทีอี จำกัด (“JTA”) ฟ้องเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน จำนวน 229 ล้านหรียญสหรัฐ จาก บริษัท จีแอล ไฟแน๊นซ์ จำกัด (มหาชน) (“GLF” บริษัทย่อยสัญชาติกัมพูชาของบริษัท) และบริษัท กรุ๊ปลีส โฮลดิ้งส์ พีทีอี จำกัด (“GLH” บริษัทย่อยสัญชาติสิงคโปร์ของบริษัท) ซึ่งต่อมา JTA ได้ลดเงินค่าเสียหายลงเหลือ 154 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ศาลอุทธรณ์ก็ยังคงยกฟ้องคดีนี้อย่างเป็นเอกฉันท์ และทำให้คดีนี้ถึงที่สุด ในส่วนค่าดำเนินคดีที่ศาลอุทธรณ์พนมเปญนั้น จะถูกจ่ายโดย JTA ขั้นตอนต่อไปคือการเรียกร้องค่าชดเชยจากความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของกลุ่มบริษัทของเจทรัสต์ เนื่องจากไม่มีคดีอื่นฟ้องร้องอีกแล้วในประเทศกัมพูชา บริษัทมีหลักฐานใหม่มากพอที่เรียกค่าชดเชยในจำนวนที่มากกว่าเดิม ศาลพิพากษาว่า GLF ไม่มีภาระผูกพันทางกฎหมายหรือความเชื่อมโยงทางกฎหมายใดๆ ในฐานะลูกหนี้ของ JTA และคดีความทางกฎหมายใดๆ กับ GLH ก็ไม่อยู่ในเขตอำนาจศาลของประเทศกัมพูชา ปัจจุบันเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า คำฟ้องของกลุ่มบริษัทเจทรัสต์ และผู้บริหารนั้น ไม่มีหลักฐานเพียงพอ JTA เริ่มต้นการฟ้องร้องดังกล่าวในหลายประเทศ ทั้งที่ไม่มีเหตุผลโดยชอบด้วยกฎหมายใดๆ บริษัทได้บอกหลายครั้งแล้ว และขณะนี้ ทุกคนสามารถเห็นแล้วว่า กลุ่มบริษัทเจทรัสต์กับผู้บริหารประสงค์ร้ายเพียงใด พวกเขาเริ่มก่อนและยังคงฟ้องคดีโดยไม่มีมูลต่อไป ราวกับว่าพวกเขาเชื่อว่า คดีนั้นมีประโยชน์กับพวกเขา โดยไม่สนใจว่า คดีที่จะมีมีมูลตามกฎหมายหรือไม่
บริษัทได้แจ้งให้ทราบหลายครั้งแล้วว่า JTA ยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีความกับบรรดาบริษัทต่างๆ ของเราในหลากหลายประเทศ แม้ว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศเดียวเท่านั้นที่การฟ้องร้องทั้งหมดควรเกิดขึ้น JTA ใช้ศาลในประเทศอื่นๆ เพื่อพยายามที่จะสร้างความเสียหายให้แก่บริษัท และใช้กระบวนการทางกฎหมายในทางที่ผิด เนื่องจาก JTA ไม่สามารถชนะคดีในประเทศไทยได้ การยกฟ้องครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ไม่มีมูลแห่งคดีเกิดขึ้น ไม่มีหลักฐาน และการกระทำของ JTA ที่กระทำต่อกลุ่มบริษัทในประเทศกัมพูชาเป็นการใช้สิทธิเรียกร้องอย่างไร้สาระ ขณะที่บริษัทมีความยินดีกับชัยชนะนี้ บริษัทยินดีกว่าที่จะใช้การถอนฟ้องนี้เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า JTA ได้คุกคามบริษัทอย่างต่อเนื่องโดยการฟ้องร้องกลุ่มบริษัทในต่างประเทศโดยไม่มีมูล และบริษัทจะให้ JTA ชดใช้ค่าเสียหายแก่บริษัทและผู้ถือหุ้นสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกลุ่มบริษัทของเรา”
นายริกิ อิชิกามิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทางบริษัทรู้สึกยินดีที่คำฟ้องที่ JTA ฟ้องกลุ่มบริษัทในประเทศกัมพูชานั้น ถูกศาลยกฟ้อง นอกจากนั้น เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่คดีที่ JTA ฟ้องนายมิตซึจิ โคโนชิตะ ซึ่งเป็นกรรมการ GLH ซึ่งถูกฟ้องร้องโดย JTA ในประเทศกัมพูชาเช่นกันโดยอ้างว่า นายมิตซึจิกระทำการฉ้อโกง อย่างไรก็ตาม ศาลชั้นต้นพนมเปญ ศาลอุทธรณ์พนมเปญ และสุดท้ายเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ศาลฎีกาของประเทศกัมพูชา ทุกศาลต่างมีความเห็นเดียวกันว่า นายมิตซึจิไม่มีความผิดฐานฉ้อโกงหรือความผิดอาญาใดๆ ในประเทศกัมพูชา นับเป็นข่าวดีที่กรรมการคนปัจจุบันของ GLH และอดีตประธานกรรมการบริหารของ GL ถูกตัดสินว่า ไม่มีความผิดทางอาญาใดๆ ในทุกระดับของศาลในประเทศกัมพูชา ไปจนถึงระดับศาลสูงของประเทศกัมพูชา นี่เป็นหลักฐานที่ชัดเจนว่า เมื่อศาลรับฟังหลักฐานของบริษัท ศาลจะตระหนักได้ว่า ไม่มีการฉ้อโกงและไม่มีการกระทำความผิดใดๆ ทั้งสิ้นทางอาญา บริษัทกำลังรอผลคำพิพากษาของคดีที่ประเทศไทยซึ่งคาดว่าน่าจะประมาณต้นปี 2567 เพื่อจะแสดงให้ผู้ถือหุ้นและหน่วยงานกำกับดูแลได้เห็นว่า บริษัทและนายมิตซึจิไม่ได้กระทำความผิดใดๆ เราจะใช้ชัยชนะทางกฎหมายในครั้งนี้ทำให้ JTA ชดใช้ค่าเสียหายที่ได้ทำลงไปให้แก่บริษัท