ซึมตัวในกรอบ 1625 – 1640

ตลาดหุ้นวันนี้

  • ซึมตัวในกรอบ: คาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งตัวออกข้างระหว่าง 1625 – 1640 จุด หลังวานนี้ SET INDEX ดีดตัวช่วงเปิดตลาดขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1645 จุด แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านไปได้ และปิดในแดนลบเป็นวันแรกในรอบ 9 วันทำการ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มกลับมาขายสุทธิในหุ้นไทยเป็นวันแรก จากที่ซื้อติดต่อกันเป็นเวลา 3 วัน โดยวันนี้ ทางฝ่ายมองว่าตลาดเริ่มขาดปัจจัยหนุนเชิงบวกใหม่ๆ บรรยากาศการลงทุนในต่างประเทศยังดูซึม วานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวไร้ทิศทาง ตลาดหุ้น Nasdaq ปรับตัวขึ้น 0.33% โดยหลักมาจากแรงหนุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ Dow Jones ปิดตัว -0.14% จากแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน แม้วานนี้สหรัฐจะรายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบ ลดลง 7.17 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 3.09 ล้านบาร์เรล แต่ผลการประชุม OPEC+ ยังคงเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันไว้ตามเดิม ส่งผลให้ราคาสัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ไม่ไปไหน ล่าสุดปิดที่ระดับ 68.59 ดอลลาร์สรอ.ต่อบาร์เรล ปรับเพิ่มเพียง 0.13% ดังนั้น ทางฝ่ายจึงคาดว่าประเด็นนี้จะมีส่วนร่วมในการกดดันหุ้นกลุ่ม ENERG และ SETI ในวันนี้ ไม่ให้ไปไหนได้ไกล
  • OPEC+ ยืนยันเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบตามแผนเดิม: ผลการประชุม OPEC+ วานนี้ มีมติให้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบ 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ไว้ตามแผนเดิม โดย OPEC+ มองว่า แม้สถานการณ์ COVID-19 ยังมีความไม่แน่นอน แต่ปัจจัยพื้นฐานของตลาดมีความแข็งแกร่งมากขึ้น จากตัวเลขสต็อกน้ำมันในกลุ่มประเทศ OECD ที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ท่ามกลางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ โดยปัจจุบันกลุ่มประเทศ OECD มีสมาชิกรวมกว่า 38 ประเทศ ซึ่งล้วนประกอบไปด้วยประเทศที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก เช่นสหรัฐ กลุ่มประเทศสมาชิก EU ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ส่วนกำหนดการประชุม OPEC+ ครั้งถัดไปคือ วันที่ 4 ต.ค.
  • วานนี้สหรัฐเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจากเอดีพี (ADP) ต่ำกว่าตลาดคาด:โดยพบว่าเดือนส.ค. มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 3.74 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นราว 6.13 แสนตำแหน่ง แต่ยังถือว่าสูงกว่าตัวเลขของเดือน ก.ค. ที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 3.26 แสนตำแหน่ง สิ่งที่ต้องติดตามต่อคือตัวเลขที่เกี่ยวข้องกับภาคการจ้างงานของสหรัฐที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ ได้แก่ 1) Nonfarm Payrolls ของเดือน ส.ค. ตลาดคาดจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 7.5 แสนตำแหน่ง น้อยกว่าเดือนก่อนที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 9.43 แสนตำแหน่ง และ 2) อัตราการว่างงานของเดือน ส.ค.ตลาดคาดลดลงสู่ระดับ 5.2% ดีขึ้นจากเดือนก่อนที่อยู่ ณ ระดับ 5.4% ซึ่งตัวเลขเศรษฐกิจทั้ง 2 ตัวข้างต้น จะเป็นส่วนสำคัญต่อการประชุม FED ในการพิจารณานโยบายการเงินช่วงปลายเดือนนี้

Pick of the day 

DTAC BUY

• รับผ่อนคลาย: คาด DTAC ได้อานิสงส์รับมาตรการผ่อนคลายเช่นเดียวกับร้านอื่นๆที่อยู่ภายในศูนย์การค้า หลังกลับมาเปิดให้บริการได้อีกครั้งสำหรับ 29 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด ซึ่งอาจมีความต้องการแฝงในส่วนของสินค้าไอทีรวมถึงการเข้าไปใช้บริการด้านต่างๆ

ลุ้นแกว่งขึ้นต่อ: เนื่องด้วยราคาหุ้น DTAC ทะลุ ผ่านแนวต้านแถว 37.50 บาท ขึ้นมาได้ ในขณะที่กราฟรายสัปดาห์ MACD ยังเดินหน้าในแดนขาขึ้น จึงคาดเป็นจังหวะซื้อเพื่อรอการทะลุเส้น EMA 200 ขึ้นไปได้

TACC BUY

เติบโตไปกับ 7-11: ได้เซ็นสัญญากับ 7-11 ต่อ อีก 3 ปี (เป็นครั้งที่ 3) พร้อมกับลุยพัฒนาเครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ใน 7-11 และเข้าไปใน Delivery Platform มากขึ้น เนื่องจากมีแนวโน้มเติบโตสูง

• 2H64 ฟื้นตัวมากขึ้น: จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงต่อเนื่อง ประกอบกับภาครัฐผ่อนคลายมาตรการต่างๆมากข้ึนทำให้คนออกนอกบ้าน ใช้ชีวิตประจำวัน หรือเดินทางกันมากขึ้น หนุนการจับจ่ายใช้สอยและบริโภคฟื้นตัว

- Advertisement -