บล.เคจีไอ:
JMT Network Services มุมมองเป็นลบระยะสั้น
Event
ปรับประมาณการและปรับลดราคาเป้าหมายจากประเด็นการเพิ่มทุน
Impact
หุ้นเกิด dilution 24% จากการเพิ่มทุนและการแปลง warrant เดิม
JMT มีแผนจะเพิ่มทุนก้อนใหญ่ 1 หมื่นล้านบาท (ยังไม่รวมการใช้สิทธิ์แปลง) จากการขายหุ้นผ่าน RO 241 ล้านหุ้น ที่ราคา 41.50 บาท/หุ้น โดยแถม warrant 70.5 ล้านหน่วย (กำหนดราคาใช้สิทธิ์ที่..) เราคาดว่าธุรกรรมนี้จะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า และจะทำให้สัดส่วน D/E ของบริษัทลดลงเหลือ 0.4x จาก 1x ใน 2Q64 ซึ่งหากบริษัทเพิ่มทุนได้ตามแผน เงินทุนที่ระดมได้จะทำให้ฐานทุนเพิ่มขึ้น และเพิ่มโอกาสในการก่อหนี้เพื่อซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพได้อีก 7 พันล้านบาท ในปี 2564, 1.5 หมื่นล้านบาทในปี 2565 และ 2 หมื่นล้านบาทในปี 2566 เราประเมินว่าการออกหุ้นใหม่ และการใช้สิทธิ์แปลง warrant เดิม (JMT-W3) 98 ล้านหน่วยจะทำให้หุ้น JMT เกิด dilution ประมาณ 24% ในปี 2565
รายได้จากการติดตามหนี้โตช้าลงในระยะสั้น ตามเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
ผลประกอบการของ JMT โตในอัตราที่ชะลอลงติดต่อกันมาสามไตรมาสแล้ว ตามรายได้จากการติดตามหนี้ที่โตในอัตราที่ลดลงเหลือ +7%YoY ใน 2Q64 และ +14% ใน 1H64 (จาก +14% ในปี 2563 และเฉลี่ย +30% ในปี 2561-62) ทั้งนี้ เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจแย่ลง เราจึงคาดว่าผลประกอบการของ JMT จะชะลอตัวลงอีกใน 3Q64 โดยคาดว่าจะโตเป็นเลขหลักเดียว ทั้ง QoQ และ YoY ก่อนที่จะพลิกฟื้นใน 4Q64 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้นจะทำให้สามารถติดตามหนี้ได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้เราคาดว่า GPM จะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงที่ 70% (จาก 72% ใน 1H64) ทั้งนี้เพื่อให้กำไรเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว บริษัทจำเป็นต้องซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพเพิ่มเติมและเร่งติดตามหนี้ให้ได้มากขึ้น
มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งในระยะยาวจากแผนการซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ
เมื่อใช้สมมติฐานการเพิ่มทุนตามแผนของบริษัท เราคาดว่า JMT จะมีเงินสดเต็มมือที่ประมาณ 1.4 หมื่นล้านบาท (รวมเงินที่ได้จากการใช้สิทธิ์แปลง JMT-W3 ซึ่งจะหมดอายุในปี 2565) บวกกับกระแสเงินสดภายในบริษัทอีก 4 พันล้านบาทในปีนี้ 7 พันล้านบาทในปี 2565 และ 1 หมื่นล้านบาทในปี 2566 ดังนั้น เราจึงคาดว่าบริษัทจะรักษาสัดส่วน D/E เอาไว้ในระดับต่ำได้ที่ 1.2x ในช่วงปี 2566-67
ปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 55 บาท (จากเดิม 58 บาท) แต่ยังคงคำแนะนำ ซื้อ
เนื่องจากผลประกอบการใน 3Q64 มีแนวโน้มอ่อนแอ เราจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 2564 ลงจากเดิม 10% แต่ยังคงประมาณการกำไรปี 2565 เอาไว้เท่าเดิม และปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2566 ขึ้นอีก 24% โดยกำไรที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2565/66 สะท้อนถึงยอดติดตามหนี้ และรายได้จากสินทรัพย์ที่ซื้อเพิ่มเข้ามาในปี 2564/63 ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เราใช้สมมติฐานยอดซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพตามเป้าใหม่ของ JMT ที่ 7 พันล้านบาทในปี 2564, 1.5 หมื่นล้านบาทในปี 2565 และ 2 หมื่นล้านบาทในปี 2566 แต่ปรับลดสมมติฐาน margin ทั้งนี้เมื่อใช้ P/E ที่ 35x กับประมาณการกำไรแบบ fully-diluted เฉลี่ยในอีกสองปีข้างหน้า ทำให้เราได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 55 บาท (ลดลงจากเดิมที่ 58 บาท) เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ JMT
Risks ซื้อสินทรัพย์ด้อยคุณภาพได้น้อยกว่าแผนที่กำหนดไว้, margin ลดลงและการเติบโตเร็วเกินไป