โปรดติดตามตอนต่อไป / 1485-1505
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET Sideways to Sideways Down : หลังวานนี้สภาฯมีมติโหวตนายกฯคนที่ 30 โดยนาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มีผู้เห็นชอบ 324 ท่าน มีผู้ไม่เห็นชอบ 182 ท่าน และงดออกเสียง 199 ท่าน โดย ส.ว. ส่วนใหญ่เลือกแสดงความคิดเห็นในเชิงงดออกเสียง มีเพียง 13 ท่านเท่านั้นที่เห็นชอบกับการตั้งคุณพิราขึ้นเป็นนายก จึงถือว่ายังไม่มีมติเป็นเอกฉันท์ในการเลือกนายกคนต่อไป ภาพดังกล่าวสร้างความกังวลต่อปัญหาสูญญากาศทางการเมือง ที่จะยังยืดเยื้อต่อไปอีกอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ก่อนถึงการโหวตเลือกนายกในครั้งหน้า (19 ก.ค.) ซึ่งความไม่แน่นอนดังกล่าวคาดจะเป็น Sentiment ลบต่อการลงทุน นอกจากนี้อาจมีประเด็นการชุมนุมของผู้ที่ไม่พอใจในมติกดดันหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มค้าปลีกเป็นระยะ ขณะที่กลุ่มที่มองจะได้ประโยชน์ในระยะสั้น คือหุ้นในกลุ่มทุนเดิม เช่นกลุ่มโรงไฟฟ้าสื่อสาร อสังหาฯบางส่วน มีโอกาสผลักดันตลาดขึ้นแค่สั้นๆ ถัดไปน่าจับตามอง คือการโหวตครั้งที่ 2 โดยมองทางฝั่งรัฐบาล มีเพียง 2 ทางเลือก คือ จะส่งนาย พิรา เข้ามาโหวตอีกครั้ง หรือจะเปลี่ยนเอาแคนดิเดต จากทางเพื่อไทยเข้ามาโหวตแทนด้านปัจจัยภายนอก ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดยืนเหนือ $77 ต่อบาร์เรล เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะที่ US Bond Yields ทั้งระยะสั้นและยาวปรับตัวลงต่อเนื่อง ลดแรงกดดันต่อตลาดหุ้นกอปรกับ Dollar Index ร่วงหลุดระดับ 100 จุด เป็นครั้งแรกในรอบ 15 เดือนสะท้อนเม็ดเงินไหลออกจากสินทรัพย์ปลอดภัยไปสู่สินทรัพย์ลงทุน คงต้องหวัง Sentiment ภายนอกช่วยกลบความไม่แน่นอนภายในในวันนี้
- กลยุทธ์การลงทุน : 1) โรงไฟฟ้า : GULF, GPSC, BGRIM 2) พลังงาน : PTTEP, PTT, TOP, IRPC 3) อสังหาฯ : SC, SIRI 4) สื่อสาร: ADVANC, INTUCH, TRUE 5) Spending: CRC, CPALL 6) มาตรการกระตุ้นศก. จีน: HANA, PTTGC, IVL, STA, PSL
ปัจจัยบวก
- ลุ้นกบน.ตรึงราคาดีเซลที่ 32 บาท งัดเงินกู้กว่า 5.5 หมื่นล้านบาท หลังมาตรการเดิมจะหมดในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เป็นบวกต่อกําลังการซื้อ
- ม.หอการค้าไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเดือน มิ.ย. อยู่ที่ 56.7 ปรับตัวดีขึ้นจากในเดือนพ.ค. ที่ 55.7 ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 และอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 40 เดือนนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 63 เป็นต้นมา
- จีนเผยการนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 45.3% y-y โดยกลุ่มโรงกลั่นได้ทำการเพิ่มปริมาณสต็อกนํ้ามันดิบ
- นาย หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีของจีน พบปะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเทคโนโลยีชั้นำ พร้อมให้คํามั่นจะเปลี่ยนท่าทีจากเดิมที่ใช้มาตรการควบคุมอุตสาหกรรม เป็นสนับสนุนอุตสาหกรรมเพิ่ม
ปัจจัยลบ
- UN เผยรายงานระบุหนี้ทั่วโลกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 92 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2565 พบประเทศกําลังพัฒนาต้องแบกรับภาระหนี้อย่างมาก ปริมาณหนี้สาธารณะต่อ GDP ของประเทศกำลังพัฒนาสูงถึง 60%
- รอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงผลสํารวจจากสถาบันศก.เยอรมนีพบว่าความเชื่อมั่นของบริษัทเยอรมนีปรับตัวลดลงอีกครั้งในฤดูร้อนนี้ โดยประมาณ 34% ของบริษัททั้งหมดที่ทำการสำรวจใน เดือนมิ.ย. คาดว่าการผลิตจะลดลงในปีนี้
- EU มองอัตราการจ้างงานในปีนี้ยังอยู่ที่ระดับ 0.5% ซึ่งมองจะยังเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ขณะที่ตัวเลข Industrial Production เดือน พ.ค. ออกมาที่ -2.2% (y-y) ต่ำกว่าคาดที่ -1.2%(y-y) และนับเป็นการชะลอตัวที่มากที่สุดในรอบ 10 เดือน
PICKS OF THE DAY
TRUE BUY
- เป้าหมาย 6.85/7.00 แนวรับ 6.35/6.50
- ARPU แนวโน้มฟื้นตัว: ทางฝ่ายคาดบริษัทจะได้ประโยชน์จากหลังการควบรวม ทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมเป็นลักษณะ 2 บริษัท 3 แบรนด์ ซึ่งช่วยลดการแข่งขันในช่วงที่กำลังซื้อฟื้นตัวตามสภาวะเศรษฐกิจ กอปรกับอุตสาหกรรมทยอยยกเลิกแพ็กเกจที่ราคาประหยัดออกไป
- ต้นทุนแนวโน้มลดลง: จากค่า Ft ตั้งแต่ พ.ค. เริ่มทยอยลดลง กอปรกับการเพิ่มบทบาทของ Call Center แบบ AI หรือ “น้องมะลิ” เพื่อให้มาแทนที่มนุษย์มากยิ่งขึ้น ทำให้มองเป็นประโยชน์ต่อการบริหารบุคคลากรในบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
BGRIM BUY
- เป้าหมาย 36.75/37.50 แนวรับ 34.50/35.25
- Ft ลดลงน้อยกว่าคาด : จากแนวทางการปรับ Ft งวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 ของกกพ. 3 แนวทาง กรณีที่แย่ที่สุดคาดค่า Ft ลดลง 24.3 สตางค์/หน่วย ซึ่งต่ำกว่าที่กังวลก่อนหน้า มองเป็นผลบวกต่อผลประกอบการบริษัท
- ราคาก๊าซยังเป็นขาลง : ราคา Pool Gas อยู่ในเทรนขาลง จากราคา LNG ที่ปรับตัวลดลงตั้งแต่ช่วงต้นปี รวมถึงปริมาณก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยที่ทยอยเพิ่มขึ้นจากแหล่งอ่าวเอราวัณที่ผลิตเพิ่มขึ้น 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ช่วยหนุนให้ราคาก๊าซลดลง ทางฝ่ายมองผลกระทบหากมีการปรับลดค่า Ft จะสามารถชดเชยได้จากต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลงเช่นกัน