บล.พาย: 

PTG: PTG Energy PCL

มาร์จิ้นเจอแรงกดดันในไตรมาส 2/23

เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/23 จะอยู่ที่ 172 ล้านบาท (-71% YoY, -38% QoQ) ฉุดจากค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ลดลง การขยายกรอบการเก็บภาษีดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันที่อาจทำให้ค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันลดเป็น 1.6 บาท/ลิตร ในไตรมาส 2/23 ลดลง 24% YoY และ 7% QoQ แต่มองว่าเป็นเพียงการย่อตัวชั่วคราว และคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวในครึ่งหลังปี 2023 ตามค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่พื้นขึ้น ด้วยเหตุนี้เราจึงคงคําแนะนํา “ซื้อ” ขณะที่ปรับลดมูลค่าพื้นฐานลง 19% เป็น 12.60 บาท (จาก 15.50 บาท) เพื่อสะท้อนถึงการปรับประมาณการกำไรของเรา แม้ปัจจัยรบกวนจากอัตรากำไรที่ลดลงยังดำรงอยู่ แต่การเติบโตของยอดขายในธุรกิจน้ำมันและอื่นๆ (non-oil) จากการขยายปั๊มน้ำมันและ LPG ขึ้น 5% และ 15% ตามลำดับ จะช่วยหนุนให้กำไรสุทธิปี 2023 โต 12% YoY

ภาพรวมกำไรไตรมาส 2/23 ดูอ่อนแอ

  • เราคาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/23 จะอยู่ที่ 172 ล้านบาท (-71% YoY, -38% QoQ) ฉุดลงจากค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ลดลง
  • คาดว่าค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันจะลดลงเหลือ 1.6 บาท/ลิตร ในไตรมาส 2/23 เทียบ 2.1 บาท/ลิตร ในไตรมาส 2/22 และ 1.7 บาท/ลิตร ในไตรมาส 1/23 เพราะการขยายกรอบการเก็บภาษีดีเซลเข้ากองทุนน้ำมัน ทั้งนี้ ยอดขายดีเซลคิดเป็น 74% ของปริมาณขายน้ำมันของ PTG ทั้งหมด ณ สิ้นปี 2022
  • แต่คาดว่าปริมาณขายน้ำมันจะฟื้นตัว 12% YoY และ 4% QoQ เป็น 1,533 ล้านลิตร หลังจากการบริโภคภาคเกษตรปรับดีขึ้น บวกกับการขยายปั๊มอีก 6 แห่งในไตรมาส 2/23
  • สำหรับธุรกิจ non-oil (20% ของกำไรขั้นต้น) คาดว่าส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจ LPG จะโตขึ้นจากปริมาณขายที่เพิ่มเป็น 156 ล้านลิตร (+28% YoY, +3% QoQ) แม้ค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันจะลดลงก็ตาม ส่วนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) คาดว่าจะมีส่วนแบ่งกำไรที่โตจากการขยายสาขาร้านกาแฟพันธุ์ไทยอีก 23% QoQ

ปรับประมาณการกำไรพร้อมปรับลดอัตรากำไรลง

  • เราได้ปรับประมาณการกำไรปี 2023 ลง 31% เป็น 1.05 พันล้านบาท หลังจากปรับสมมติฐานค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันลง 6% เป็น 1.65 บาท/ลิตร จากเดิมที่ 1.8 บาท/ลิตร
  • แต่เรามองบวกต่อภาพรวมในครึ่งหลังปี 2023 เพราะมองว่าค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันจะฟื้นตัวขึ้น หลังจากราคาหน้าโรงกลั่นที่ปรับเป็นปกติและการเก็บภาษีเข้ากองทุนน้ำมัน ที่ผ่านมาปริมาณขายเริ่มปรับดีขึ้นในไตรมาส 1/23 (+5% QoQ) และ 2/23 (+4% QoQ) ขณะที่การขยายสถานีบริการน้ำมันขึ้น 5% และ LPG อีก 15% ในปีนี้ จะช่วยหนุนการเติบโตของปริมาณขายในครึ่งหลังปี 2023 ขึ้นได้

คงคําแนะนํา “ชื้อ” แต่ลดมูลค่าพื้นฐานลงเป็น 12.60 บาท

เราปรับลดมูลค่าพื้นฐานลง 19% เป็น 12.60 บาท (จาก 15.50 บาท) เพื่อสะท้อนถึงการปรับประมาณการกำไรของเรา มูลค่าพื้นฐานดังกล่าวอิง 20xPE’23E คิดเป็นส่วนลด 10% ต่อค่าเฉลี่ย 5 ปีของบริษัท แม้ภาพรวมกำไรไตรมาส 2/23 อาจกดดันราคาหุ้นระยะสั้น แต่เรามองว่าเป็นปัจจัยกดดันชั่วคราวเท่านั้น และคาดว่าผลประกอบการจะพลิกฟื้นได้ในครึ่งหลังปี 2023 จากค่าการตลาดค้าปลีกน้ำมันที่ปรับดีขึ้น

Revenue breakdown

  • บริษัทประกอบธุรกิจค้าน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน PT ซึ่งแบ่งสถานีบริการน้ำมันได้เป็นสองประเภท คือ 1) บริษัทลงทุนเอง (COCO) และ 2) สถานีบริการน้ำมันที่เป็นของตัวแทนจำหน่าย (DODO)
  • ธุรกิจน้ำมันคิดเป็น 82% ของกำไรขั้นต้นของบริษัท มีการค้าส่งและค้าปลีกน้ำมันผ่านสถานีบริการทั้งแบบ COCO และ DODO
  • บริษัทยังดำเนินธุรกิจค้าปลีกก๊าซ LPG สำหรับรถยนต์ ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของเองทั้งหมด โดยส่วนนี้คิดเป็น 15% ของกำไรขั้นต้น
  • ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มและธุรกิจอื่นๆ คิดเป็น 3% ของกำไรขั้นต้น ธุรกิจกลุ่มนี้รวมถึงร้านสะดวกซื้อ Max Mart ร้านกาแฟพันธุ์ไทย ที่เก็บน้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น พื้นที่ให้เช่า รวมถึงรายได้จากรายการพิเศษเช่นเงินอุดหนุนสำหรับการลดลงของราคาน้ำมัน

Revenue by group of income (Gross Profit)

- Advertisement -