ตลาดหุ้นวานนี้
SET Index เพิ่มขึ้น 7 จุด (+0.43%) ปิดที่ระดับ 1,535 จุด Fund flow ต่างชาติไหลเข้าหนุนหุ้น Big Cap ปรับขึ้นเด่นนำโดย กลุ่มธนาคาร และ สื่อสาร
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้
ประเมิน SET ปรับตัวขึ้นแนวต้าน 1,540 / 1,545 จุด ตามคาดการณ์ FED ยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังเงินเฟ้อชะลอตัวลงซึ่งเป็นบวกต่อกระแส Fund flow ต่างชาติ ,ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นตอบรับจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงแรงซื้อหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวจะช่วยหนุนดัชนี อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนการโหวตนายกฯรอบใหม่จะกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัว
กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy
- BBL KTB TTB KBANK SCB SAPPE ICHI CBG INTUCH ADVANC BEM WHA MINT AOT SISB SPA TKN แนวโน้มกำไร 2Q23F เติบโต
- PTTEP TOP BCP SPRC PTTGC ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น
- KCE HANA BE8 BBIK อานิสงส์หุ้นกลุ่มเทคฯดีดตัวขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้
- PTTEP (ปิด 156.5 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 169 บาท) ได้ Sentiment บวกราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัวรับข่าวจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นศก. ส่งผลบวกโดยตรงต่อ PTTEP ในฐานะ Oil link Company
- SCB (ปิด 111.5 ซื้อ/เป้า Bloomberg Consensus 130 บาท) คาดกำไรสุทธิ 2Q23 ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งตามยอดสินเชื่อที่ขยายตัวดีขณะที่ NIM ปรับขึ้นในทิศทางเดียวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติ โดย SCB มีสัดส่วนเงินฝากที่เป็น CASA สูงจึงได้ประโยชน์โดยตรงในเวลาที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้น
บทวิเคราะห์วันนี้
- BJC (ปิด 34.25 ซื้อ/เป้า 45 บาท), OSP (ปิด 28.75 ซื้อ/เป้า 35 บาท)
ประเด็นสำคัญวันนี้
(+/-) วันนี้ติดตามผลโหวตเลือกนายกฯ รอบที่ 2 คาดผลลัพธ์คล้ายกับครั้งที่ผ่านมา: เราให้น้ำหนักเป็นกลาง คาดผลลงคะแนนเพื่อเสนอชื่อคุณ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ รอบที่ 2 จะออกมาใกล้เคียงกับการโหวตในครั้งที่ 1 อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ตลาดรับรู้อยู่แล้วจึงไม่น่าจะส่งผลทางลบกับตลาดตรงกันข้ามกับเป็นไปได้ที่นักลงทุนจะเข้าเก็งกำไรต่อเนื่องจากกระแสคาดหวังการเปลี่ยนแคนดิเดตนายกฯ เป็นพรรคเพื่อไทย
(+) แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ ศก. ของสหรัฐยังขยายตัวได้ดีในไตรมาส 2/23: FED สาขาแอตแลนตา เปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.4% ในไตรมาส 2/23 เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 2.2% และดีขึ้นจากไตรมาส 1/23 ที่ขยายตัว 2% สอดคล้องกับโกลด์แมน แซคส์ ที่ล่าสุดปรับลดโอกาสที่สหรัฐจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้าเหลือเพียง 20% จากเดิมคาดการณ์ที่ 25%
(+) น้ำมันดิบฟื้นตัวคาดหวังจีนออกมาตรการกระตุ้น ศก. : น้ำมัน WTI เพิ่มขึ้น 1.60$ (2.2%) ปิดที่ 75.75$/bbl รับข่าวคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ระบุว่าจีนจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมถึงการฟื้นฟูอุปสงค์และการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ และยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์สหรัฐที่ยังอ่อนค่า
ข่าวในประเทศและต่างประเทศ
สรุปข่าวเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศ
ไทย
(+) กบน. มีมติเห็นชอบให้ใช้กลไกกองทุนน้ํามันเชื้อเพลิงรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ํามันดีเซลให้อยู่ที่ประมาณ 32 บาทต่อลิตรตามเดิม แม้มาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ํามันดีเซลลง 5 บาทต่อลิตรจะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 ก.ค. นี้
สหรัฐ
(+/-) สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐลดลง 0.5% ในเดือนมิ.ย. หลังจากร่วงลง 0.5% เช่นกันในเดือนพ.ค.
ยุโรป
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (18 ก.ค.) โดยหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์หนุนตลาดขึ้น หลังบริษัทโนวาร์ติสของสวิตเซอร์แลนด์ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการท้ังปี
เอเชีย
(-) นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารรายใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีท ต่างพากันปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2566 หลังจากจีนเปิดเผยตัวเลข GDP โดยนักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้กรุ๊ปได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ GDP จีนในปี 2566 ลงสู่ระดับ 5% จากระดับ 5.5%