บล.กรุงศรีฯ:
Berli Jucker (BJC TB/ BJC.BK)
กลุ่มอุตสาหกรรม | พาณิชย์ |
หุ้น | BJC |
มูลค่าพื้นฐาน | 45.00 |
คำแนะนำ | BUY |
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 2Q23F จะเพิ่มขึ้น 14% yoy เป็น 1.3 พันล้านบาท จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น 4% yoy และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น 0.4% โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 4% yoy ส่วนใหญ่มาจากยอดขายของ Big C ซึ่งคิดเป็น 64% ของรายได้ทั้งกลุ่ม เนื่องจากการบริโภคฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ เราคาดว่า same-store-sales growth (SSSg) ของ Big C ใน 2Q23F จะแข็งแกร่งอยู่ที่ 5% จากฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ยังได้รับผลกระทบจาก COVID
Big C เป็นตัวหลักที่ขับเคลื่อนรายได้ใน 2Q23F
เราคาดว่ายอดขายของ Big C จะเพิ่มขึ้น 5% yoy เพราะ SSSg ล้วน ๆ เนื่องจากไม่ได้มีการเปิดร้าน hypermarket ใหม่เพิ่มใน 2Q23 เราคาดว่ารายได้จากค่าเช่าของ Big C จะเพิ่มขึ้น 2% yoy เป็น 2.29 พันล้านบาท ส่วนยอดขายในสินค้ากลุ่มอื่น ๆ อย่างเช่น บรรจุภัณฑ์ (16% ของรายได้), สินค้าอุปโภคบริโภค (14% ของรายได้) และการดูแลสุขภาพ (6% ของรายได้) จะทรงตัว สอดคล้องกับการฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ของการบริโภคในประเทศไทย
อัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้นเพราะแรงกดดันด้านต้นทุนลดลง
เราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเพิ่มขึ้น 0.4ppt yoy เป็น 18.4% เนื่องจากราคาวัตถุดิบหลายรายการลดลง อย่างเช่น น้ำมันปาล์ม (สำหรับใช้ผลิตสบู่และมันฝรั่งทอด – สินค้าอุปโภคบริโภค) และอลูมิเนียม (สำหรับผลิตกระป๋องเครื่องดื่ม – บรรจุภัณฑ์) เราเชื่อว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะสูงขึ้นใน 2H23 เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบลดลงอย่างต่อเนื่อง
ประเมินราคาเป้าหมาย DCF ที่ 45 บาท ความเสี่ยงหลักอยู่ที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
แบบจำลอง DCF ของเราใช้สมมติฐาน WACC ที่ 8.36% และ terminal growth ที่ 2.5% เราชอบ BJC ในแง่ความเป็นผู้นำในธุรกิจ modern-retailing และการเป็นบริษัทในเครือเดียวกับ Thai Bev (THBEV SP, not rated) ซึ่งจะทำให้บริษัทมีปริมาณการทำธุรกิจกับ Thai Bev อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ ราคาหุ้น BJC ตอนนี้คิดเป็น P/E ปี FY23F ที่ 23.8x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 32.9x เพราะกำไรยังไม่ฟื้นกลับไปอยู่ระดับก่อน COVID ระบาด เรามองว่าความเสี่ยงหลักคือการบริโภคของไทยที่ฟื้นตัวช้าเกินคาด ซึ่งอาจจะทำให้อัตราการเติบโตของกำไร BJC ไม่เป็นไปตามคาด