ผู้ถูกเลือกให้ผิดหวัง / 1,530-1,550
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาด SET แกว่งตัว Sideways up: การโหวตนายกฯในวันนี้ 3 พรรคร่วมจะเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดทนายกฯก้าวไกล เป็นครั้งที่ 2 อย่างไรก็ดี การหารือของวิป 3 ฝ่าย วานนี้ยังไร้ข้อยุติว่าสามารถเสนอชื่อนายพิธาได้หรือไม่ และหากเสนอได้ก็เป็นไปได้ยาก ที่จะได้ความเห็นชอบถึงกึ่งหนึ่งของรัฐสภา เนื่องจากต้องการเพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนถึง 52 เสียง อีกทั้งวันนี้ศาลรธน.จะมีการพิจารณาคําร้องปมนายพิธาถือหุ้น ITV ส่งผลให้เพื่อไทยมีโอกาสจะเข้ามารับไม้ต่อในการโหวตนายกฯ ในครั้งถัดไป ซึ่งจะเป็น Sentiment ทางบวกต่อหุ้นใหญ่ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่แข่งขันจำกัด ด้านหุ้นในกลุ่มพลังงานคาดเป็นอีกแรงหนุนต่อ SET Index ตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น 2.16% สู่ระดับ $75.75 ต่อบาร์เรล หลังทางการจีนให้คำมั่นว่าจะเร่งออกมาตรการกระตุ้นศก. นอกจากนี้ SET Index ยังได้แรงหนุนจาก 1) ธนาคารชั้นนําของสหรัฐฯรายงานผลประกอบการ 2Q66 สูงกว่าตลาดคาด โดย Bank of America มีกำไร $0.88 ต่อหุ้น และรายได้ 2.52 หมื่นล้านดอลลาร์ และ Morgan Stanley มีกำไร $1.24 ต่อหุ้น และรายได้ 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์ และ 2) การคาดการณ์ว่าเฟดใกล้ยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังการเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.อ่อนแอ โดยขยายตัวเพียง 0.2% mm ต่ำกว่าตลาดคาด และเดือนพ.ค.ที่ 0.5% m-m และสอดรับกับ CME FedWatch Tool ที่มองการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบการประชุมเดือนก.ค. เป็นการปรับขึ้นครั้งสุดท้ายของปีนี้ ขณะที่วันนี้ติดตามการรายงาน CPI เดือนมิ.ย.ของยูโรปและอังกฤษ ตลาดคาดขยายตัว 5.5%y-y และ 8.2%y-y ชะลอลงจาก 6.1%y-y และ 8.7%y-y ในเดือนพ.ค. ซึ่งจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแผนการคุมเข้มนโยบายการเงินของ ECB และ BoE
- กลยุทธ์ลงทุน: 1) เก็งหุ้นคาดงบสดใส: AOT, BAY, BBL, KBANK, MAJOR, PRM, SCB 2) หุ้นนายทุน+เกี่ยวการเมือง: CPALL, CK, GULF, SC, SIRI, STEC 3) หวังจีนกระตุ้นศก.: HANA, PTTEP, PTTGC, SCC, TOP และ 4) Selective: AMATA, BDMS, BH
ปัจจัยบวก
- กองศก.การท่องเที่ยวและกีฬาเผย ประเทศไทยมีจำนวนนกท. ต่างชาติสะสมตั้งแต่ 1 ม.ค.-16 ก.ค. 14.15 ล้านคน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนทท.ต่างชาติแล้ว 5.88 แสนลบ.
- กบน. เห็นชอบให้ใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกดีเซลให้อยู่ที่ประมาณ 32 บาท/ลิตร
- ครม.ไฟเขียวเปิดสถานบริการในเมืองการบินภาคตะวันออกได้ ตลอด 24 ชม. เพิ่มศักยภาพของพื้นที่เพื่อรองรับธุรกิจและนทท.
- นิกเกอิ เอเชียรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลแหล่งข่าวว่า HP กำลังวางแผนจะย้ายการผลิตแล็ปท็อปส่วนบุคคลบางส่วนมายังไทย
- รอยเตอร์รายงานว่า NDRC ให้คำมั่นว่าจีนจะเร่งออกนโยบายเพื่อมุ่งฟื้นฟูและขยายการบริโภค เนื่องจากกำาลังซื้อ ของผู้บริโภคยังคงอ่อนแอ ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นถึงความจําเป็นเร่งด่วนในการฟื้นฟูอุปสงค์ภายในประเทศ
ปัจจัยลบ
- ดอยซ์แบงก์ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางศก.ของจีน สําหรับปีนี้เหลือ 5.3% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 6% เนื่องจากอุปสงค์การบริโภคภายในประเทศที่อ่อนแอและภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ย่ำแย่ลง
- OECD เผยตลาดแรงงานในกลุ่มประเทศสมาชิก OECD ได้ผลักดันให้ค่าจ้างที่เป็นตัวเงินปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ยังคงไล่ไม่ทันเงินเฟ้อ โดยค่าจ้างที่แท้จริงโดยเฉลี่ยในกลุ่มประเทศ OECD -3.8% y-y ใน 1Q66
PICKS OF THE DAY
PRM BUY
- เป้าหมาย 7.00 / 7.20 แนวรับ 6.40 / 6.60
- คาดกำไร 2Q66 โตมีนัยสำคัญ y-y: จากปีก่อนฐานต่ำ และปีนี้ปริมาณขนส่งน้ำมันในประเทศเพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว โดยเฉพาะน้ำมัน Jet-A1 อีกทั้งปีก่อนมีการรับเรือใหม่ในระหว่างปี และ 2Q66 มีเรือขนส่งเคมีเข้ามาอีก 1 ลำ หนุนรายได้ ในขณะที่ต้นทุนมีแนวโน้มลดลงตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ช่วยหนุนให้กำไรใน 2Q66 โตอย่างมีนัยสำคัญ y-y
- 2H66 คาดดีต่อเนื่อง: 2H66 กำไรไม่รวมกำไรขายเรือ ยังคงดี โดยมีปัจจัยบวก 1) จาก 4Q66 เป็น high season ของการท่องเที่ยว การใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้น 2) เรือที่เข้า dry dock ใน 2Q66 และเรือใหม่ ทำงานได้เต็มใน 2H66 และ 3) มีแผนซื้อเรือเพิ่มอีก 1-2 ลำ เพื่อขยายธุรกิจขนส่งเคมีภัณฑ์
STEC BUY
- เป้าหมาย 10.20 / 10.50 แนวรับ 9.50 / 9.70
- บวกรับการเมืองที่ชัดเจนมากขึ้น: ไม่ว่าฝ่ายใดจะเป็นรัฐบาล คาดกลุ่มรับเหมาก่อสร้างมีโอกาสตอบรับบวกจากความชัดเจนทางการเมืองที่มากขึ้น สอดคล้องกับสถิติการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ก่อนได้นายก 1 เดือน กลุ่มรับเหมาก่อสร้างเป็นกลุ่มที่จะให้ผลตอบแทนสูงสุดประมาณ 6%
- คาด 2Q66 มีโอกาสเติบโต y-y: จากทั้ง 1)ในปีนี้ที่เป็นปีแรกของการไม่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้มีโอกาสรับรู้ร้อยละของงานก่อสร้างที่แล้วเสร็จราบรื่นมากขึ้น 2) ปัจจุบันบริษัทมี Backlog ราว 1.1 แสนลบ. ซึ่งหากการเมืองไทยคืบหน้า จะยิ่งช่วยหนุนให้ปีนี้จะมีงานประมูลเพิ่มมากขึ้น