วันนี้คาดตลาด “Sideways”
แนวรับ 1,526 / 1,520 แนวต้าน 1,542 / 1,546 วันนี้ติดตามการโหวตเลือกนายกฯ รอบ 2 คาดจะได้จัดตั้งรัฐฐบาลภายในสัปดาห์นี้ พร้อมทั้งตัวเลขสหรัฐอ่อนแอกระตุ้นความหวัง FED ใกล้ถึงจุดหยุดขึ้นดอกเบี้ยแล้ว
Our View? “โค้งสุดท้าย”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,526 / 1,520 และแนวต้านที่บริเวณ 1,542 / 1,546 คาดวันนี้ตลาดจะให้ความสนใจไปกับการเมืองภายในประเทศเป็นสำคัญ โดยต้องติดตามการโหวตนายกรัฐมนตรีรอบ 2 ที่คาดจะมีการเสนอชื่อคุณ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เข้าโหวตอีกครั้งหลังที่ประชุมมีมติไม่เห็นชอบในรอบก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าหากการโหวตในรอบนี้ไม่สำเร็จ คาดรอบต่อไปมีโอกาสที่ทางฝั่งของพรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกเพื่อไทยภายในวันนี้-พรุ่งนี้ มองเป็นปัจจัยบวกในแง่ของแนวโน้มในการจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ หลังจากที่ตลาดรอคอยมานาน โดยเรายังคงมองเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อหุ้นในกลุ่มการเมือง อาทิ SIRI, SC, ADVANC, INTUCH และ THCOM อย่างไรก็ตาม เรายังมีมุมมองเชิงลบต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม (AOT, AAV, BA, CPN, MINT, ERW และ CENTEL) จากแนวโน้มของความไม่แน่นอนทางการเมืองนอกสภาที่เริ่มเห็นการจัดกิจกรรมทางการเมือง คาดจะส่งผลต่อตัวเลขนักท่องเที่ยวของไทยที่อาจออกมาต่ำกว่าคาด อีกทั้งการที่เศรษฐกิจจีนพื้นตัวช้ากว่าที่ตลาดประเมินไว้ โดย GDP 2Q’66 ของจีนออกมาอยู่ที่เพียงระดับ +6.3%YoY ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ คาดจะส่งผลให้การเดินทางออกท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะอาเซียนรวมถึงไทยที่พึ่งพานักท่องเที่ยวจีนในระดับสูงได้รับผลกระทบ โดยอาจเห็นการปรับประมาณการนักท่องเที่ยวจีนลง และเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อหุ้นในกลุ่มดังกล่าว
ทั้งนี้เรายังแนะนำให้ติดตามการรายงานผลประกอบการ โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มธนาคารที่คาดจะประกาศในสัปดาห์นี้ โดย Bloomberg Consensus ประเมินผลประกอบการของ บจ. ในกลุ่มธนาคารจะออกมาอยู่ที่ระดับ -0.59% QoQ และ +14.02% YoY จาก NIM ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการปรับดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝาก 2 ครั้งในเดือน เม.ย. และ มิ.ย. มองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาหุ้นในกลุ่มธนาคารได้ (KBANK, SCB, BBL, KTB และ TTB)
ในส่วนของปัจจัยต่างประเทศคาดอาจได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดต่างประเทศบ้าง หลังเมื่อคืนนี้ทิศทางตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้นได้ดี หลังการรายงานผลประกอบการของหุ้นในกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ออกมาแข็งแกร่งมากกว่าที่ตลาดคาด อีกทั้งการรายงานตัวเลขยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือน มิ.ย. ออกมาเพียง +0.2% MoM ต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าและต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเร่งตัวขึ้น +0.5% MoM ขณะที่ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production) ออกมา -0.5% MoM หดตัวต่อเนื่อง บ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐกำลังได้รับผลกระทบจากการใช้อัตราดอกเบี้ยในระดับสูง คาดจะส่งผลให้ตลาดมีความหวังเกี่ยวกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป ทั้งนี้การประชุม FOMC ของ FED ในสัปดาห์หน้า เรายังคาดว่า FED จะกลับมาขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% สู่ระดับ 5.50% หลังจากระงับการขึ้นไปในช่วงก่อนหน้า คาดตลาดรับรู้ประเด็นดังกล่าวไปบ้างในระดับหนึ่งแล้ว แต่สิ่งที่น่าจับตามองคือการส่งสัญญาณปรับใช้นโยบายทางการเงินในระยะถัดไปของ FED มากกว่าว่าจะออกมาสอดคล้องกับสิ่งที่ตลาดหวังไว้เกี่ยวกับแนวโน้มที่ FED จะเริ่มยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วง 4Q′66
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ส.ค. ฟื้นตัวขึ้นปิดที่ระดับ 75.75 ดอลลาร์/บาร์เรล +1.60 ดอลลาร์ (+2.16%) ได้รับแรงหนุนจากคาดการณ์ FED ใกล้ถึงจุดที่จะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้วเช่นกัน ลดทอนผลกระทบของอัตราดอกเบี้ยระดับสูงที่ส่งผลต่ออุปสงค์น้ำมันดิบ อีกทั้งคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ออกมาส่งสัญญาณถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีนจะครอบคลุมถึงการฟื้นฟูอุปสงค์และการบริโภคภายในประเทศ หลังการรายงาน GDP จีนออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ คาดจะหนุนแรงเก็งกำไรราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวช่วยประคองตลาดได้
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “OR”
- มองผลประกอบการ 2Q’66 ยังทำได้ดี จากการที่ค่าการตลาดยังอยู่ในระดับสูง แต่แรงกดดันจากค่าการตลาดในช่วงที่คุมราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 35 บาท/ลิตร หมดไป
- ทางเทคนิค ราคายืนเหนือ EMA10 วันประชิด กรอบ Ascending Triangle พร้อม MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
- กลยุทธ์ ทยอยซื้อสะสม แนวรับ 21.20 / 20.90 Target 22.60 / 23.60 Stop <20.40