SET มองบวกเพราะ “ช็อคโกแลตมิ้นท์” / 1,530-1,545
มุมมองตลาดหุ้นวันนี้
- คาดดัชนี SET วันนี้ยืนแดนบวก: การเมืองไทยเป็นปัจจัยที่มีน้ำหนักต่อดัชนี SET หลังสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นพ.ชลน่านได้เข้าหารือกับพรรคฝ่ายรัฐบาลเดิม ทําให้ทางฝ่ายคาดว่าพรรคเพื่อไทยอาจเลือกจับขั้วจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคการเมืองฝั่งตรงข้าม และปล่อยมือจากพรรคก้าวไกลเพื่อเลี่ยงปัญหา ม.112 ที่ทาง สว. ใช้เป็นประเด็นไม่โหวตเลือกนายก ซึ่งจะมีการนัดคุยกับ 8 พรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 25 ก.ค. นี้ ก่อนการประชุมสภาพิจารณาเลือกนายกในวันที่ 27 ก.ค. ซึ่งทางฝ่ายมองดัชนีตลาดหุ้นจะตอบรับเชิงบวก จากความชัดเจนทางการเมืองด้วยสูตรเพื่อไทย+ข้ามขั้ว ที่มีโอกาสสูงมากกว่าสูตรที่จับคู่กับพรรคก้าวไกล อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายยังกังวลกรอบระยะเวลาที่จะได้นายก ซึ่งหากการโหวตเลือกนายกถูกเลื่อนออกไปอีกครั้ง จะเป็นผลเสียต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน, การบริโภคภายในประเทศ และการย้ายฐานการผลิต ส่วนงบงวด 2Q66 สัปดาห์นี้มีหุ้น Big cap.ที่จะเผย ได้แก่ DELTA ซึ่งทางฝ่ายคาดจะเพิ่มขึ้น q-q และอาจลดลง y-y ขณะที่ TRUE ทางฝ่ายคาดจะเผยงบเชิง บวกทั้ง q-q และ y-y ซึ่งจะเป็นบวกต่อดัชนี ด้านนักลงทุนต่างชาติได้สะสม Long ใน S50 Futures ไทยแล้วกว่า 1.22 แสนสัญญา (MTD) กอปรกับยอดขายต่างชาติในตลาดหุ้นไทยเริ่มมชะลอลง จึงมองมีโอกาสพลิกกลับมาซื้อ สำหรับปัจจัยภายนอก มองเช้านี้ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมัน WTI ที่ฟื้นตัวทดสอบ 77$/bbl. ซึ่งจะช่วยหนุนกลุ่มพลังงาน ขณะที่เมื่อคืนวันศุกร์ ดาวโจนส์ปิดบวก 10 วันติดต่อกัน โดยนักลงทุน Price-in ต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในรอบการประชุม 26 ก.ค. นี้ที่ระดับ 25 bps ไปแล้ว รวมถึงมองระดับดอกเบี้ย 5.25%-5.50% จะเป็น Terminal Rate ของปีนี้
- กลยุทธ์การลงทุน: 1) คาดงบ 2Q66 เติบโต: ADVANC, HMPRO, ILM, SPALI, TRUE, 2) Political Play: CPALL, CPÀXT, CK, GULF, ITD, STEC 3) Global Play: AMATAV, CBG, ICHI, PTTEP, SCGP, TOP
ปัจจัยบวก
- อังกฤษเผยยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ออกมาที่ +0.7% q-q สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 0.2% อานิสงส์ยอดขายอาหารฟื้นตัว
- เกาหลีใต้เผยจํานวนหมู และโคเนื้อ ในฟาร์มลดลงในไตร มาส 2 เทียบกับปีก่อน หลังเผชิญโรค ASF ระบาด
- อินเดียกำลังพิจารณาซื้อขายไฟฟ้ากับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านทางประเทศไทยและเมียนมา
- จีนเตรียมงัดมาตรการเชิงนโยบายสร้างเสถียรภาพด้านคาดการณ์เงิบหยวน
- ญี่ปุ่นภาคเช้านี้ปรับตัวบวกนำโดยกลุ่มอสังหาฯ และเหมืองแร่ จากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า จากคาด BOJ จะออกนโยบายการเงินผ่อนคลายพิเศษ ในการประชุมวันที่ 27- 28 ก.ค. นี้
ปัจจัยลบ
- รัสเซียยันไม่ต่อสนธิสัญญาส่งออกธัญพืชผ่านทะเลดำกับยูเครน พร้อมจะโจมตีเรือทุกลำที่เข้าใกล้ท่า
- อังกฤษขาดดุลงบประมาณ 1.85 หมื่นล้านปอนด์ ในเดือน มิ.ย. รายงานระบุว่าการกู้ยืมของรัฐบาลอังกฤษเพิ่มสูงขึ้นในช่วงโรคโควิด-19 ระบาด ทำให้หนี้สาธารณะพุ่งเกิน 100% ของGDP ซึ่งแตะระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
- ธปท. เร่งออก ม.บังคับเกณฑ์สินเชื่อคุณธรรม ซึ่งภาคสินเชื่อต้องให้ข้อมูลที่ครบถ้วน รวมทั้งการไม่กระตุ้นให้ ประชาชนมีหนี้สินที่เกินตัว ซึ่งอาจกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางได้
- ปธน.ปูติน กล่าวโจมตีโปแลนด์ ซึ่งเป็นสมาชิกนาโต้ว่า กําลังเข้าควบคุมพื้นที่ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโช เวียต และหากรุกรานเบลารุส จะถือว่าโจมตีรัสเซีย
PICKS OF THE DAY
TOP BUY
- เป้าหมาย 48.00/50.00 แนวรับ 46.50
- ค่าการกลั่นเริ่มเห็นสัญญาณฟื้น : สัปดาห์นี้ค่าการกลั่น SG GRM ปรับ ตัวขึ้นมาเฉลี่ย 6.5 $/bbl +23% จากเฉลี่ย 5.2 $/bbl ในสัปดาห์ก่อนหน้า ทางฝ่ายมองเป็นสัญญาณบวกต่อหนุนการฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง เนื่อง จากครึ่งปีแรกกลุ่มโรงกลั่นได้รับผล กระทบจากค่าการกลั่นที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
- คาดเริ่มมี stock gain : จากแนว โน้มราคาน้ำมันดิบน่าจะทรงตัวได้ในครึ่งปีหลัง จากการควบคุมอุปทานของผู้ผลิตน้ำมัน ดังนั้นทางฝ่ายคาดว่าบริษัทจะเริ่มมีกำไรจะสต๊อกน้ำมัน ช่วยหนุนผลประกอบการปี 66
TRUE BUY
- เป้าหมาย 7.45/7.60 แนวรับ 6.70/6.80
- คาด ARPU ฟื้นตัว หนุนรายได้โตทั้ง y-y และ q-q: หลังจากการแข่งขันด้านราคาแพ็กเกจในช่วง COVID-19 หมดลง ทำให้คาดแนวโน้ม ARPU อุตสาหกรรมทยอยฟื้นตัว จากการพยายามยกเลิกแพ็กเกจราคาประหยัดของกลุ่มธุรกิจ ขณะที่การแข่งขันลดลงเหลือเพียง 2 ราย 3 แบรนด์ ช่วยหนุนให้อำนาจต่อรองผู้บริโภคลดลง เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ขณะที่คาดว่าค่า Ft ที่ลดลง จะช่วยหนุนให้ต้นทุนค่าไฟงวดนี้ลดตาม จึงมองมีโอกาสงบงวด 2Q66 เติบโตทั้ง y-y และ q-q
- การเมืองคลี่คลาย แรงซื้อหนุน: โดยทางฝ่ายมองผ่อนคลายจากนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่มีความเป็นมิตรต่อธุรกิจขนาดใหญ่ และหากเข้าใกล้การได้นายกจะเป็น Sentiment บวก