บล.บัวหลวง:
Kiatnakin Phatra Bank (KKP TB / KKP.BK)
KKP – กำไรต่ำกว่าคาดมาก! จากการตั้งสำรองฯ ที่เพิ่มขึ้น
ผลประกอบการต่ำกว่าที่เราคาด 27%
KKP รายงานกำไรไตรมาส 2/66 ที่ 1.4 พันล้านบาท ลดลง 31% YoY และ 32% QoQ ซึ่งต่ำกว่าที่เราคาด 27% (และต่ำกว่าตลาดคาด 24% อ้างอิงจาก Bloomberg) เนื่องจากการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น และอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ที่มากกว่าคาด กำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรองฯ อยู่ที่ 3.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY แต่ลดลง 2% QoQ ทั้งนี้กำไรครึ่งแรกของปี 2566 คิดเป็น 45% ของประมาณการทั้งปีเดิมของเราที่ 7.8 พันล้านบาท
ประเด็นสำคัญจากผลประกอบการ
การปรับตัวลดลงของกำไร YoY และ QoQ เนื่องจากการตั้งสำรองฯ และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น อัตราการตั้งสำรองไตรมาส 2/66 ของ KKP อยู่ที่ 1.90% (มากกว่าเราคาด 70bps) เพิ่มขึ้น 94bps YoY และ 76bps QoQ อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 51.1% (มากกว่าเราคาด 507bps) เพิ่มขึ้นจาก 45.8% ในไตรมาส 2/66 และ 46.7% ในไตรมาส 1/66 สาเหตุหลักมาจากรายงานขาดทุนเพิ่มขึ้นจากการขายรถยนต์ที่ถูกยึด สัดส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อรวมของ KKP เพิ่มขึ้นจาก 3.5% ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2566 มาอยู่ที่ 3.7% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. อัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้เสียลดลงจาก 143.3% ณ สิ้นเดือน มี.ค. มาอยู่ที่ 136.6% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. ตัวเลขดังกล่าวบ่งบอกว่าคุณภาพสินทรัพย์ของของ KKP อ่อนตัวลงบางส่วน
สินเชื่อ ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2566 มีมูลค่ารวม 400.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% YoY และ 3% 000 หนุนโดยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ NIM ไตรมาส 2/66 ของ KKP อยู่ที่ 4.50% (มากกว่าคาด 26bps) เพิ่มขึ้น 47bps YoY และ 18bps QoQ รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยมีมูลค่ารวม 1.9 พันล้านบาท (มากกว่าที่เราคาด 35%) เพิ่มขึ้น 15% YoY และ 11% QoQ หนุนโดยกำไรจากเครื่องมือทางการเงินและรายได้ด้านวาณิชธนกิจและรายได้ธุรกิจประกันที่สูงขึ้น
แนวโน้ม
เราคาดกำไรไตรมาส 3/66 ที่ 1.4 พันล้านบาท ลดลง 31% YoY และทรงตัว QoQ อัตราการตั้งสำรองของ KKP จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว YoY (ทรงตัว QoQ) ซึ่งกลบสินเชื่อที่ขยายตัว YoY
สิ่งที่เปลี่ยนแปลง
เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566 ลง 17% มาอยู่ที่ 6.4 พันล้านบาท (ลดลง 15% YoY) เนื่องจากประมาณการอัตราการตั้งสำรองของเราปรับขึ้นจาก 1.4% มาอยู่ที่ 1.7% นอกจากนี้ ประมาณการอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อ รายได้ของเราเพิ่มขึ้นจาก 45.38 บาท 49.1% เนื่องจากชาดทุนอย่างหนัก จากการขายรถที่ถูกยึด เรายังปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ลง 17% มาอยู่ที่ 6.9 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 8% YoY)
คําแนะนํา
แม้ PER ปี 2566 ของ KKP จะอยู่ที่ 7.9 เท่า เรามีความกังวลเกี่ยวกับคุณภาพสินทรัพย์ เราจึงปรับลดคําแนะนําจาก ชื้อ เป็น ถือ ที่ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 62 บาท (ลดลงจาก 75 บาท)