เอแอลทีคว้างานผลิต E-Meter ให้การไฟฟ้ามูลค่ากว่า 300 ล้าน ครอบคลุม 5 จังหวัด ”ปทุมธานี-สระบุรี-ปราจีนบุรี-เพชรบุรี-สมุทรสงคราม”
เอแอลที เทเลคอม ปลื้มบริษัทลูก ”เอ็นเนอร์จี แม็คซ์” คว้างานประมูลผลิตมิเตอร์ไฟฟ้าให้การไฟฟ้า กว่า 3 แสนครัวเรือนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี-สระบุรี-ปราจีนบุรี-เพชรบุรี-สมุทรสงครามมูลค่างานกว่า 300 ล้านบาท ระบุเริ่มทยอยส่งมอบงานคาดจบดีลภายในเดือนพ.ค.2567 มั่นใจประสบการณ์แน่น-แบรนด์แข็งแกร่ง พร้อมเข้าร่วมงานประมูล E-Meter ทั่วประเทศ โชว์ผลงานที่ผ่านมา ผลิตและติดตั้งโครงการสมาร์ทมิเตอร์นำร่อง ที่พัทยา จ.ชลบุรี
นายสุรพงษ์ ปัตถนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็นเนอร์จี แม็คซ์ จำกัด (EMAX) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT เปิดเผยว่า บริษัทได้ชนะการประมูลงาน โครงการผลิต อิเล็กทรอนิกส์มิเตอร์ หรือE-Meter ให้กับการไฟฟ้าภูมิภาค (การไฟฟ้า) จำนวน 3 แสนตัวเพื่อดำเนินการติดตั้งในปทุมธานี-สระบุรี-ปราจีนบุรี-เพชรบุรี-สมุทรสงครามเมื่อเดือนมิ.ย.2566 โดยได้ดำเนินการส่งมอบงานงวดแรกแล้วช่วงต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับโครงการประมูลงานดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท มีระยะเวลาดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 10 พ.ค.2567 อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะสามารถดำเนินการส่งมอบงานให้แล้วเสร็จได้ก่อนกำหนด”นายสุรพงษ์กล่าว
“การไฟฟ้าภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวง มีแผนงานที่จะดำเนินการเปลี่ยนมิเตอร์จานหมุนที่ใช้อยู่ปัจจุบันให้เป็นอิเล็กทรอนิคส์มิเตอร์ หรือ E-Mete rทั้งประเทศที่มีอยู่ราว 20 ล้านครัวเรือน โดยจะทยอยเปิดประมูลในทุกปี ด้วยการเปิดประมูลให้ได้ปีละไม่ต่ำกว่า 2 ล้านครัวเรือน ซึ่งปีนี้ได้เปิดประมูลรวม 12 เขต และบริษัทเอ็นเนอร์จี แม็คซ์ เป็น1 ในผู้ร่วมประมูลที่ชนะงาน 2 เขตดังกล่าว และเราก็ได้เริ่มสับเปลี่ยนมิเตอร์มิเตอร์จานหมุนเป็น E-Meter ให้กับการไฟฟ้าตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา”นายสุรพงษ์กล่าว
นายสุรพงษ์กล่าวอีกว่า บริษัทเอ็นเนอร์จี แม็คซ์ ถือเป็นบริษัทที่มีประสบการณ์และได้รับการยอมรับด้านมาตรฐานต่างๆ และเป็นผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการของการไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทที่จะผ่านการประมูลจะต้องมีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่การไฟฟ้ากำหนด ซึ่ง บริษัทที่ชนะการประมูลงานครั้งนี้มีทั้งหมด 4 ราย และบริษัทก็เป็น 1 ใน 4 รายที่ชนะการประมูลงานการไฟฟ้า เป็นเพราะแบรนด์เอ็นเนอร์จี แม็คซ์ แข็งแกร่ง มีอัตราการเสียน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนของที่ส่งมอบ เพราะนโยบายของบริษัทคือต้องการส่งมอบของที่มีคุณภาพ ทำให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพของสินค้าและบริการของบริษัทฯ เป็นอย่างมาก
นอกจากนี้บริษัท ฯ ยังได้รับมาตรฐานระบบบริหารคุณภาพ ISO 9001 ,มาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม ISO 14000 ที่สำคัญโรงงานยังได้รับใบรับรองมาตรฐานห้องปฎิบัติการทดสอบ มอก. 17025 ด้วย เป็นการควบคุมคุณภาพ เป็นมาตรฐานคุณภาพการผลิต ซึ่งน้อยรายที่จะได้ใบรับรองมาตรฐาน ISO 17025 ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงคุณภาพของสินค้าและบริการได้เป็นอย่างดี
“ประสบการณ์ที่ผ่านมาและการมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งก็เป็นการการันตีผลงานของเราด้วย เพราะนับตั้งแต่ การไฟฟ้าตื่นตัวสมาร์ทกริด เราก็เริ่มหาพันธมิตรต่างประเทศ จนได้พันธมิตรคือบริษัทไอทรอน (ITRON) พันธมิตรจากประเทศสหรัฐ เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ติดอันดับ top5ของโลก เราก็ทำธุรกิจกับการไฟฟ้ามาเรื่อยๆ จนถึงปี 2016 ตลาดที่ไม่ใช่การไฟฟ้าก็เติบโตมาเรื่อยๆ เราก็ได้จังหวะดีมา คือ ได้โครงการของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในการเปลี่ยน ติดตั้ง E-Meterให้บ้านพักการรถไฟทั่วประเทศ ก็ประสบความสำเร็จด้วยดี ”นายสุรพงษ์กล่าว
นอกจากนี้ในปี 2018 บริษัทเอ็นเนอร์จี แม็คซ์ กับพันธมิตรไอทรอนก็ชนะประมูลของการไฟฟ้าภูมิภาคในโครงการสมาร์ทกริดนำร่องในพื้นที่พัทยา โดยเป็นการเปลี่ยนมิเตอร์แบบจานหมุนเป็นแบบสมาร์ทมิเตอร์ 116,000 ตัว ทั้งโครงการ
อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า การแข่งขันในตลาดผลิตและติดตั้งมิเตอร์สูงมาก แต่บริษัทสามารถแข่งขันได้ เนื่องจากการไฟฟ้ามีข้อกำหนดด้านคุณภาพสูงมาก ทำให้บริษัทเป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่ผ่านเกณฑ์ข้อกำหนดของไฟฟ้า ทำให้บริษัทมีโอกาสเข้าไปประมูลงานโครงการในหลายๆโครงการของไฟฟ้า ยกตัวอย่างการประมูลติดตั้งสับเปลี่ยนทดแทนมิเตอร์จานหมุนพื้นที่12 เขตมีผู้ชนะการประมูล 4 รายเท่านั้น บริษัทเป็นหนึ่งใน 4 รายที่ได้งานนี้
“ถือเป็นจุดแข็งที่ให้ชนะการประมูลที่ผ่านมาเนื่องจากเราผ่านงานพัทยา และงานประมูลครั้งใหม่นี้เราก็ได้พันธมิตรที่ดี เป็นพันธมิตรในไทย ทั้งผู้ผลิตมิเตอร์และซับคอนแทค ทำให้เรามีความมั่นใจว่าเราพร้อมมากที่จะร่วมประมูลงานที่การไฟฟ้ามีแผนที่จะขยายงานเพิ่มเติม เพราะผลงานที่ผ่านมาก็การันตีได้อย่างดี ทั้งนี้การแข่งขันก็คงอยู่ที่ราคา และคุณภาพ “นายสุรพงษ์กล่าว