สรุปภาวะตลาด

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในช่วงแคบ โดยนายวันนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้สั่งงดการประชุม คณะกรรมการประสานงานที่นัดประชุมในวันที่ 26 ก.ค. และการประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 ก.ค. เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ออกไปก่อน หลังผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องถึงศาลรัฐธรรมนูญ ประกอบกับทางพรรคเพื่อไทย แจ้งยกเลิก การประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยมีแรงขายในหุ้นกลุ่มค้าปลีก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,526.30 จุด +2.49 จุด +0.16% มูลค่าการซื้อขาย 42,461 ลบ.ต่างชาติ -377.33 ลบ. TFEX +17,664 สัญญา ตราสารหนี้ -825.38 ลบ.

ปัจจัยบวก+

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 26.83 จุด +0.08% ซึ่งเป็นช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดในรอบ 6 ปี 2560 โดยนักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่บริษัทจดทะเบียนรายใหญ่จะเปิดเผยผลประกอบการ ซึ่งรวมถึงบริษัทไมโครซอฟท์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของ FED

+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 89 เซนต์ +1.1% ปิดที่ 79.63 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. 2566 ขานรับข่าวรัฐบาลจีนประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัว

+ ประธานาธิบดีวลาดีเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มีกำหนดหารือกับบรรดาผู้นำของชาดิแอฟริกา เกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหายูเครนในการประชุมสุดยอดที่จะมีขึ้นที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กในวันที่ 28 ก.ค.

+ ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 117.0 ในเดือนก.ค. สูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2564 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 111.8 จากระดับ 110.1 ในเดือนมิ.ย.

+ IMF เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (World Economic Outlook) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2566 สู่ระดับ 3% จากเดิม 2.8%

+ รัฐวิสาหกิจมียอดเบิกจ่ายงบลงทุนพรุ่ง 1.34 แสนล้านบาท คิดเป็น 105% ของแผนการเบิกจ่าย

ปัจจัยลบ-

– รัสเซียจะยังไม่กลับสู่ข้อตกลงส่งออกธัญพืชจากยูเครนผ่านเส้นทางทะเลดำ เนื่องจากเงื่อนไขของรัสเซียยังคงไม่ได้รับการตอบสนอง

– IMF แสดงเห็นว่า ยุโรปควรเดินหน้าคุมเข้มนโยบายการเงินเพิ่มเติม โดยรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะช่วยป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจเสียหายมากขึ้นในภายหลัง

– ส.อ.ท.ลดเป้าผลิตรถยนต์ปี 2566 ลง 5 หมื่นคัน เหลือ 1.9 ล้านคัน สะท้อนการผลิตงวด มิ.ย.2566 ลดลง 2% YoY สาเหตุจากสินเชื่อรถยนต์อนุมัติยาก เนื่องจากหนี้ครัวเรือนพุ่ง ค่าครองชีพทะยาน และผู้บริโภคใช้จ่ายอย่างระวัง

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยนักลงทุนยังรอดูทิศทางการเมืองในประเทศ หลังมีงด ประชุมโหวตนายกฯ 27 ก.ค. ส่งผลให้เกิดสุญญากาศทางการเมืองในระยะสั้น มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,520-1,530 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • 5 หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL CPALL SCB
  • หุ้นได้ประโยชน์ราคาน้ำมัน : PTTEP PTT BCP ESSO
  • หุ้นเชื่อมโยงการเมือง : STEC STPI SIRI SC SKY
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์อินเดียระงับส่งออกข้าว : PRG UVAN CPI VPO

หุ้นรายงานพิเศษ

ARROW ( “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 23 เท่ากับ 8.00 บาท) ได้อานิสงส์จากการจัดตั้งรัฐบาล

  • คาดผลประกอบการ 2Q23 จะฟื้นตัวดีขึ้น QoQ และ YoY จากสถานการณ์วัตถุดิบเหล็กที่ปรับตัวดีขึ้น ประกอบ กับการทยอยปรับราคาขาย ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการปี 2H23 มีแรงหนุนจากการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งจะส่งผล ให้อุตสาหกรรมก่อสร้างมีโอกาสฟื้นตัวโดดเด่น ตามการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐเราคงประมาณการรายได้ และกำไรสุทธิปี 23 เท่ากับ 1,515.15 ล้านบาท และ 127.3 ล้านบาท เติบโต +12.6%YoY และ +37.5%YoY ตามลำดับ
  • ความเห็น เราเชื่อว่าผลประกอบการเติบโตโดดเด่นในช่วง 2H23 หลังการจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จ เราประเมิน ราคาเหมาะสมถึง PER ที่ 16 เท่า (ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี) ภายใต้สมมติฐานประมาณการปี 23 ได้ราคาเหมาะสม เท่ากับ 8.00 บาท คงแนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) BEM (Bloomberg consensus 10.90 บาท) ศาลปกครองกลางยกฟ้องคดีปรับหลักเกณฑ์การประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มรอบ 2 ผู้ว่ารฟม.ย้ำรอเสนอครม. เห็นชอบผลประมูลรอบ 2 ก่อน กำหนดวันเซ็น BEM ลง พร้อมเร่งรัดเปิดใช้บริการศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี ใน 2 ปีครึ่ง นักวิเคราะห์ชี้ หากตั้งรัฐบาลไตรมาส 3 มีสิทธิเซ็น Q4 ชี้กำไร BEM โตแกร่ง เป้า 11.40 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SCGP (Bloomberg consensus 45.50 บาท) คาดครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรก ดีมานด์จะกลับมาดี ฐานธุรกิจโต เป้าปีนี้รายได้ 1.6 แสนล้านบาท แถมลุยปิดดีลปีนี้เพิ่ม ใจแจกปันผลหุ้นละ 0.25 บาท กำหนด XD รับทรัพย์ช่วง 8 สิงหาคมนี้ นักวิเคราะห์ชูเข้าไฮซีซันปักเป้า 49 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) LDC (Bloomberg consensus – บาท) พลิกเทิร์นอะราวด์กลับมามีกำไรต่อเนื่อง 6 ไตรมาส ติดต่อกัน  พร้อมล้างขาดทุนสะสมเกลี้ยง หลังปรับโครงสร้างต้นทุนครั้งใหญ่ ยกระดับมาตรฐานห้องทำฟัน ชูโมเดลทำฟันปลอดภัย จับกลุ่มกำลังซื้อสูง รับลูกค้าไทย-ต่างประเทศ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) APCO (Bloomberg consensus – บาท) ชูโปรดักต์ “วัฒนชีวาย้อนวัย”-พอร์ตลูกค้าโต หนุนครึ่งหลังปี 2566 ฟอร์มแจ่ม ส่วนปีนี้ตอกย้ำรายได้พุ่ง 30% จากปีก่อน อานิสงส์เทรนด์สุขภาพสดใส พร้อมใส่เกียร์ลุยทำตลาดอาหารเสริมชะลอวัยเต็มพิกัด อัพฐานยอดขายโต (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 26 ก.ค. กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ, การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน
  • 27 ก.ค. สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
  • 31 ก.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
  • 15 ส.ค. กำหนดวันสุดท้ายบจ.ส่งงบการเงินงวด 2Q66 สิ้นสุด 30 มิ.ย. 66

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 25-26 ก.ค. ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต-ภาคบริการ ขั้นต้นเดือนก.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล
  • 26 ก.ค. สหรัฐ รายงานยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • (เช้าวันที่ 27 ก.ค.) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงิน และแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
  • 27 ก.ค. จีน รายงานกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนมิ.ย .
    • ธนาคารกลางยุโรป (ECB) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย
    • สหรัฐ รายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2566 (ประมาณการเบื้องต้น) ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home Sales) เดือน มิ.ย.
  • 28 ก.ค. ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประชุมนโยบายการเงินและแถลงมติอัตราดอกเบี้ย
    • สหรัฐ รายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมิ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนก.ค.จากมหาวิทยาลัย มิชิแกน
- Advertisement -