บล.กรุงศรีฯ: IPO Report
SAMART AVIATION SOLUTIONS (SAV TB/ SAV.BK)
SAV – ผู้บริหารการเดินอากาศในกัมพูชา
SAV เป็นบริษัทที่ลงทุนใน CATS ซึ่งเป็นผู้บริหารการจราจรทางอากาศในกัมพูชาที่ได้สัมปทานจากรัฐบาลกัมพูชาผ่าน SSCA เพียงผู้เดียวตั้งแต่ปี 2002 จนถึง ปี 2051 คาดบริษัทจะเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจการบินในภูมิภาคที่กำลังขยายตัวตามอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในภูมิภาคและกัมพูชา คาดกำไรสุทธิของ SAV จะเติบโตเฉลี่ย 25.2% CAGR ช่วงปี 2023F-2027F หนุนจากฐานที่ต่ำจากช่วงโควิด การเติบโตของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว เราประเมินมูลค่าด้วยวิธี DCF ได้มูลค่า 1.73 หมื่นล้านบาท
ผู้นำธุรกิจการเดินอากาศในกัมพูชา
SAV ดำเนินธุรกิจลงทุนใน CATS ซึ่งได้รับสัญญาสัมปทานจากรัฐบาลประเทศกัมพูชา ตั้งแต่ปี 2002 ถึงต.ค. 2051 CATS มีหน้าที่รับผิดชอบในการบริการบริหารจราจรทางอากาศครอบคลุมน่านฟ้าและห้วงอากาศทั้งหมดของประเทศกัมพูชา ในพื้นที่ดังกล่าวมีขนาดประมาณ 181,035 ตารางกิโลเมตร โดยมีเส้นทางบินระหว่างประเทศ จำนวน 18 เส้นทางบิน และภายในประเทศ จำนวน 20 เส้นทางบิน และมีสนามบินระหว่างประเทศและในประเทศอย่างละ 3 สนามบิน
โอกาสการเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจการบินในภูมิภาค
The Strategic Airport Planning Group ซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้แก่สนามบินและสายการบิน คาดการว่าเที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงในประเทศ จะมีการเติบโตตามอัตราการเติบโตของ GDP ของประเทศกัมพูชา ตั้งแต่ปี 2022 – 2027F ประมาณ 8.5% ต่อปี และ เที่ยวบินที่บินขึ้น-ลงระหว่างประเทศ และเที่ยวบินที่บินผ่านเขตน่านฟ้ากัมพูชา จะเติบโตตามประมาณการ GDP ประเทศกำลังพัฒนา (Emerging market) ในทวีปเอเชีย ประมาณ 6%-8% ต่อปี
ผลประกอบการก้าวกระโดดในช่วง 2023F – 2027F CAGR 25.2%
เราคาดการเติบโตกำไรสุทธิของ SAV จะเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ที่ระดับร้อยละ 25.2% ใน ช่วงเวลา 2023F-2027F โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจาก (i) การเติบโตของรายได้ Overflight จากการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาค (ii) การเติบโตของรายได้ landing and take-off ทั้ง International และ Domestic จากการฟื้นตัวของ ภาคการท่องเที่ยวในกัมพูชา (iii) การประหยัดต่อขนาดของกลุ่มบริษัทฯ จะหนุนให้อัตรากำไรเพิ่มสูงขึ้นในอัตราเร่งตัว
ประเมินมูลค่าบริษัทด้วยวิธี DCF ได้มูลค่าบริษัทที่ 1.73 หมื่นล้านบาท
เราตั้งสมมติฐาน Risk-free rate ที่อัตราร้อยละ 3.5 และ Risk premium ร้อยละ 8.0 โดยในส่วนของ Beta เราประเมินจากค่า ที่ 1.0x โดยเทียบกับบริษัทที่มีการดำเนินธุรกิจที่ใกล้เคียง ซึ่งมีค่า Beta อยู่ที่ราว 0.73x-1.20x ขณะที่โครงสร้างทางการเงินของบริษัทจะไม่มีหนี้ หลังจาก IPO จะได้ Weighted average cost of capital (WACC) ที่ 11.5% โดยการประเมินค่าคิดลดเงินสดในปี 2023F จนถึงปี 2051F (ปีที่สิ้นสุด สัมปทาน) จะได้มูลค่าที่ 1.73 หมื่นล้านบาท