บล.บัวหลวง:
Commodities – ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น (NEUTRAL)
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และส่วนต่างราคา ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบและราคาถ่านหิน และส่วนต่างราคาปิโตรเคมีส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้าม BDI ปรับตัวลดลง เรายังคงชอบ TOP และ IVL มากที่สุดในกลุ่ม รวมทั้ง มองเห็นโอกาสในการเข้าซื้อเก็งกำไร SPRC
ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น WoW
ราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล WoW มาอยู่ที่ 80.6 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ PTTEP มากที่สุด) หนุนโดยคาดการณ์การผลิต shale oil ที่ลดลง และคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนของธนาคารกลางทั่วโลกจะสิ้นสุดลงในเร็วๆนี้
ค่าการกลั่นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง WoW
ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 1.53 เหรียญสหรัฐ WoW สู่ระดับสูงสุดในรอบสี่เดือนที่ 6.82 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หนุนโดยส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น อุปสงค์ ในเอเชียที่แข็งแกร่งขึ้น และสต็อกในสิงคโปร์ที่ลดลง ส่งผลให้ส่วนต่างราคาก๊าซโซลีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.60 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 20.34 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ SPRC มากที่สุด) นอกจากนี้ อุปสงค์ในภูมิภาคที่แข็งแกร่งขึ้น, อุปทานที่ตึงตัว, และสต็อกในสิงคโปร์ที่ลดลง ส่งผลให้ส่วนต่างราคาน้ำมันเครื่องบินและส่วนต่างราคาดีเซลปรับตัวขึ้น 1.25 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 18.03 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และ 1.33 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 20.06 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ตามลำดับ (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ TOP มากที่สุด) ในทางตรงกันข้าม ต้นทุนน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น และอุปสงค์จากจีนที่ชะลอตัว ส่งผลให้ส่วนต่างราคาน้ำมันเตาที่มีส่วนผสมของกำมะถันในระดับสูงปรับตัวลง 0.48 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ -6.22 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ส่วนต่างราคาเอริลีนและส่วนต่างราคาโพรพิลีนปรับตัวขึ้น WoW
ต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาที่เพิ่มขึ้น และแรงซื้อในเอเชียที่ปรับตัวดีขึ้น หนุนให้ราคาเอธิลีนและราคาโพรพิลีนปรับตัวขึ้น 20 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 755 เหรียญสหรัฐ/ตัน และ 5 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 740 เหรียญสหรัฐ/ตัน ตามลำดับ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบแนฟทา ปรับตัวขึ้น 1 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 581 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่งผลให้ส่วนต่างราคาเอธิลีนปรับตัวขึ้น 19 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 174 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ PTTGC มากที่สุด) และส่วนต่างราคาโพรพิลีนปรับตัวขึ้น 4 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 159 เหรียญสหรัฐ/ ต้น (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ IRPC มากที่สุด)
ส่วนต่างราคา HDPE และส่วนต่างราคา PP ปรับตัวขึ้น WoW
ต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นและอุปสงค์ในภูมิภาคที่แข็งแกร่งขึ้นส่งผลให้ราคา HDPE และราคา PP ปรับตัวขึ้น 10 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 980 เหรียญสหรัฐ/ตัน และ 30 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 930 เหรียญ สหรัฐ/ตัน ตามลำดับ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบแนฟทาปรับตัวขึ้นช้ากว่าราคาผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ส่วนต่างราคา HDPE เทียบกับแนฟทาปรับตัวขึ้น 9 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 399 เหรียญ สหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ PTTGC มากที่สุด) และส่วนต่างราคา PP ปรับตัวขึ้น 29 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 349 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ IRPC มากที่สุด)
ส่วนต่างราคา MEG ปรับตัวลง แต่ส่วนต่างราคา PVC ปรับตัวขึ้น WoW
ต้นทุนวัตถุดิบเอธิลีนที่ปรับตัวขึ้นส่งผลให้ราคา MEG ทรงตัว WoW อยู่ที่ 490 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากต้นทุนเอธิลีนปรับตัวขึ้น ส่วนต่างราคา MEG จึงปรับตัวลง 13 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 14 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงลบต่อ PTTGC มากที่สุด) ในขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบเอธิลีนที่เพิ่มขึ้น และอุปสงค์ในภูมิภาคที่ปรับตัวดีขึ้นหนุนให้ราคา PVC ปรับตัวขึ้น 40 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 820 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากต้นทุนเอธิลีนปรับตัวเพิ่มขึ้นช้ากว่าราคาผลิตภัณฑ์ ส่วนต่างราคา PVC จึงปรับตัวขึ้น 30 เหรียญสหรัฐ WoW มาอยู่ที่ 443 เหรียญสหรัฐ/ตัน (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ PTTGC มากที่สุด)
ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้นเล็กน้อย WoW
ดัชนี Newcastle Export Index (NEX) ซึ่งเป็นค่าอ้างอิงสำหรับราคาถ่านหินที่ใช้ทำความร้อนในเอเชียแปซิฟิก ปรับตัวขึ้น 1.2 เหรียญสหรัฐ/ตัน (เพิ่มขึ้น 1% WoW] มาอยู่ที่ 130.1 เหรียญสหรัฐ/ตันในสัปดาห์ ที่ผ่านมา (ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อ BANPU มากที่สุด) หนุนโดยอุปสงค์จากจีนที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ความกังวลเกี่ยวกับการอุปทานจากอินเดียและอินโดนีเซียที่เพิ่มขึ้นอาจจํากัดขนาดของการฟื้นตัวในบางส่วน
BDI อ่อนตัว WoW
ดัชนีค่าระวางเรือเทกอง (BDI) ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงสำหรับอัตราค่าระวางเรือเทกอง ซึ่งประกอบด้วยดัชนี Capesize, Panamax และ Supramax ลดลง 54 จุด (ลดลง 5% WoW) มาอยู่ที่ 1,014 จุด นำโดยดัชนี Capesize และ Panamax ที่ลดลง ดัชนี Capesize ลดลง 128 จุด (ลดลง 8% WoW) มาอยู่ที่ 1,495 จุด ขณะที่ดัชนี Panamax ปรับตัวลง 61 จุด (ลดลง 6% WoW) มาอยู่ที่ 1,000 จุด ในทางตรงกันข้าม ดัชนี Supramax ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำหรับผู้ประกอบการเรือเทกองของไทย (PSL, TTA) ปรับตัวขึ้น 17 จุด มาอยู่ที่ 752 จุด
