บล.บัวหลวง:
Bank – การเติบโตแกร่ง มูลค่าหุ้นถูก (OVERWEIGHT)
การเติบโตแกร่ง มูลค่าหุ้นถูก
เราคาดการเติบโตของกำไรรวมกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำที่ 15% YoY ในปี 2566 หนุนจากการปล่อยสินเชื่อและ NIM ที่ขยายตัว คุณภาพสินทรัพย์ยังคงดี มูลค่าหุ้นอยู่ในระดับถูก เราให้นํ้าหนักการลงทุนมากกว่าตลาด โดยเราชอบ BBL และ SCB มากที่สุดในกลุ่ม
กําไรรวมไตรมาส 2/66 สูงกว่าประมาณการของเรา
ธนาคารทั้ง 7 บริษัทที่เราให้คำแนะนำ รายงานกําไรรวมไตรมาส 2/66 ที่ 5.21 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% YoY และ 4% QoQ กำไรรวมมากกว่าที่เราคาด 8% และมากกว่าตลาดคาด 5% กำไรของ SCB, TTB, KTB และ BBL ดีกว่าที่เราคาด ส่วนใหญ่เป็นเพราะ NIM ที่มากขึ้น และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยรวมที่สูงขึ้น (ส่วนใหญ่เป็นกำไรจากราคาตลาดของเครื่องมือทางการเงินที่สูงขึ้น) มากกว่าคาด ในทางตรงกันข้าม ผลประกอบการของ KKP ต่ำกว่าที่เราคาด 27% สาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองฯ ที่เพิ่มขึ้น และการขาดทุนจากการขายรถยนต์ที่ถูกยึดมากกว่าคาด กำไรของ KBANK และ TISCO เป็นไปตามที่เราคาด
คุณภาพสินทรัพย์ยังคงดี
หนี้เสียโดยรวม ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2566 อยู่ที่ 4.39 แสนล้านบาท ลดลง 8% YoY และ 1% QoQ เนื่องจากการบริหารหนี้เสีย (เช่น การปรับ โครงสร้างหนี้และการขายหนี้เสีย โดยเฉพาะของ KBANK KTB และ SCB) สัดส่วนหนี้เสียต่อสินเชื่อรวมลดลงจาก 3.68% ณ สิ้นเดือน มี.ค. 2566 มาอยู่ ที่ 3.61% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. อัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้เสียเพิ่มขึ้นจาก 183.8% ณ สิ้นเดือน มี.ค. มาอยู่ที่ 185.6% ณ สิ้นเดือน มิ.ย. ตัวเลขดังกล่าว บ่งบอกว่าคุณภาพสินทรัพย์ของกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำยังคงดีอยู่
กําไรรวมไตรมาส 3/66 จะเพิ่มขึ้น 11% YoY แต่ลดลง 5% QoQ
เราคาดกําไรรวมกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำในไตรมาส 3/66 ที่ 49.7 พันล้านบาท (รูปที่ 1) เพิ่มขึ้น 11% YoY (แต่ลดลง 5% QoQ เนื่องจากกำไรจากราคาตลาดของเครื่องมือทางการเงินที่ลดลง QoQ) กำไรที่เพิ่มขึ้น YoY ที่อิงจากการเติบโตของสินเชื่อโดยรวมที่ 1.0% YoY (และ 1.4% QoQ) NIM เฉลี่ยในไตรมาส 3/66 จะเพิ่มขึ้น 42bps YoY และ 5bps QoQ ปัจจัยดังกล่าวจะกลบผลกระทบของอัตราการตั้งสำรองเฉลี่ยของกลุ่มธนาคาร ที่เราให้คําแนะนําที่ 1.43% เพิ่มขึ้น 15 bps YoY แต่ลดลง 14bps QoQ เราคาดว่า BBL เป็นผู้นำการเติบโตของกำไร YoY ในไตรมาส 3/66 ตามมาด้วย KTB TTB และ SCB ส่วน TISCO และ KBANK มีแนวโน้มรายงานกำไรทรงตัว YoY และ KKP มีแนวโน้มรายงานกำไรลดลง YoY นอกจากนี้ สําหรับปี 2566 เราคาดกำไรรวมที่ 1.9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% YoY หนุนโดยสินเชื่อและ NIM ที่ขยายตัว เราคาดกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 2.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% YoY
มูลค่าหุ้นถูกและผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดี
ธนาคารทั้ง 7 บริษัทที่เราให้ค่านำแนะมีค่าเฉลี่ย PER ปี 2566 ที่ 8.4 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ของกลุ่มธนาคารที่เราให้คำแนะนำอยู่ 1.1 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) และเราคาดการณ์อัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีของกำไรปี 2566- 68 ที่ 11.0% ซึ่งคิดเป็นอัตราส่วน PEG ที่ 0.8 เท่า โดยค่าเฉลี่ย PBV ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 0.8 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีอยู่ 0.7 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) ซึ่งถือว่าราคาถูก เรายังคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ยมากกว่า 5%