บล.ฟิลลิป:
BBL : กำไร 2Q66 New high ตามคาด
ซื้อ TP’66: 191.00
สินเชื่อที่ฟื้นตัว ประกอบกับประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลดีต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย และทำให้กำไร 2Q66 ทำ New high ตามคาด NPL ที่ลดลง ในขณะที่การตั้งสำรองยังอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาสก่อน ส่งผลให้ BBL กลับมาเป็นธนาคารที่มีสัดส่วนสำรองต่อ NPL สูงที่สุดในกลุ่มอีกครั้ง คงประมาณการกำไรปี 66 คงราคาพื้นฐาน 191 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ”
งบรวม | 2Q66 | 1Q66 | 2Q65 | % y-y | % q-q | 6M66 | 6M65 | % y-y |
กําไร | 11,294 | 10,129 | 6,961 | 62.2 | 11.5 | 21,423 | 14,079 | 52.2 |
EPS | 5.92 | 53.31 | 3.65 | 62.2 | 11.5 | 11.22 | 7.38 | 52.2 |
หมายเหตุ: กำไร = ล้านบาท, EPS = บาท
- กำไร 2Q66 ทำ New high เพิ่มขึ้น 62.2% y-y และ 11.5% q-q: BBL รายงานกำไร 2Q66 11.3 พันลบ. เป็นไปตามคาด โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ประกอบกับมีกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มสูงขึ้น และมีการตั้งสำรองในระดับเดียวกับ ไตรมาสก่อน
- สินเชื่อฟื้นตัว และลด NPL ลงได้: สินเชื่อของ BBL ในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 2.2% q-q และทำให้สินเชื่อกลับมา เติบโตได้ 0.6% ytd โดยมาจากสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ และสินเชื่อต่างประเทศ นอกจากนี้ BBL ยังสามารถ ลุด NPL ลงได้เหลือ 2.9% จาก 3.1% ในไตรมาสก่อน โดยยังมีการตั้งสำรองในระดับเดียวกับไตรมาสก่อน ซึ่งทำให้สัดส่วนสำรองต่อ NPL ขึ้นมาเป็น 264% และจะทำให้ BBL กลับไปเป็นธนาคารที่มีสัดส่วนสำรองต่อ NPL สูงที่สุดในกลุ่มอีกครั้ง
- คงประมาณการ และราคาพื้นฐาน แนะนำ “ซื้อ”: ยังคงประมาณการกำไรปี 66 ไว้ที่ 41.7 พันลบ. เพิ่มขึ้น 42.2% y-y และยังคงราคาพื้นฐาน 191 บาท ยังมีส่วนต่างเหลือพอสมควร และมองว่า BBL เป็นธนาคารที่ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาขึ้นมากที่สุด ยังคงแนะนำ “ซื้อ”