วันนี้คาดตลาด “Sideways”
แนวรับ 1,520 / 1,507 แนวต้าน 1,535 / 1,545 ประชุม FED ออกมาตามคาด แต่ส่งสัญญาณเปิดกว้างในการขึ้นดอกเบี้ยครั้งหน้า ทางด้านการเมืองในประเทศลุ้นจัดตั้งสำเร็จภายในกลางเดือนหน้า
Our View? “อดทนรอฝนซา”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1,520 / 1,507 และแนวต้านที่บริเวณ 1,535 / 1,545 เมื่อคืนนี้ที่ประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.25-5.50% ตามที่ตลาดคาดไว้ โดยระบุว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวขึ้นเล็กน้อย ขณะที่การจ้างงานแข็งแกร่งในหลายเดือนที่ผ่านมา แต่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในช่วงขาขึ้น พร้อมทั้งยังส่งสัญญาณเปิดกว้างเกี่ยวกับทิศทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไป โดยจะพิจารณาถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจต่างๆ ในขณะนั้น แต่ส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะไม่ลดอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ และคาดว่า FED จะสามารถบรรลุเป้าหมายให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป Soft Landing โดยคาดว่าจะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มชะลอตัวลงในช่วงปลายปีนี้ และคาดจะไม่เผชิญภาวะถดถอย เรามองเป็นปัจจัยบวกกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุนที่มีต่อทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงได้
ทั้งนี้ Dollar Index เริ่มอ่อนตัวลง เช้านี้อยู่ที่ระดับ 101.26 พร้อมทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ (US Bond Yield) โดยรุ่นอายุ 2 ปี และ10 ปี ชะลอตัวลงอยู่ที่ระดับ 4.85%+/- และ 3.87%+/- ตามลำดับเป็นสัญญาณถึงตลาดที่เปิดรับความเสี่ยงได้มากขึ้น Risk-on อย่างไรก็ดีเราแนะนำติดตามการรายงานตัวเลข GDP 2Q’66 คาดจะออกมา 1.8% และตัวเลขดัชนีรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน มิ.ย. คาดจะออกมาที่ระดับ 0.2%MoM และ 3.0%YoY ฟื้นตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ในภาพการชะลอตัวลงแบบค่อยเป็นค่อยไป
ทางด้านราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.ย. เมื่อคืนนี้ชะลอตัวลงบ้างเล็กน้อย ปิดที่ระดับ 78.78 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.85 ดอลลาร์ (-1.07%) เผชิญแรงขายทำกำไร จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐยังคงเปิดกว้างในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือน ก.ย. อีกทั้งตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้วออกมาลดลงเพียง 6.00 แสนบาร์เรล ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 2.12 ล้านบาร์เรล สอดคล้องกับสต็อกน้ำมันเบนซินลดลงเพียง 7.86 แสนบาร์เรล ต่ำกว่าที่ตลาดคาดที่ว่าจะลดลง 1.59 ล้านบาร์เรล สะท้อนอุปสงค์น้ำมันในสหรัฐอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดไว้ กระตุ้นแรงขายทำกำไรระยะสั้นได้บ้าง อย่างไรก็ตาม เรายังคงมองส่งสัญญาณในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์จีน ควบคู่ไปกับการกระตุ้นการอุปโภคบริโภคภายในประเทศจีน คาดจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบในจีนฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ ขณะที่เรายังมองอุปทานน้ำมันดิบยังค่อนข้างตึงตัวจากการที่กลุ่ม OPEC+ นำโดยซาอุดิอาระเบียและรัสเซียยังลดอุปทานนํ้ามันลงต่อเนื่อง เรามองเป็นปัจจัยบวกหนุนทิศทางหุ้นในกลุ่มพลังงานโดยเฉพาะกลุ่มพลังงานต้นน้ำ (PTTEP, TOP และ SPRC) ฟื้นตัวขึ้นได้ต่อ
ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศ เรายังคงคาดตลาดยังมีปัจจัย Overhang จากการเมืองภายในประเทศ จากการจัดตั้งรัฐบาลที่ช้ากว่าที่ตลาดคาดไว้ โดยเรามองความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาล คาดจะส่งผลให้การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีล่าช้า รวมทั้งการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งการลงทุนจากภาครัฐและการกระตุ้นการบริโภคล่าช้าออกไปต่อ ลดทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ เป็นปัจจัย Overhang ทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ต่อ อย่างไรก็ดีการส่งสัญญาณเตรียมเดินทางกลับประเทศไทยของคุณ ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 10 ส.ค. นี้คาดจะส่งผลให้ตลาดเริ่มพูดถึงแนวโน้มในการพรรคเพื่อไทย คาดจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จได้ในช่วงเวลาดังกล่าวหรือก่อนเวลาดังกล่าว มองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นไทยได้ในระยะถัดไป อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองที่คาดหากพรรคก้าวไกลไม่สามารถเป็นแกนนำหลักในการจัดตั้ง ทำให้เราคาดว่าบรรยากาศการเมืองนอกสภาจะมีความวุ่นวายผ่านการชุมนุมทางการเมืองต่างๆ รัฐบาลได้เพิ่มมากขึ้น คาดส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงเป็นเครื่องยนต์หลักในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ รวมทั้งการที่เศรษฐกิจจีนพื้นตัวช้ากว่าที่ตลาดประเมินไว้ คาดจะส่งผลให้การเดินทางออกท่องเที่ยวต่างประเทศ โดยเฉพาะอาเซียนรวมถึงไทยที่พึ่งพานักท่องเที่ยวจีนในระดับสูงได้รับผลกระทบ โดยอาจเห็นการปรับประมาณการนักท่องเที่ยวจีนลง ทั้งนี้เมื่อวานนี้เราเริ่มเห็นกระทรวงการคลังปรับลดรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติลงอยู่ที่ระดับ 1.25 ล้านล้านบาท จากเดิมที่ระดับ 1.30 ล้านล้านบาท ตามนักท่องเที่ยวจีนมาน้อยกว่าคาด มองเป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม (AOT, AAV, BA, CPN, MINT, ERW และ CENTEL) ได้
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนําวันนี้ “THCOM”
- มองผลประกอบการ 2Q’66 คาดจะขยายตัว YoY แต่ยังลดลง QoQ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าราคาจะได้รับแรงหนุนจากการจัดตั้งรัฐบาลจุดใหม่ กระตุ้นความหวังในการได้งานใหม่เพิ่มมากขึ้น
- ทางเทคนิค ราคายืนเหนือ EMA200 วัน ทำจุดสูงสุดใหม่พร้อม Vol. หนาแน่น MACD และ SSTO ให้สัญญาณซื้อ
- กลยุทธ์ เก็งกำไร แนวรับ 12.70 / 12.30 Target 13.60 / 14.40 Stop <12.00