บล.กรุงศรีฯ:
B.GRIMM POWER (BGRIM TB/ BGRIM.BK)
กลุ่มอุตสาหกรรม | พลังงานและสาธารณูปโภค |
หุ้น | BGRIM |
มูลค่าพื้นฐาน | 32.00 |
คำแนะนำ | HOLD |
เรายังคงคำแนะนำถือ BGRIM และประเมินราคาเป้าหมาย (กลางปี 2024) ที่ 32 บาท เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะโตถึง 355% yoy เนื่องจาก margin ที่เพิ่มขึ้นจากการขายไฟฟ้าให้กับผู้ใช้ไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรม (IUs) เพราะ i) รายได้จาก IU เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวหลัง COVID (+19.9%yoy) และ ii) มีการขึ้นค่า Ft (+562% yoy) เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 1H23F จะอยู่ที่ 1.0 พันล้านบาท (+479% YoY) คิดเป็น 56% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา เรายังคงประมาณการกำไรจากธุรกิจหลักในปี FY23F เอาไว้ที่ 1.8 พันล้านบาท (+479% YoY) ทั้งนี้ ราคาหุ้นในปัจจุบันคิดเป็น PE ที่ 50x ยังแพงซึ่งไม่สอดคล้องกับอัตราการเติบโตของกำไรที่คาดว่าจะโตเพียง 19% CAGR ในช่วงปี 2023-2025
คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 2Q23F จะฟื้นตัวขึ้นทั้ง YoY และ QoQ
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักของ BGRIM ใน 2Q23F จะอยู่ที่ 669 ล้านบาท (+355% yoy, +76% qoq) โดยกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก YoY จะเป็นเพราะ i) รายได้จาก IU เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวหลัง COVID (+19.9%yoy) และ ii) มีการขึ้นค่า Ft (+562% yoy) ส่วนกำไรที่ฟื้นตัวขึ้น QoQ จะเป็นเพราะต้นทุนก๊าซลดลง (-13% qoq) เราคาดว่าปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้กับ กฟผ. จะอยู่ที่ 2.35 GWh (+2.4% yoy, +11% qoq) จากโครงการ BGPM1-2R (60MW ซึ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนมีนาคม 2023) และ 900 GWh สำหรับผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรม เราคาดว่าบริษัทจะมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน 20 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำไรสุทธิใน 2Q23 อยู่ที่ 649 ล้านบาท (+436% yoy, +63% qoq)
กำไรจากธุรกิจหลักใน 2H23 ยังคงได้อานิสงส์จากต้นทุนก๊าซที่ลดลง
เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักใน 1H23 จะคิดเป็น 56% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา แต่อย่างไรก็ตาม เรายังเป็นห่วงอุปสงค์จาก IU เพราะอัตราการใช้กำลังการผลิตในภาคอุตสาหกรรมงวด 5M23 ยังอยู่ที่ระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยก่อน COVID ระบาด ในขณะที่ PMI ของสหรัฐ จีน และญี่ปุ่น (ตลาดส่งออกหลักของไทย) มีแนวโน้มแย่ลงในอีกสองสามไตรมาสข้างหน้า เราคาดว่า กกพ. จะประกาศค่า Ft สำหรับเดือนกันยายน-ธันวาคม 2023 ภายในต้นสัปดาห์หน้าที่ 66.9 ส.ต./kWh ลดลงจาก 91.89 ส.ต./kWh
คงคำแนะนำถือ และประเมินราคาเป้าหมายที่ 32 บาท
อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะยังโต (yoy) ได้ในอีกสองสามไตรมาสข้างหน้า เรามองว่าราคาหุ้นในปัจจุบันยังแพง โดยคิดเป็น PE ปี 2023 ที่ 50x และ PE ปี 2024F ที่ 41x ในขณะที่คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะโตเพียง 19% CAGR ในช่วงปี 2023-2025F เท่านั้น